10 วิธีเลือกฟักแฟง สดและใหม่ ดูยังไงดี น่าซื้อ | บทความโดย Pchalisa ฟักแฟงเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่สามารถทำได้หลายเมนู โดยเฉพาะเมนูแกง ซึ่งแกงจืดฟักแฟงใส่กระดูกหมูคือเมนูที่ผู้เขียนทำบ่อยค่ะ และนานๆ ทีก็ทำแกงฟักแกงใส่ไก่แบบพื้นบ้าน ที่ก็พบว่าถ้าเรามีฟักแฟงสดใหม่และคุณภาพดี ทำให้ง่ายมากที่จะได้อาหารรสชาติดีค่ะ ซึ่งการเลือกฟักแฟงนั้น ไม่ง่ายและไม่ยากค่ะ ที่เคล็ดลับดีๆ มีมาให้แล้วในเนื้อหาของบทความนี้ ยังไงนั้นต้องอ่านต่อให้จบค่ะ ดังเนื้อหาต่อไปนี้ 1. ดูผิวภายนอก คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? การสังเกตผิวภายนอกของฟักแฟง เป็นวิธีเบื้องต้นที่ง่ายที่สุดในการประเมินความสดใหม่ค่ะ ผักแฟงพันธุ์ต่างๆ จะมีลวดลายบนผิวแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปลวดลายควรชัดเจน ไม่เบลอ และมีสีสันสดใส ซึ่งผิวของฟักแฟงที่สดใหม่จะมีความมันวาวเล็กน้อย และฟักแฟงที่ดีควรมีผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยช้ำ รอยขีดข่วน หรือรอยบุบ ผิวควรมีสีเขียวสดใส ไม่ซีดจางหรือมีสีเหลืองค่ะ 2. สังเกตขน เนื่องจากขนบนฟักแฟงทำหน้าที่คล้ายกับเกราะป้องกัน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในผล เมื่อขนเริ่มเสื่อมสภาพ ความชุ่มชื้นภายในก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้เนื้อในของฟักแฟงแห้งและแข็ง ดังนั้นการสังเกตขนบนผิวฟักแฟง เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการประเมินความสดใหม่ของฟักแฟงค่ะ ขนบนผิวฟักแฟงที่สดใหม่จะมีความแข็งแรง เงางาม และเกาะติดผิวแน่น เมื่อเราสัมผัสจะรู้สึกถึงความแข็งแรงของขน หากขนเริ่มเหี่ยวเฉา หลุดร่วงง่าย หรือเปลี่ยนสี แสดงว่าฟักแฟงอาจเก็บไว้นานเกินไป หรือถูกสัมผัสบ่อยครั้ง ทำให้ความสดใหม่ลดลง และวิธีสังเกตขนของฟักแฟงให้ทำตามนี้ค่ะ สังเกตสี: ขนของฟักแฟงพันธุ์ต่างๆ อาจมีสีแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปขนควรมีสีเขียวสดใส ไม่ซีดจางหรือเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สัมผัส: ลองใช้ปลายนิ้วสัมผัสขนเบาๆ เพื่อตรวจสอบความแข็งแรง หากขนหลุดร่วงง่าย แสดงว่าฟักแฟงอาจไม่สดใหม่ เปรียบเทียบ: ลองเปรียบเทียบขนของฟักแฟงหลายๆ ผล เพื่อหาผลที่มีขนสมบูรณ์ที่สุด 3. ดูเนื้อด้านใน ฟักแฟงที่ดีมีคุณภาพสำหรับทำอาหาร ฟักแฟงลูกนั้นเนื้อจะมีสีขาวนวล หรือขาวอมเขียวอ่อน โดยเฉพาะบริเวณขอบเนื้อจะเขียวเข้มกว่าตรงกลาง เนื้อสัมผัสจะแน่น ดูฉ่ำน้ำ กรอบ และมีความหวานตามธรรมชาติ เมล็ดจะสีขาวและมีจำนวนปานกลาง ที่ไม่แน่นจนเกินไปค่ะ หากพบฟักแฟงที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยง เช่น เนื้อเหลือง: แสดงว่าฟักแฟงสุกเกินไป หรือเริ่มเน่าเสีย เนื้อนิ่ม: หมายความว่าฟักแฟงไม่สดใหม่ หรืออาจเริ่มบูด 4. กดดูความแข็ง