ในยุคปัจจุบันเทรนด์การทานมังสวิรัติเพิ่มมากขึ้น และสะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก เราต่างเห็นได้ว่าผู้คนหลากหลายเริ่มหันมาลองทานมังสิวิรัติและสนใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย หลายคนมักคิดว่าการที่จะทานมังสวิรัตินั่นเป็นเรื่องยาก หรือกลัวที่จะขาดสารอาหาร แต่ผมขอบอกเลยว่า “ไม่ ” เริ่มต้นเราก็เคยมีความคิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่ชอบท้าทายตัวเองและลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เราเลยลองทานมังสวิรัติประเภททานนมและไข่เป็นเวลา 7 วัน แต่ก่อนที่จะทานเราหาข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการ และเริ่มลดการทานเนื้อสัตว์ลงก่อน และทานอาหารประเภทถั่วและเต้าหู้มากขึ้น พอรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้ว เราเลยเริ่มทานมังสวิรัติอย่างจริงจัง ช่วงสัปดาห์แรกที่ไม่ได้ทานเนื้อสัตว์เลย เราท้องร้องและหิวบ่อยมาก ตอนนั้นถ้าถามว่าคิดถึงเนื้อสัตว์ไหม เราขอตอบเลยว่า “ มาก ” ช่วงแรกใน 1 วัน เราเลยจำเป็นต้องกินอาหาร 3 มื้อหลัก และมื้อย่อยอีก 2 มื้อ เช่น ขนมปัง ธัญพีชอบกรอบ หลังจากผ่านไปสัปดาห์แรก เรารู้สึกอยากท้าทายตัวเองเพิ่มขึ้นอีกด้วยการทานมังสวิรัติเป็นเวลา 1 เดือน พอร่างกายเราเริ่มปรับตัวได้ การหิวบ่อยก็ลดน้อยลงและรู้สึกว่าอาหาร 1 มื้อสามารถทำให้อิ่มได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า “ ย่อยเร็วมากก! ” สำหรับเราการหาทานมังสวิรัติไม่ใช่เรื่องยากเลย ในปัจจุบัน ในหลายร้านอาหารและที่ต่างๆ มักมีเมนูอาหารสำหรับชาวมังสวิรัติ และร้านสำหรับชาวมังสวิรัติโดยเฉพาะอีกด้วย เช่น ร้าน KOKO ที่ สยามสแควร์ ซอย 3, ร้าน Veganerie Soul ที่ สยามพารากอน, Tony’s Restaurant ที่ พาหุรัดและอีกมากมายหลายร้านทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด นี้ก็เป็นเวลา 4 ปีแล้ว ที่เราเริ่มหันมาทานมังสวิรัติ สิ่งที่เราได้จากการทานมังสวิรัติ คือ สุขภาพที่ดี ( แต่ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะ ), การขับถ่ายที่ดีขึ้น บ่อยมากขึ้น, หลับสบายกว่าเมื่อก่อนมาก และสุดท้ายได้ช่วยลดการฆ่าน้องๆ สัตว์อีกด้วย พอย้อนมองตัวเองก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน ที่เราทานมังสวิรัติมา 4 ปี เพียงเริ่มต้นจากคำว่า “ อยากลอง ” สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากลองทานแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน เราขอแนะนำเพจ facebook : มังสวิรัติ ไว้เป็นเส้นทางในการเริ่มทานมังสวิรัติกันนะครับ รูปภาพ : unsplash