วันนี้เรามาทำ ยำแซ่บๆ รสชาติจัดจ้าน ตามแบบฉบับสไตล์ของคนไทยกันค่ะ เมนูนี้ทำได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก จะกินเป็นกับแกล้มก็ได้กับข้าวก็ดีค่ะ^^ ยำของเรานี้มีชื่อว่า หมึกตกหม้อ ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ =ส่วนผสมและเครื่องปรุง= หมึกสาย 500กรัม (สูตรนี้เราใช้หมึกสายค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบสามารถเปลี่ยนเป็นหมึกอื่นๆก็ได้นะคะตามชอบเลยค่ะ) หอมแดง 2 หัว (ในนี้ใช้หัวใหญ่นะคะ ถ้าหัวเล็กใช้ 4-5 หัว) ตะไคร้ซอย 2 ต้น พริกจินดา 12 เม็ด(หรือพริกขี้หนูสวนก็ได้ค่ะ) ผักชีฝรั่ง 1/2 ถ้วย ใบสาระแหน่ 1/2 ถ้วย น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ “ภาพประกอบโดยนักเขียน” “ภาพประกอบโดยนักเขียน” =วิธีทำหมึกตกหม้อ= 1.นำหมึกสายเอา ตา หมึก ปากหมึกและถุงหมึกออกให้เรียบร้อย แล้วนำไปล้างออกให้สะอาดค่ะ เคล็ด(ไม่)ลับ "หมึกสาย"เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ถ้าหากว่าล้างทำความสะอาดไม่ดีจะทำให้มีกลิ่นคาวได้ค่ะ ฉะนั้นเราจึงมีเคล็ดลับดีๆมาฝากกันค่ะ (ป.ล.วิธีนี้สามารถนำไปใช้กับหมึกได้ทุกชนิดเลยนะคะ) วิธีการก็คือเอาเกลือกับน้ำมะนาว หรือใครสะดวก เป็นเกลือกับน้ำส้มสายชูก็ได้นะคะ นำมาผสมคลุกเคล้าขยำกับตัวหมึกประมาณ 2-3 นาทีนะคะ จากนั้นเอาไปล้างออกด้วยน้ำสะอาดสัก 3-4 น้ำค่ะ เพียงแค่นี้หมึกของเราก็ไม่มีกลิ่นคาวแล้วค่ะ 2.ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดจัด จากนั้นนำหมึกสายที่เราล้างไว้มาลวก ลวกแป้ปเดียวก็พอนะคะ หรือจะจับเวลาก็ ประมาณ 15-30 วินาทีค่ะ(ถ้าลวกนานไปมันจะเหนียวไม่กรอบค่ะ) ลวกได้ที่แล้วนำไปน็อคน้ำเย็นจัดทันทีนะคะ แค่นี้เราก็จะได้หมึกสายกรอบๆแล้ว จากนั้นเทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำพักไว้ก่อนนะคะ ระหว่างนั้นเราไปทำเครื่องยำรอกันก่อนเลยค่ะ “ภาพประกอบโดยนักเขียน” 3.นำส่วนผสมที่เราเตรียมไว้ หอมแดงซอย ตะไคร้ซอย พริกแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย และใบสาระแหน่เด็ดเป็นใบ นำมาใส่ในหม้อไว้ค่ะ “ภาพประกอบโดยนักเขียน” 4.หลังจากที่ซอยส่วนผสมใส่ในหม้อรอไว้แล้วก็เอาหมึกสายที่พักไว้มาใส่ในหม้อทำการยำได้เลยค่ะ เติมน้ำปลา น้ำตาลปี้บ และน้ำมะนาวลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ลองชิมรสชาติดูก่อนก็ได้นะคะ จะลดจะเพิ่มความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน ได้ตามใจชอบเลยค่ะ หรือใครจะแอบเติมผงนัวลงไปด้วยก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ เมื่อได้รสชาติจัดจ้านตามที่ต้องการแล้วจ ตักใส่จานพร้อมเสริฟได้เลยค่ะ ใครจะทานเป็นกับข้าวก็อร่อย หรือใครจะจัดกับเครื่องดื่มเย็นๆเป็นกับแกล้มแซ่บๆก็ได้ตามสะดวกเลยค่ะ "หมึกตกหม้อ" “ภาพประกอบโดยนักเขียน”