นัฐพร ไอศกรีมโฮมเมดสไตล์ไทยย่านชุมชนเก่าเขตพระนคร เข้มข้นด้วยวัตถุดิบและความใส่ใจในกระบวนการทำ ส่งต่อความหวานเย็นชื่นใจจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 70 ปี ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อนอบอ้าวมาโดยตลอด ยิ่งช่วงฤดูร้อนแบบนี้แทบจะนั่งอาบเหงื่อกันทั้งวันเลยทีเดียว อากาศแบบนี้ทำให้นึกถึงของกินหวานเย็นทั้งหลาย สายของหวานอย่างเราก็มักจะมีตัวเลือกอยู่ในใจมากมาย แต่สำหรับเรา 'นัฐพร' เป็นหนึ่งในร้านไอศกรีมย่านเมืองเก่าเจ้าประจำ เรียกได้ว่าแทบจะไม่พลาดต้องพาคนรอบตัวไปชิมทุกครั้งที่ไปแถวนั้นเลยค่ะ 'นัฐพร' ร้านไอศกรีมโฮมเมดขนาดเล็ก ที่นั่งจะเป็นโต๊ะไม้หน้าร้านจำนวนไม่ถึงสิบโต๊ะ ตั้งอยู่ในตึกแถวสไตล์เก่าบรรยากาศอบอุ่นตรงหัวมุมตึกในแพร่งภูธร นอกจากจำนวนผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่แวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสายตลอดวันจะเป็นเครื่องการันตีชั้นดีถึงความเป็นที่นิยมของร้านนี้ได้แล้ว หากมองไปภายในร้านจะพบกับหลักฐานความอร่อยและความประทับใจของผู้มาเยือนมาอย่างยาวนาน ทั้งสิ่งตีพิมพ์เก่าใหม่มากมาย เกียรติบัตร หนังสือพิมพ์ และหน้ารายการทีวี ทั้งฉบับไทยและภาษาอังกฤษที่อยู่ภายในกรอบแขวนอยู่จนเต็มผนัง รอให้ลูกค้ามาพิสูจน์กันว่าจะดีงามสมคำร่ำลือหรือไม่ รสสัมผัสของไอศกรีมร้านนัฐพรจะมีลักษณะเป็น 'เนื้อทราย' นั่นคือค่อนข้างร่วนและคงตัวได้ไม่นาน เนื่องจากทางร้านไม่ได้ใช้ครีมและส่วนผสมที่มีไขมันทรานส์ เมื่อเคี้ยวไอศกรีมแล้วจะให้สัมผัสเหมือนเคี้ยวเกล็ดน้ำแข็งละเอียด ซึ่งนอกจากตัวเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ทางร้านยังดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้อย่างเข้มข้นถึงใจ คำกล่าวที่ว่า 'วัตถุดิบคุณภาพดีจะนำมาซึ่งรสชาติที่ดี' ไอศกรีมของร้านนี้เป็นหลักฐานยืนยันคำกล่าวนี้ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว แม้จำนวนรสชาติของทางร้านจะมีไม่มากนัก แต่รสชาติของแต่ละรสต่างก็แสดงเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว หากใครอยากเพิ่มเครื่องเคียงให้ไอศกรีมรสโปรด ทางร้านก็มีให้เลือกเติมกันได้ 3 อย่างในราคาเพียง 5 บาท ไม่ว่าจะเป็น เผือก ข้าวโพด บาร์เล่ย์ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วทอง ลูกชิด และข้าวเหนียว เรามักจะคุ้นชินกับไอศกรีมที่เสิร์ฟมาเป็นก้อนกลม แต่กับ 'ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน’ (30 บาท) ถ้วยนี้ ทางร้านเสิร์ฟมาในลักษณะคล้ายกองน้ำแข็ง ซึ่งพอได้ลิ้มรสก็ถึงบางอ้อเลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เนื่องจากแทบไม่มีรสชาติของความมันกะทิหรือนมอยู่เลย จึงทำให้ยากที่จะคงตัวเป็นก้อนได้ มีแต่ความหอมหวานของน้ำมะพร้าวอ่อนที่ทำให้รู้สึกชื่นใจ เนื้อไอศกรีมบางเบา ไม่หนัก คล้ายกับไอศกรีมแบบซอร์เบท์ที่ทำจากผลไม้ โดยเน้นรสชาติของวัตถุดิบ และให้ความสดชื่น สามารถรับประทานต่อจากมื้ออาหารได้สบาย ๆ ไม่แน่นท้องเกินไป เป็นหนึ่งเมนูที่คนรักมะพร้าวอ่อนห้ามพลาดเลยนะคะ ‘ไอศกรีมมะม่วงมหาชนก’ (40 บาท) เป็นรสชาติผลไม้ไทยที่ทางร้านเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลมาใช้ได้อย่างลงตัว จึงทำให้ไอศกรีมรสนี้มีให้กินแค่หน้ามะม่วงเท่านั้นหรือประมาณช่วงเมษายนเป็นต้นไป เนื่องจากมะม่วงมหาชนกให้รสชาติหอมหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ส่งกลิ่นหอมสุกฟุ้งไปทั้งปาก หอมต่างจากมะม่วงน้ำดอกไม้ที่เราคุ้นเคยกัน ทำให้นึกถึงความสดชื่นของผลไม้เขตร้อน และอยากจะค่อย ๆ ละเมียดละไมตักตวงความสดชื่นนี้ทีละนิด จนรู้ตัวอีกทีก็กวาดซะหมดถ้วยแล้ว มาถึงรสโปรดที่คล้ายเป็นดัชนีชี้วัดส่วนตัวเลยว่า ถ้าร้านไหนจะมัดใจเราได้ อย่างน้อยต้องทำรสนี้ได้ดี ‘ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี’ (40 บาท) ซึ่งทางร้านได้เลือกใช้สตรอว์เบอร์รีสดลูกโตจากนิวซีแลนด์ ทำให้ได้กลิ่นที่ชัดแบบไม่สังเคราะห์ รสสตรอว์เบอร์รีของทางร้านไม่ได้ออกรสเปรี้ยวจัดแบบไอศกรีมสไตล์เชอร์เบท แต่เป็นรสหวานละมุนกำลังดี สีชมพูธรรมชาติไม่ได้มีการแต่งสี มีเนื้อสตรอว์เบอร์รีที่หลงเหลือจากการปั่นมาเป็นหลักฐานว่าทางร้านได้ใช้สตรอว์เบอร์รีแท้ที่ให้รสเปรี้ยวหวานสดชื่น ทำให้กินได้เรื่อย ๆ แบบไม่รู้สึกเลี่ยนเลย ถูกใจคอคนรักสตรอว์เบอร์รีมาก ๆ ค่ะ ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของทางร้านคือ 'ไอศกรีมชาเขียว' (40 บาท) ซึ่งมีให้เลือกถึงสามชนิดด้วยกัน ได้แก่ มัทฉะ รสชาติชาเขียวนมแบบที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นชินกับรสชาตินี้ดี ความพิเศษคือรสชาติของมัทฉะมีความเข้มข้นมาก แต่แทบไม่มีความขมเลย แม้แต่เด็กก็สามารถรับประทานได้ ถ้าใครเป็นแฟน Starbuck Green Tea Latte แบบเราละก็ห้ามพลาดชิมรสนี้เลย อีกสองรสชาติต่อมาจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบรับประทานรสหวานมากนัก เหมาะกับคนที่ชอบรสชาเข้ม ๆ รสชาติแรกที่อยากจะนำเสนอคือ เก็นไมฉะ ชาเขียวที่ผ่านกรรมวิธีการคั่วกับข้าวกล้องคั่ว ทำให้ได้กลิ่นหอมฟุ้งอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งรสชาติจะแตกต่างจากโฮจิฉะตรงที่ไม่ได้มีแค่กลิ่นหอมชาเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นหอมข้าวกล้องคั่วที่ช่วยเสริมรสชาติให้เข้มข้นขึ้นไปอีก เพียงแค่ยกมาเสิร์ฟตรงหน้าก็ได้กลิ่นข้าวกล้องคั่วโดดเด่นออกมาในทันที สำหรับรสสุดท้ายคือ โฮจิฉะ ชาเขียวที่ผ่านกรรมวิธีการคั่วจนออกเป็นสีน้ำตาล มีรสออกขมเจือฝาดเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่ารับประทานได้ไม่ยาก และมีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือความหอมของใบชาคั่วที่ถูกเสิร์ฟมาอย่างอัดแน่นในไอศกรีมลูกนี้ สำหรับสถานการณ์ในช่วงนี้ที่ควรงดเว้นการออกจากบ้าน ร้านนัฐพรก็มีขายไอศกรีมแบบกลับบ้านเช่นกัน มีทั้งแบบลูกเดี่ยวใส่ถาดโฟมสำหรับอร่อยคนเดียว หรือจะสั่งใส่กล่องกลับบ้านสำหรับอร่อยกับครอบครัว ร้านนี้ก็มีกล่องโฟมเก็บความเย็นให้บริการสำหรับลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่ครึ่งกิโลขึ้นไป โดยสามารถสอบถามได้ผ่านทางโทรศัพท์หรือ Facebook Fanpage ของทางร้านได้โดยตรง หากใครไม่สะดวกเดินทางไป ก็สามารถใช้บริการฝากพี่ ๆ Line Man ไปซื้อได้นะคะ ซึ่งทางร้านบอกว่าสามารถสั่งผ่าน Delivery ได้ทุกวันแบบไม่เว้นวันหยุดกันเลย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรตุนไว้ติดตู้เย็นสำหรับหน้าร้อนและสถานการณ์ที่ต้องอยู่แต่บ้านแบบนี้จริง ๆ สิ่งที่เราคาดหวังจากการกินไอศกรีมสักลูกนั่นคือ อย่างน้อยต้องนำเสนอรสชาติได้ตรงตามชื่อของตัวมันเอง ไม่ใช่เพียงแค่ดับร้อนหรือดับคาวปากได้เท่านั้น หากแต่ร้าน ‘นัฐพร’ ทำได้ดีมากกว่านั้น ทุกคำที่ได้กิน ทุกสัมผัสที่ได้ลิ้มรส ล้วนเต็มไปด้วยความเข้มข้นของวัตถุดิบที่กลมกล่อมลงตัว และทุกครั้งที่ได้กิน ทางร้านก็ยังคงมาตรฐานเดิมไว้ไม่มีเปลี่ยนแปลง ราคาสมเหตุสมผล จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติมานานหลายสิบปี ทำให้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ไว้วางใจได้ว่า หากต้องการกินไอศกรีมที่ดีสักลูกแล้ว ร้าน ‘นัฐพร’ แห่งแพร่งภูธร จะไม่มีทางทำให้เราผิดหวังแน่นอนค่ะ :-) นัฐพร ไอศกรีมกะทิสด พิกัด: https://goo.gl/maps/qAHoSSiTLAevqCMw6 เวลาทำการ: วันจันทร์ - เสาร์ 09.00 - 17.00 น. เว็บไซต์: นัฐพรไอศครีมกะทิสด โทรศัพท์: 089-826-5752