การกดดูความแข็งของฟักแฟงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราประเมินความสดใหม่ได้ค่ะ ผักแฟงที่สดใหม่จะมีความชุ่มชื้นอยู่ภายใน ทำให้เนื้อมีความแน่นและแข็ง เมื่อกดเบาๆ จะรู้สึกถึงความตึงตัว หากฟักแฟงเริ่มเหี่ยวหรือเน่า เนื้อจะสูญเสียน้ำ ทำให้เนื้อนิ่มยวบ เมื่อกดลงไปจะรู้สึกบุ๋ม หากพบว่าบางส่วนของฟักแฟงแข็ง แต่บางส่วนนิ่ม แสดงว่าฟกแฟงอาจมีปัญหาภายใน เช่น เนื้อเน่า หรือมีรอยช้ำ และวิธีการกดดูความแข็งของฟักแฟง มีดังนี้ เลือกจุดที่ไม่มีรอยช้ำ: เลือกบริเวณผิวที่เรียบเนียน ไม่มีรอยช้ำหรือรอยขีดข่วน กดเบาๆ: ใช้ปลายนิ้วกดลงไปบนผิวฟักแฟงเบาๆ ไม่ควรใช้แรงกดมากเกินไป สังเกตความรู้สึก: หากฟักแฟงสดใหม่ คุณจะรู้สึกถึงความตึงตัวและความแข็งเล็กน้อย เมื่อปล่อยนิ้วออก รอยบุ๋มจะหายไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ควรสังเกตเพิ่มเติม: เสียง: เมื่อกดลงไปบนผักแฟงที่สดใหม่ อาจได้ยินเสียงดังเล็กน้อย ความยืดหยุ่น: ผักแฟงที่สดใหม่จะมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย เมื่อกดแล้วปล่อย ผิวจะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว 5. ดูขนาด ผลที่มีรูปทรงสมมาตร มักจะมีเนื้อในที่สมบูรณ์กว่า เพราะการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างสมดุล และผลที่มีรูปทรงสมมาตร เนื้อในมักจะกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้เนื้อที่หวานและอร่อย ส่วนผลที่มีรูปทรงบิดเบี้ยว อาจเกิดจากการขาดสารอาหาร การเจริญเติบโตผิดปกติ หรือถูกแมลงกัดกิน ทำให้เนื้อในอาจไม่สมบูรณ์ ดังนั้นการเลือกฟักแฟงที่มีขนาดและรูปทรงเหมาะสม จะช่วยให้คุณได้ฟักแฟงที่มีคุณภาพดีค่ะ 6. ดมกลิ่น การดมกลิ่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการตรวจสอบความสดใหม่ของฟักแฟงค่ะ ฟักแฟงที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์ของผักสด หากไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นผิดปกติ อาจบ่งบอกว่าฟักแฟงเริ่มเน่าเสียหรือเก็บไว้นานเกินไป เมื่อฟักแฟงเริ่มเน่าเสีย จะเกิดการย่อยสลายของเนื้อเยื่อภายใน ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นอับชื้นค่ะ 7. สังเกตขั้ว การสังเกตขั้วฟักแฟงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในการเลือกซื้อฟักแฟงสดใหม่ค่ะ ขั้วฟักแฟงที่สดใหม่จะบอกเล่าเรื่องราวของความสดของตัวผักได้เป็นอย่างดี ขั้วเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผลกับต้น เมื่อเก็บเกี่ยวฟักแฟงมาใหม่ๆ ขั้วจะยังคงสดชื่น มีสีเขียว และมีความชุ่มชื้น หากขั้วเริ่มเหี่ยวเหลือง หรือมีรอยดำ แสดงว่าฟักแฟงถูกเก็บไว้นานเกินไป ความสดใหม่ของเนื้อในก็จะลดลงตามไปด้วย ขั้วที่สมบูรณ์จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปทำลายเนื้อในของฟักแฟงได้ง่ายค่ะ และลักษณะของขั้วผักแฟงที่ดีเป็นแบบนี้ค่ะ ขั้วควรมีสีเขียวสดใส ไม่ซีดจางหรือมีสีเหลือง ขั้วควรมีความแข็งแรง