วันนี้มีสูตรขนมแสนอร่อยทำรับประทานแบบไม่รู้สึกผิด ที่ส่วนผสมของแป้งที่ทดแทนด้วย ข้าวโอ๊ต ที่มีคุณประโยชน์มากมาย เช่น ลดคอเลสเตอรอล,ลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง,มีสารต้านอนุมูลอิสระ,ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงรักษาระดับน้ำตาลในเลือด,ป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน,กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน,ควบคุมน้ำหนัก ฯลฯ เห็นผลดีของข้าวโอ๊ตแบบนี้แล้ว วันนี้เมนูขนมของเราก็คือ วาฟเฟิลกล้วยน้ำว้าแป้งข้าวโอ๊ต เมนูขนมที่ได้รัประโยชน์จากกล้วยและแป้งข้าวโอ๊ต มีประโยชน์ขนาดนี้ไปดูส่วนผสมวัตถุดิบและขั้นตอนการทำกันเลย วัตถุดิบ/ส่วนผสม 1. ข้าวโอ๊ต 2 ถ้วย 2. กล้วยน้ำว้าสุก หรือ งอม 6-7 ลูก 3. น้ำมันมะกอก 2 โต๊ะ 4. น้ำตาลไอซิ่ง 1 ถ้วย 5. กะทิ 250มิลลิลิตร 6. ไข่ไก่ 3 ฟอง 7. งาคั่ว ½ ถ้วย 8. นมข้นจืด 150มิลลิลิตร 9. ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา ขั้นตอนการทำ วาฟเฟิลกล้วยน้ำว้าแป้งข้าวโอ๊ต 1. นำข้าวโอ๊ตมาปั่นให้ละเอียดพักไว้ นำกล้วยสุกมาบดจนละเอียด แยกไข่ขาวไข่แดงพักไว้ 2. นำไข่แดงผสมกับกะทิและนมข้นจืดเทผสมและคนให้เข้ากันพักไว้ 3. นำกล้วยน้ำว้าที่บดแล้วผสมลงในภาชนะผสมที่มีไข่แดง/กะทิ/นมข้นจืด ใช้ตะกร้อมือตะล่อมให้เข้ากันเมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้วพักไว้ 4. นำข้าวโอ๊ตที่บดแล้วใส่ในอ่างผสมคนตะล่อมให้เข้ากับกล้วยน้ำว้า/ไข่แดง/กะทิ/นมข้นจืด ขั้นตอนนี้จะมีความเหนียวข้นดังนั้นต้องค่อยตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันและใส่น้ำมันมะกอก 5. เมื่อส่วนผสมของตัวแป้งเข้ากันแล้วให้ใส่น้ำตาลไอซิ่งและผงฟูลงไปและคนให้เข้ากันอีกครั้งและพักไว้ 6. ทำการตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน 7. นำไข่ขาวที่ตั้งยอดอ่อนค่อยๆตักออกมาใส่ในภาชนะที่มีแป้งผสมอยู่จนหมด 8. เมื่อตักไข่ขาวที่ตีจนขึ้นฟูย้ายมาใส่ภาชนะที่มีแป้งผสมหมดแล้วค่อยๆตะล่อมส่วนผสมทั้งสองให้เข้ากันอย่างเบามือ 9. นำงาที่คั่วแล้วเทใส่ในภาชนะที่มีแป้งผสมออยู่คนให้ตัวแป้งและงาเข้ากัน 10. ให้ตั้งเครื่องวาฟเฟิลโดยการวอร์มเครื่องให้ร้อนเมื่อเครื่องร้อนแล้วให้ตักแป้งวาฟเฟิลลงเตาวาฟเฟิลเกลี่ยให้ทั่วหน้าเตาและรอให้เครื่องทำงานจนกว่าจะมีสัญญาณไฟสีเขียวขึ้น เปิดเตาวาฟเฟิลขึ้น ก็จะได้วาฟเฟิลกล้วยน้ำว้าแป้งข้าวโอ๊ตแล้ว สามารถจัดเสริฟ์เป็นแผ่นใหญ่ทานคู่กับแยมและเนยถั่วหรือจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆทานคู่กับโกโก้ร้อนหรือเครื่องดื่มเย็นก็ได้ เห็นแบบนี้อยากรับประทานขนมแบบไม่รู้สึกผิดต้องลองวาฟเฟิลสูตรนี้เลยรับรองมีประโยชน์ อิ่ม สบายท้อง แบบไม่ต้องรู้สึกผิดแน่นอน :)) ภาพประกอบโดย : Columnist Daily (ผู้เขียน)