อาการร้อน ๆ แบบนี้ เราไม่พลาดจะจะส่งตรงความเย็นให้กับเพื่อน ๆ ผ่านร้านคาเฟ่น่ารักสุดวินเทจ ทีเด็ดที่บิงซู อย่างร้าน AT Ten cafe' สำหรับร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่หน้ารัก ตกแต่งแนววินเทจและโมเดลผสมผสายกันอย่างลงตัว โทนสีของร้านเป็นโทนสีน้ำตาลสบายตา เข้าไปข้างในแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจ เหมือนเปิดประตูจากไทยมาเกาหลี เข้ามาข้างในร้านแอรเย็นฉ่ำ มีที่นั่งหลายโซน ซึ่งเน้นเป็นโต๊ะและเก้าอี้แบบต่ำ ทำให้นั่งสบาย หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาจากการเรียน ช่วงเย็นได้เวลาปลดปล่อย เราละเพื่อนเลือกมาร้านนี้ เพื่อทานของหวานให้ร่างกายสดชื่น และได้เม้าท์มอย พูดคุยกันกับเพื่อน หลังจากที่เราโน้มตัวลงนั่งที่เก้าอี้ รู้สึกเหมือนได้ปล่อยวางความทุกข์ไว้ด้านหลัง เก้าอีที่ร้านนี้เป็นเบาะนุ่ม หุ้มด้วยหนังนั่งสบาย หลังจากที่เรานั่งไปได้สักก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบวางของและลุกขึ้นไปสอดส่อง หาเมนูที่น่ากินเพียงหนึ่งเดียว !! เราและเพื่อนอีกสามคน เลือกเป็นเมนู บิงซูสตรอเบอร์รี่ แบบจัมโบ้ไซส์ L ราคา 239 บาท นั่งห้องแอร์คูล ๆ ให้ใจคูลดาวน์ ใครที่มาทานร้านนี้ เราต้องขอบอกก่อนนะว่าจะรีบไม่ได้ เพราะพนักงานรับออเดอร์ พนักงานเสิร์ฟ ไปกระทั้งพนักงานทำอาหาร ก็คนเดียวกัน เป็นพี่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่คอยทำหน้าที่ทุกอย่างในร้าน ก่อนเราจะเข้ามานั่งทานก็เห็นพี่เขาหยิบผ่าผืนเล็ก ๆ พร้อมที่ฉีดทำความสะอาด เช็ดโต๊ะและเก็บจาน ยิ้มเล็กพร้อมทักทายพวกอย่างเต็มใจ นอกจากเสน่ห์ของการมาทานอาหารที่นี้จะเป็นการได้คุยกับเพื่อนแล้ว เราคิดว่าที่ร้านนี้ยังมีเสน่ห์จากบรรยากาศและการพูดคุยที่เป็นกันเองจากพี่พนักงานร้าน รอนาน ๆ ก็อาจจะบั่นทอนหัวใจ ~ รับรองว่ามาร้านนี้รอไม่นานขนาดที่จะบั่นทอนจิตใจแน่นอน เพียงแค่ 15-20 นาที พี่พนักงานคนสวย ก็ยกบิงซูไซส์ L ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับท็อปปิ้งละลานตามาเสิร์ฟ จากที่เราและเพื่อน ๆ กำลังเล่นเกมส์กันอย่างขมักเขม่น บิงซูก็มาขโมยความสนใจของเราจากเกมส์ สายตาเพื่อนแต่ละคนดูเป็นประกาย แย่งกันหยิบอาวุธ เป็นช้อนไม้เล็ก ๆ พร้อมลุย บิงซูเสิร์ฟมาในถาดไม้ ในหนึ่งถาดประกอบไปด้วย น้ำแข็งบิงซูเกล็ดเล็ก ๆ ราดด้วยซอสสตรอเบอร์รี่ และท็อปปิ้งมาด้วยสตอร์เบอร์รี่สด ท็อปปิ้งมีหลากหลายประมาณ 4 อย่าง ประกอบไปด้วย วิปปิ้งครีมหอมนม หวานมันกำลังดี สตรอเบอร์รี่รสเปรี้ยว มาชเมนโล่อันจิ๋วหลากสี และซีเรียลกรุบกรอบ วิธีการทานบิงซูของเราคือ ราดนมข้นหวาน ตามด้วยซอสสตอเบอร์รี่รสเปรี้ยว พร้อมท็อปปิ้ง แย่งกันทายหลาย ๆ คน ทั้งสนุก และอร่อยกว่าทานคนเดียวแน่นอน พูดถึงเสน่ห์ของบรรยากาศร้าน เราอยากเล่าย้อนไปก่อนที่ร้านจะมีการตกแต่งแบบทุกวันนี้ เราเคยมาทานร้านนี้ตอนปีหนึ่ง ตั้งแต่ยังไม่เปลี่ยนมือเจ้าของ ร้านนี้มีพื้นที่ขนาดและกาจัดตกแต่งทำให้ร้านดูแน่นขนัดตา มีโต๊ะให้นั่งเพียง 4 โต๊ะ แต่เมื่อผ่านมาประมาณ 2 ปีได้มีการเปลี่ยนชื่อร้าน และมีการจัดร้านใหม่แต่เป็นธีมเดิม การเปลี่ยนตำแหน่งของตู้ ครัว และการจัดตกแต่ง ทำให้ร้านดูโล่งน่านั่ง แถมยังทำให้โต๊ะมีมากขึ้น ดอกแห้งสีน้ำตาล กับการประดับร้านให้ดูแพง ร้านนี้มีการตกแต่ง ร้านด้วยของน่ารักที่หลายหลาย แต่ยังเป็นโทนสีสบายตา เช่น การเอาเครื่องดนตรีอูคูเลเล่มาวางตกแต่งร้าน ของตกแต่งชิ้นเล็ก น่ารักรวมไปถึงดอกไม้แห้ง ที่อยู่ในอนกันขวดโหล และวางในตระกร้าด้านนอก ถึงแม้จะไม่ใช้ดอกไม้ที่มีสีสัน เป็นแค่ดอกไม้แห้งสีน้ำตาล แต่เรามองไปแล้วกลับสบายตา รู้สึกอบอุ่น และด้วยของตกแต่งส่วนใหญ่เป็นแนวต่างประเทศ ทำให้การตกแต่งโดยรวมให้ความรู้สึกเก๋เหมือนอยู่ต่างประเทศ แต่อบอุ่นเหมือนอยู่ประเทศไทย มีการนำดอกไม้แห้งมาตกแต่ง ของตกแต่งร้านน่ารัก ๆ ชิ้นเล็กมารวมกัน ของหวานรสชาติอร่อย บรรยากาศดีต้องที่นี้ AT TEN CAFE’ เรื่องของหวาน เราขอรับรองว่าที่นี้ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน และที่สำคัญบรรยากาศดี เหมาะกับการมากับเพื่อน กับคนรัก หรือจะมานั่งคนเดียวก็ได้นะ ร้านนี้ไม่มีการจำกัดเวลาในการนั่งทานอาหาร มีเมนูมากมายให้ได้เลือกทาน ที่เราชอบที่สุดของร้านนี้ คือในทุก ๆ เดือนจะมี การจัดโปรโมชั่นลดราคาอาหาร มาน้อยแตกต่างกันไป แต่รับรองว่ามีโปรดี ๆ ทุกเดือน !! ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ ซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 7 แขวง จันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แผนที่ ร้านนี้เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. รีวิวโดยครูอิงลิชอิสมี