ไม่เหี่ยว ไม่ยุบตัว ขั้วไม่ควรมีรอยช้ำ รอยขีดข่วน หรือรอยแตก และขั้วไม่ควรมีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นเน่า ซึ่งวิธีสังเกตขั้วให้ทำดังนี้ ดึงเบาๆ: ลองดึงขั้วเบาๆ หากขั้วหลุดออกมาก็แสดงว่าฟักแฟงอาจเก็บไว้นานเกินไป สังเกตสี: เปรียบเทียบสีของขั้วกับสีของผิวฟักแฟง หากสีไม่สอดคล้องกัน อาจเป็นสัญญาณว่าฟักแฟงไม่สดใหม่ สัมผัส: ลองสัมผัสขั้วเพื่อตรวจสอบความแข็งแรงและความชุ่มชื้น 8. ดูน้ำหนัก จากที่ฟักแฟงที่สดใหม่จะมีปริมาณน้ำภายในสูง ทำให้น้ำหนักค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับขนาดของผล เมื่อฟักแฟงเริ่มเหี่ยวหรือเน่า จะสูญเสียน้ำ ทำให้น้ำหนักลดลง แต่ฟักแฟงที่มีน้ำหนักดี มักจะมีเนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ และหวานอร่อยค่ะ วิธีสังเกตน้ำหนักทำตามนี้ค่ะ ยกและเปรียบเทียบ: ลองยกฟักแฟงหลายๆ ผลที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แล้วเปรียบเทียบน้ำหนัก หากผลใดหนักกว่า แสดงว่าผลนั้นมีแนวโน้มที่จะสดใหม่กว่า เขย่าเบาๆ: ลองเขย่าฟักแฟงเบาๆ ฟังเสียงภายใน หากได้ยินเสียงน้ำขยับ แสดงว่าภายในมีน้ำอยู่มาก กดเบาๆ: กดลงบนผิวฟักแฟงเบาๆ หากรู้สึกถึงความแน่นและความยืดหยุ่น แสดงว่าภายในมีน้ำอยู่มาก 9. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อฟักแฟงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าฟักแฟงที่คุณผู้อ่านได้รับนั้นปลอดภัย สะอาด และมีคุณภาพดีค่ะ 10. สังเกตสภาพแวดล้อม การสังเกตสภาพแวดล้อมในการเก็บรักษาฟักแฟงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและรักษาความสดใหม่ของฟักแฟงได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยชะลอการสลายตัวของเซลล์ ทำให้ฟักแฟงคงความสดใหม่ได้นานขึ้น แต่ถ้ามีความชื้นที่มากเกินไปจะทำให้ฟักแฟงเน่าได้ง่าย ในขณะที่ความชื้นน้อยเกินไปจะทำให้ฟักแฟงเหี่ยว ตลอดจนการวางฟักแฟงรวมกับผักชนิดอื่นที่เน่าเสีย อาจทำให้ฟักแฟงติดเชื้อโรคและเน่าเสียได้เร็วขึ้นค่ะ และทั้งหมดนั้นคือเทคนิคดีๆ เอาไว้ใช้ตอนไปเลือกซื้อฟักแฟงค่ะ ที่อย่างแรกที่ผู้เขียนนำมาใช้เลยคือ การเลือกซื้อฟักแฟงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ โดยมักซื้อฟักแฟงจากแม่ค้าที่รู้จักกันค่ะ ที่ส่วนมากจะเป็นฟักแฟงที่ปลูกได้ในชุมชน ลูกขนาดกลางแบบสมส่วนคือลูกที่ผู้เขียนมักมองหาก่อนค่ะ จากนั้นจะกดดูและดูผิวด้านนอก ที่พบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ต้องใช้ฟักแฟง พอประยุกต์ใช้เคล็ดลับในนี้นี้แล้ว ไม่เคยผิดหวังค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านต้องลองนำไปปรับใช้กันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/6zqlKJj2yy5R https://food.trueid.net/detail/jyXGVxgmJ4JP https://food.trueid.net/detail/lv3X00ebxO2M เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !