ใครที่ไม่ได้มาเดอะมอลล์งามวงศ์วานนานแล้ว ถ้าผ่านมาในช่วงนี้คงมีตกใจกันบ้าง เพราะหลังการปิดให้บริการบางชั้นแล้วทยอยรีโนเวทครั้งใหญ่ พอเปิดมาใหม่อีกครั้งสวยงามชวนตะลึง เหมือนกลับมาเจอเพื่อนเก่าที่ผ่านศัลยกรรม จนแทบจะจำไม่ได้เลย โดยเฉพาะโซนแห่งการกินนั้น เหมือนเนรมิตสวรรค์น้อย ๆ เอามาไว้เต็มสองชั้น จากฟู้ดคอร์ท Gourmet Eats ที่ออกแบบอย่างอลังการที่ชั้น 6 รองรับสตรีทฟู้ดชื่อดังอัดแน่นกว่า 30 ร้าน เมื่อลงบันไดเลื่อนมาชั้น 5 จะตะลึงใจมากกว่ากับ Dinning Garden เขาจัดพื้นที่ได้สวยงามมากเป็นเหมือนสวนหลังบ้าน ตกแต่งแต่ละโซนด้วยสไตล์แตกต่าง ทุกมุมจัดวางเก้าอี้และชิงช้าน่านั่งไปหมด ที่สำคัญรวบรวมร้านอาหารยอดนิยมมาไว้ถึง 50 ร้าน แต่ละร้านก็ออกแบบให้ชวนรื่นรมย์ ให้อารมณ์เหมือนนั่งกินในสวนยุโรป วันนี้ฉันพาแม่กับหลาน ๆ มายืนหันรีหันขวางอยู่ที่ชั้นนี้ เพราะไม่รู้จะเลือกร้านอะไรดี มันสวยงามน่าเข้าไปเสียทุกร้าน สุดท้ายแม่ปรารภว่าอยากกินอาหารไทย พวกเราจึงตัดสินใจได้ หันไปเลือกร้านชื่อง่าย ๆ ร้าน “ป้อน” นี่ล่ะ แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าต้องเป็นอาหารไทยแน่นอน เพราะ "ป้อน" คือหนึ่งในคำไทยที่เข้าใจง่ายที่สุด จะมีใครที่เราจะป้อนอาหารให้นอกจากคนที่เรารัก ดังนั้นที่มาของร้านนี้น่าจะเกี่ยวพันกับครอบครัวเป็นแน่ เพื่อให้สิ้นสงสัยในเรื่องราว จึงคลิกเข้าไปอ่านประวัติที่เขาเขียนไว้ใน Facebook เจ้าของร้านอธิบายที่มาของคำว่า “ป้อน” ไว้ว่า “แม่และฉันใฝ่ฝันจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ถ้าถามว่าเคล็ดลับอาหารของแม่คืออะไร มันคือความใส่ใจทุก ๆ รายละเอียดของการทำอาหาร และจดจำความชอบของคนรับประทานอาหารทุก ๆ คนเหมือนคนในครอบครัว เรื่องราวที่ผ่านกาลเวลา มันจึงเป็นที่มาของคำว่า "ป้อน" ฉันจะป้อนสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่ฉันรัก" นอกจากที่มาของคำว่า "ป้อน" ซึ่งเจ้าของร้านยังเล่าเพิ่มเติมไว้ว่า คุณแม่พาเธอเข้ามากรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุสี่ขวบ ท่านมีฝีมือการทำอาหารเป็นพิเศษและมักทำอาหารด้วยความพิถีพิถัน คุณแม่จึงมักจะพาเธอซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปตลาดทุกเย็น และถ่ายทอดความรู้ในการเลือกสรรวัตถุดิบและวิธีปรุงอาหารเมนูต่าง ๆ ให้ลูกสาว สอนมาสอนไป จากการเป็นแค่ลูกมือช่วยแม่ในครัวเพราะถูกบังคับ นานวันเธอก็เริ่มหลงรักการทำอาหารเข้าจริง ๆ น่าดีใจที่เธอกับคุณแม่กลายมาเป็นเชฟคู่แม่ลูกเจ้าของร้านอาหารในฝันด้วยกัน เมนูอาหารในร้านนี้ทุกจานจึงให้ความรู้สึกของความเป็นบ้าน ที่ซึ่งสมาชิกครอบครัวทำอาหารอร่อย ๆ ด้วยกันเพราะความรัก เปิดเมนูเล่มใหญ่จึงละลานตาไปด้วยรายการอาหารมากมาย พร้อมแนบคำบรรยายชวนน้ำลายสอ แต่ละภาพล้วนน่ากินทั้งนั้น สุดท้ายเราช่วยกันสั่งมาได้ 4 อย่าง แกงส้มน้ำข้นไข่ชะอมกุ้งสด (195.-) ไข่ชะอมเนื้อแน่น ๆ มากับกุ้งสดตัวโต ๆ ในน้ำแกงร้อน ๆ ข้นเข้มสมชื่อ ข่าวว่าทางร้านโขลกเครื่องแกงเองใช้วัตถุดิบใหม่สด จึงได้รสชาติร้อนแรงแต่กลมกล่อม สะเต๊ะลือ (175.-) ชื่อเหมือนเมนูโบราณในวังที่ฉันเคยชิมมาก่อน พอแม่หยิบสะเต๊ะหมูนุ่มเสียบไม้ย่างใส่ปากเท่านั้นก็อุทานว่า “อร่อย” เนื้อหมูนุ่มนวลหมักมาอย่างได้รส กินคู่กับน้ำจิ้มที่ข้นเข้มและอาจาด เสริมความอิ่มคู่กันด้วยขนมปังปิ้งสดใหม่ จานนี้แม่ยกนิ้วให้ว่าอร่อยมาก ยำไข่มะตูมกุ้งสด (175.-) จานนี้จัดเต็มด้วยเครื่องเคราเยอะมาก ทั้งกุ้งตัวโต หมูสับ หอมเจียวกรอบ ๆ ใส่มาไม่ยั้ง และไข่มะตูมเยิ้ม ๆ น่ากิน รสชาติน้ำยำไม่รู้จะติอะไร สมแล้วที่เป็นเมนูแนะนำ คะน้าฮ่องกงหมูกรอบ (185.-) คะน้าฮ่องกงอวบ ๆ ใหญ่ ๆ มากับหมูกรอบรสชาติดี ราดซอสเห็ดหอมรสเข้มข้น จานนี้ถูกใจหนุ่ม ๆ วัตถุดิบของร้านนี้มาแบบใหม่สดเต็มคุณภาพ รสชาติอร่อยทุกจานที่สั่ง อาหารจัดว่าราคาสูง แต่ปริมาณก็สมราคา ไม่น่าแปลกใจที่ “ป้อน” วันนี้มีถึง 7 สาขาเข้าไปแล้ว ใครรักชอบอาหารไทยสไตล์อบอุ่นแบบนี้ขอแนะนำเลย จะยิ่งดีถ้าพากันไปทั้งครอบครัว โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบอาหารไทย รับรองจะถูกใจท่านอย่างแน่นอน ป้อน (Ponn) พิกัด : ชั้น 5 The Mall งามวงศ์วาน โทร. 097-183-5134 เวลาเปิด : 10:00 AM - 9:00 PM Facebook : Ponn Cafe เรื่อง / ภาพ : Miss Me