เมนูยอดฮิต สำหรับสายสุขภาพในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น Greek Yogurt (กรีก โยเกิร์ต) แบบทำเอง เพราะขั้นตอนทำไม่ยาก อีกทั้งยังใช้ส่วนผสมเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น วันนี้เราเลยจะมาบอก วิธีทำกรีกโยเกิร์ตกัน พร้อมด้วยเมนูไว้ทานกับกรีกโยเกิร์ตด้วย!! รับรองว่าทานด้วยกันแล้วอร่อยสุด ๆ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับองค์ประกอบของน้ำนม และหลักการทำโยเกิร์ต หรือ กรีกโยเกิร์ต กันก่อนดีกว่าน้ำนมประกอบด้วย น้ำ, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต (ที่มีมากที่สุด คือ น้ำตาลแลคโทส), โปรตีน (แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เคซีน และเวย์)การทำโยเกิร์ต หรือ กรีกโยเกิร์ต คือ การเปลี่ยนโปรตีนในนม ในส่วนของ Casein (เคซีน) ให้ตกตะกอน ซึ่งจะตกตะกอนได้ในสภาพเป็นกรด โดยการนำนมมาเติมจุลินทรีย์ดี เช่น Streptococcus thermophilus (สเตรปโตคอกคัส เทอร์โมฟิลัส) และ Lactobacillus bulgaricus (แล็กโทแบซิลลัส บัลการิคัส) ให้ย่อยน้ำตาลแลคโทสในนม ซึ่งจะทำให้นมมีสภาพเป็นกรด และ Casein จะเกิดการตกตะกอนข้อดีของการทำเองโยเกิร์ต VS กรีกโยเกิร์ตส่วนผสม1. นมพาสเจอร์ไรส์ รสจืด 830 ml.2. โยเกิร์ต รสธรรมชาติ 150 g.✲ เราใช้ยี่ห้อ โยลิดา เพราะว่า เป็นโยเกิร์ตที่มีไขมันต่ำ และที่สำคัญ คือ มีเชื้อแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่วิธีทำ1. นำนมใส่หม้อ ตั้งไฟ หมั่นคนไม่ให้ติดก้นหม้อ ต้มจนได้อุณหภูมิ 80 °C (สำหรับคนไม่มีที่วัดอุณหภูมิให้สังเกตว่านมจะเริ่มเดือด) จากนั้นให้ลดไฟลง และต้มต่อนาน 5 นาที เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่จะทำให้นมเกิดการเน่าเสีย2. ยกลงจากเตา พักให้อุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 45 °C (สำหรับคนไม่มีที่วัดอุณหภูมิให้จับที่หม้อ แล้วนับ 1 - 10 ถ้าทนได้ แสดงว่าอุณหภูมิได้ที่แล้ว)3. เทโยเกิร์ตที่ซื้อมาใส่ถ้วย คนจนเนื้อเนียน ผสมนมลงไปเล็กน้อยจะช่วยให้เนื้อเนียนง่ายขึ้น4. จากนั้นนำมาเทลงหม้อและคนให้เข้ากัน5. ปิดฝาหม้อ และนำไปตั้งไว้ในที่ปิด เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะกับการทำงานของจุลินทรีย์ เช่น ในกล่องโฟม เตาไมโครเวฟ หรือเตาอบ ทิ้งไว้นาน 8 - 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ซึ่งจุลินทรีย์จะทำงานได้ดีที่อุณหภูมิประมาณ 40 - 45 °C)6. เมื่อครบเวลาแล้ว เราจะได้เป็นโยเกิร์ตมา หากใครที่ต้องการโยเกิร์ตก็สามารถแบ่งออกมาไว้กินได้เลย7. ถ้าต้องการกรีกโยเกิร์ต ให้นำตะแกรงวางบนภาชนะ และเทโยเกิร์ตใส่ผ้าขาวบาง วางบนตะแกรง จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา 8 ชั่วโมง เพื่อกรองน้ำออกจากโยเกิร์ต ซึ่งน้ำที่ได้นั้นจะเรียกว่า เวย์ (สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มรสเปรี้ยว ใช้ทำซุปมะเขือเทศ หรือต้มยำได้)8. กรีกโยเกิร์ตที่ได้ เนื้อจะเนียน ข้น รสออกเปรี้ยว คล้ายกินครีมชีสสรุป จะได้กรีกโยเกิร์ต 350 g.เวย์ 480 ml.✲ กรณีที่ไม่ได้แบ่งโยเกิร์ตออกมา3 เมนูไว้ทานคู่กัน1. กรีกโยเกิร์ตกับผลไม้และซีเรียลความเปรี้ยว มัน ของกรีกโยเกิร์ต ความหวานจากกล้วยและสตรอเบอร์รี่ โรยด้วยซีเรียลดาร์กช็อกโกแลตกรุบกรอบ ปิดท้ายด้วยการราดน้ำผึ้งสักนิดเพื่อเพิ่มความหอม เป็นเมนูที่อร่อย แถมทำง่ายสุด ๆ แค่นำผลไม้ที่ชอบมาวาง ก็พร้อมทานแล้ว!!2. กรีกโยเกิร์ตกับแพนเค้กกล้วยหอมข้าวโอ้ตตัวแพนเค้กทำจากกล้วยหอม 1 ลูก ผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง และข้าวโอ้ตเล็กน้อย ผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยลงไปในกระทะแล้วนำแพนเค้กลงไปทอดได้เลย ตักใส่จาก โปะด้วยกรีกโยเกิร์ต แอปเปิ้ล และซีเรียลตัวแพนเค้กจะนิ่ม และมีกลิ่นหอมของกล้วย เมื่อกินกับ กรีกโยเกิร์ต ลงตัวสุด ๆ3. กรีกโยเกิร์ตกับเค้กกล้วยช็อกโกแลตเค้กกล้วยช็อกโกแลตไม่ผสมแป้ง ใช้ส่วนผสมแค่ 4 อย่าง1. กล้วยหอม 2 ลูก2. ไข่ไก่ 2 ฟอง3. ผงโกโก้ 1/4 ถ้วยตวง4. ผงฟู 1 ช้อนชานำส่วนผสมทั้ง 4 อย่างไปปั่นให้เข้ากัน เทใส่แม่พิมพ์ และนำไปอบ 170 องศา 15 - 20 นาที (ขึ้นอยู่กับความหนาของเค้ก)เมื่อเค้กเย็น ให้นำออกจากแม่พิมพ์ ใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกล้วย และพระเอกหลักของเรา กรีกโยเกิร์ต เพิ่มความนัวสักนิดด้วยไซรัปช็อกโกแลต เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟค่าาเป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับกรีกโยเกิร์ตโฮมเมด ทำไม่ยากเลยใช่มั้ยหละคะ อร่อย แถมยังสามารถนำไปทานคู่กับอะไรได้หลากหลายอีกด้วย ใครมีเมนูอะไรไว้ทานคู่กับกรีกโยเกิร์ตมาแชร์กันได้นะคะ :Pเครดิตรูปภาพ : NimPimpida เจ้าของบทความ#สร้างใหม่ได้มาก #กรีกโยเกิร์ต #GreekYogurt #โยเกิร์ต #Yogurt #เวย์ #Whey #อาหารเพื่อสุขภาพ ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป