เชื่อกันว่าหลาย ๆ คนคงจะรู้จักมันม่วงกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับสำหรับมันม่วงในบ้านเราก็คือมันเทศสีม่วงเป็นพืชกินหัวโดยมันเทศสีม่วงจะมีการเพาะปลูกทุกภาคและต้องขอบอกเลยว่ามันเทศสีม่วงเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่ใช่น้อยทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมายอย่างต้านสารอนุมูลอิสระในกลุ่มของแอนโทไซยานินซึ่งจะพบเฉพาะในผักที่มีลักษณะเป็นสีม่วง สีแดงและสีน้ำเงินเท่านั้นดังนั้นเราไปดูประโยชน์ของมันเทศสีม่วงกันเลยดีกว่าครับ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่ามันเทศสีม่วงนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแอนโทไซยานินซึ่งมีสรรพคุณในการต้านการเกาะตัวของไขมันที่จะทำหน้าที่ยับยั้งการรวมตัวของตัวออกซิเจนกับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีจากกระบวนการออกซิเดชันจึงถือได้ว่ามันเทศสีม่วงนั้นจัดว่าเป็นอาหารที่ลดคอเลสเตอรอลได้อีกทั้งยังช่วยลดการเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันได้อีกด้วยนั่นเองครับ ช่วยในการต้านมะเร็ง จากงานวิจัยได้ค้นพบว่าสารสกัดจากแอนโทไซยานินในมันเทศสีม่วงนั้นมีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งได้อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแอนโทไซยานินที่พบในมันม่วงยังมีคุณสมบัติช่วยในการต้านมะเร็งลำไส้ได้โดยมีสารอาหารอย่างไฟเบอร์ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายจึงส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นจึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหารนั่นเอง ดังนั้นผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อย ๆ มันเทศสีม่วงก็เป็นตัวช่วยที่ดีมาก ๆ เลยนะครับ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างในมันเทศสีม่วงนั้นจะมีคุณสมบัติช่วยในการควบคุมการทำงานของโปรตีนกับน้ำตาลในระดับเซลล์ให้เป็นปกติจึงส่งผลให้เซลล์ในร่างกายของเรานั้นมีระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานกลับมาเป็นปกติได้ดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานควรหามันเทศสีม่วงมากินกันให้บ่อย ๆ นะครับ ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแอนโทไซยานินและสารฟลาโวนอยด์ที่พบในมันเทศสีม่วงจะมีคุณสมบัติด้วยในการดูดซับอนุมูลอิสระพร้อมทั้งช่วยชะลอความเสื่อมในร่างกายและสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ยังมีฤทธิ์ในการต้านรังสียูวีไม่ให้ทำร้ายผิวพรรณพร้อมช่วยกระตุ้นให้เส้นผมดำชะลอการเกิดผมหงอกไปพร้อม ๆ กันอีกด้วยนั่นเองครับ เมื่อหลาย ๆ คนทราบแล้วว่ามันเทศสีม่วงต่างก็มีคุณประโยชน์มากเพียงใดตามที่ผู้เขียนได้อธิบายกล่าวไว้ข้างต้นอย่าลืมหามากินกันบ่อย ๆ แล้วนะครับเพื่อสุขภาพที่ดี หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อใครหลาย ๆ คนไม่มากก็น้อยนะครับ ขอขอบคุณภาพจาก pexels : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 ภาพปกตัดต่อโดย : ผู้เขียน