สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารัก อากาศบ้านเรายังร้อนอบอ้าวอย่างต่อเนื่อง ที่เขตบางแคบ้านฉัน ฝนตั้งเค้าอยู่หลายครา แต่ลมก็หอบเอาเมฆไปพรมน้ำฝนที่จังหวัดอื่นเสียทุกครั้ง ฤดูร้อนปีนี้บรรยากาศออกจะเงียบเหงา เพราะเราต้องงดการเล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อเฝ้าระวังการแพร่เชื้อโควิด-19 ฉันเห็นหลายบ้านที่มีลูกหลานวัยเด็ก พากันซื้อสระน้ำเป่าลมพลาสติก มานอนแช่น้ำเล่นเย็นใจคลายร้อน สนุกสนานกันในครอบครัว ไม่ต้องกลัวไปรับเชื้อจากนอกบ้าน สดชื่นตามสบายกันไปค่ะ แดดร้อนแรงอย่างนี้ ต้นพริกขี้หนูสวนในกระถางหน้าบ้านฉัน กำลังออกดอกออกผลดกเชียวค่ะ ต้นพริกพวกนี้ขึ้นจากเมล็ดพริกที่เหี่ยวจากในตู้เย็น ฉันมักเอาไปโรยใส่กระถางทิ้ง ๆ ไว้ เมื่อต้นโตอยู่ที่ไหนก็ต้องอยู่ที่นั่น ถ้าย้ายหรือแยกไปใส่กระถางใหม่เป็นไม่รอดทุกที บ้านฉันจึงมีต้นพริกขี้หนูสวนขึ้นกระจัดกระจายไปทั่ว มีให้เก็บกินได้ตลอด พริกขี้หนูเก็บจากต้นสดใหม่ หอมฉุนอย่าบอกใครเชียว โดยเฉพาะเมนูต้มยำนี่ขาดไม่ได้เลยนะคะคุณ เก็บพริกขี้หนูมาได้กำมือหนึ่ง กลิ่นหอมของพริกชวนให้ระลึกถึงเมนูแปลก ๆ ง่าย ๆ แต่อร่อยจัดจ้านประจำครอบครัวเราอีกอย่างคือ ' ต้มผู้กอง ' ฟังแต่ชื่อคงจินตนาการกันไปไหนต่อไหน ชื่อนี้มี story ที่มาค่ะ เรื่องราวถูกเล่าสืบทอดกันมาจากคุณพ่อสามีซึ่งเป็นนายทหารอากาศ ทำนองว่า ผู้กองพาเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านในยามดึกวันหนึ่ง คุณนายผู้กองไม่มีผัก ปลาอะไรเหลืออยู่ในตู้เย็นเลย นอกจากหมูสามชั้นกับผักดองกระป๋อง คุณนายจึงจำเป็นต้องต้มผักกระป๋องนั้นกับหมูสามชั้น แต่ก็พลิกแพลงเอาใจคุณผู้กองสามี ปรุงรสแกงจืดนั้นให้แปลงร่างกลายเป็นแกงแซ่บขึ้นมา ด้วยพริกขี้หนู น้ำปลา มะนาว เพื่อน ๆ ผู้กองต่างติดอกติดใจรสมือคุณนายผู้กอง ขอมาชิม ต้มผักดองกระป๋องที่บ้านผู้กองกันจนเรียกติดปากว่า ' ต้มผู้กอง ' บางตำนาน กล่าวว่า เมนูนี้มีแพร่หลายมาจากจังหวัดอ่างทอง ร้านอาหารมีชื่อเก่าแก่ขายดีมากร้านหนึ่ง ทำอาหารบริการลูกค้าจนใกล้เวลาปิดร้าน เวลาล่วงไปถึงห้าทุ่มกว่า แขกโต๊ะสุดท้ายในร้านเป็นนายตำรวจ วันนั้นอาเฮียขายดีจนไม่มีเหลือวัตถุดิบอะไรจะปรุงเมนูให้ลูกค้าได้อีก แต่ด้วยความเกรงใจนายตำรวจท่านนั้น เฮียเหลือบไปเห็นผักดองกระป๋องในตู้หน้าร้าน ด้วยประสบการณ์ขั้นเทพ เฮียจึงลงมือทำ ' ต้มเกี่ยมฉ่าย ' ( ผักดองกระป๋อง ) ใส่หมูบะช่อ แต่เพิ่มทีเด็ดด้วยการทุบพริกขี้หนู เหยาะน้ำปลา และบีบมะนาวลงไป หอมฟุ้ง น้ำลายพุ่งไปตาม ๆ กัน นายตำรวจชิมต้มเกี่ยมฉ่ายสูตรใหม่ของเฮียคำแรก ถึงกับตาลุกวาว ยกนิ้วโป้ง 2 นิ้วให้เฮีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เฮียจึงตั้งชื่อเมนูแซ่บซี๊ดนี้ว่า ' ต้มผู้กอง ' เรื่องราวเล่าขานทั้ง 2 เรื่อง อาจคลาดเคลื่อนกันบ้างตามกาลเวลา และความประทับใจของผู้เล่า หากแต่ทั้ง 2 เรื่องชูประเด็นอัจฉริยะภาพของแม่ครัวตัวจริง ที่ต้องฉลาดในการผสมผสาน จินตนาการรสชาติ แล้วดัดแปลงใช้วัตถุดิบที่หาได้ สร้างสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษได้อย่างลงตัว ในทุกสถานการณ์เฉพาะหน้า อันเป็นคุณสมบัติที่แม่ครัวทุกคนพึงมี ว่าแล้ว...ไปเข้าครัวกันเลยดีกว่าค่ะคุณ ๆ ขา วัตถุดิบ ผักดองกระป๋องชนิดใจผักล้วน 1 กระป๋อง หมูสามชั้น หรือ หมูบะช่อ แล้วแต่จะหาได้ พริกขี้หนูสวน มะนาว น้ำปลา เริ่มบรรเลงกันเลยนะคะ 1. หม้อขนาดเล็ก ใส่น้ำประมาณ 2 แก้ว ต้มให้เดือด 2. นำใจผักออกจากกระป๋อง หั่นชิ้นเล็กพอคำ 3. หมูสามชั้นหั่นชิ้นใหญ่หน่อย 4. ใส่ผักดอง หมูสามชั้น และน้ำผักดองลงไปต้ม ใช้ไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนหมูเปื่อย นุ่ม ( ถ้าใช้หมูบะช่อ ไม่ต้องเคี่ยวนาน ) 5. ทุบพริกขี้หนู บีบมะนาว น้ำปลา ลงในชาม ตักต้มเกี่ยมฉ่ายใส่ชาม ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟค่ะ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ดีเลิศ เป็นกับแกล้มแบบในตำนานก็แซ่บตาสว่าง เอร็ดอร่อย แบบประหยัดงบประมาณค่ากับข้าวไปได้อีกมื้อนะคะ ขอบคุณที่ร่วมอร่อยไปด้วยกัน พบกันตอนหน้าค่ะ * ภาพถ่ายทั้งหมดโดย ผู้เขียน *