สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ผู้เขียนจะมาเขียนถึงวิธีทำลาบปลาตะเพียนแบบทางภาคอีสานให้ได้อ่านกันครับ เพราะพอดีว่าเมื่อวันก่อน ญาติที่มาเยี่ยมได้เอาปลาตะเพียนที่เลี้ยงไว้ในสระมาฝากหลายตัวเลย ซึ่งปลาตะเพียนนั้นได้ชื่อว่าเป็นปลาที่มีก้างเยอะ ทำให้จะไปแกงไปย่างก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่ถ้าทำเป็นลาบจะไม่มีก้างมากวนใจในเวลากินอย่างแน่นอน มาดูวิธีทำกันเลยครับ ส่วนผสม ปลาตะเพียน น้ำปลาร้า ข้าวคั่ว พริกป่น ต้นหอมและผักชี ข่าเผาไฟ 1 แง่ง น้ำปลาและผงชูรส (เครื่องปรุงไม่มีการตวงนะครับ อาศัยชิมรสเอาตามความชอบ) วิธีทำ ก่อนอื่นนำน้ำปลาร้าผสมกับน้ำเปล่าใส่หม้อขึ้นตั้งไฟเลยครับ แต่อย่าใส่ปลาร้าเยอะจนเค็มนะ เอาแค่ชิมแล้วได้รสกลมกล่อมและได้กลิ่นหอมของปลาร้าแค่นั้น พอเดือดแล้วก็ยกลงพักไว้ รอผสมกับเนื้อปลาตะเพียนของเรา นำปลาตะเพียนทั้งหมดมาขอดเกล็ด ตัดครีบและผ่าท้องควักไส้ออกให้หมด ตัดปลาหัวออกด้วยนะครับแล้วอย่าพึ่งทิ้งหัวมันไปล่ะ เพราะส่วนหัวเราจะนำไปย่างไฟให้สุก เพื่อที่จะเอามาผสมกับตัวลาบปลาของเราด้วย จากนั้นนำปลาที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วไปล้างกับน้ำเปล่าให้สะอาด ต่อมาให้นำตัวปลาทั้งหมดมาสับให้ละเอียดโดยไม่ต้องแล่เนื้อออกก่อน เน้นว่าให้ละเอียดเลยนะครับ เพราะปลาตะเพียนนั้นจะมีก้างเยอะ ถ้าไม่ละเอียดจะทำให้เวลากินอาจมีก้างติดคอเราได้ พอสับจนละเอียดดีแล้ว นำหัวปลาที่ย่างสุกแล้วมาสับให้ละเอียดแบบเดียวกัน แล้วนำเนื้อปลาทั้งหมดใส่ลงไปในครก แล้วใช้สากโขลกให้เละและรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งหัวปลาย่างที่เอามาใส่จะทำให้ลาบของเรามีกลิ่นหอมขึ้นครับ จากนั้นตักน้ำปลาร้าต้มสุกใส่ลงไปผสมกับเนื้อปลา แล้วใช้สากคนให้เนื้อปลากับน้ำปลาร้าเข้ากัน เติมพริกป่นลงไป ตามด้วยข้าวคั่ว ผักชีกับต้นหอมซอย และข่าเผาไฟสับละเอียด คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปรงรสด้วยน้ำปลาและผงชูรส ชิมให้ได้รสชาติตามชอบเลยนะครับ โดยลาบปลาตะเพียนของทางบ้านผู้เขียนจะทำแบบมีรสเค็มนำนิด ๆ และไม่ใส่น้ำตาล เสร็จแล้วครับ เท่านี้ก็จะได้ลาบปลาตะเพียนมากินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ เป็นอาหารเย็นของวันนี้แล้ว ลาบปลาที่ทำนี้ยังเป็นลาบดิบอยู่นะครับ ซึ่งแถวบ้านผู้เขียนจะนิยมกินลาบปลาตะเพียนแบบดิบกันนะ แต่ผู้เขียนไม่กินดิบเพราะกลัวพยาธิ จึงได้นำไปคั่วให้สุกก่อน เวลากินจะได้กินอย่างสนิทใจ ส่วนผักที่นำมารับประทานร่วมกันกับลาบปลา สามารถนำผักสดทุกชนิดมากินร่วมกันได้เลย สำหรับบทความนี้ผู้เขียนได้กระถิน มะเขือเปราะ สะเดา และยอดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นพืชผักที่ปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้าน กินอร่อยเข้ากันกับลาบปลาตะเพียนมากเลยครับ รูปภาพและเนื้อหาเป็นของผู้เขียน