สวัดดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะมาแนะนำรายการทำอาหารของทาง Netflix ให้ทุกคนได้รู้จัก โดยหากจะพูดถึงรายการทำอาหาร หรือ ทำขนมทุกคนก็จะนึกถึง รายการ Master chef หรือรายการ Top chef เป็นแน่แท้ แต่ช้าก่อน จริงๆแล้วมันมีรายการทำอาหารและทำขนม ใน Netflix มากมายโดยแต่ละอันนั้นคือสนุกมาก ตื่นเต้น และโหดแบบสุดๆ มาเริ่มรายการแรกที่ writer อยากแนะนำกันเลยดีกว่า นั้นก็คือ 1. ZUMBO'S JUST DESERT (ซีซั่นที่ 1 มี 12 ตอน) เป็นรายการแข่งทำขนม จากแถบออซซี่ (ออสเตรเลีย) โดยทางรายการได้เปิดตัวเมื่อปี 2559 โดยมีพิธีกรและกรรมการ คือ คุณ Adriano Zumbo นั้นเอง โดยคุณ Zumbo นี้เป็นเชฟทำขนมชื่อดังระดับโลก และยังมีกรรมการตัดสินอีกท่านึงก็คือ ราเชล คู ซึ่งก็เป็นเชฟทำขนมเช่นกัน และในโจทย์แต่ละสัปดาห์ก็จะแตกต่างกันไป อาทิเช่น การทำขนมตามสีของผลไม้ การทำเค้กให้เด็กๆ และการนำเอาขนมดั่งเดิมของออสเตรเลียมาทำให้ดูดียิ่งขึ้น และเมื่อผ่านโจทย์ขนมประจำวันไปแล้ว ซุมโบ และ เรเชล จะเลือกผู้ชนะประจำสัปดาห์และเลือกผู้ที่ทำอาหารได้อ่อนที่สุด 2 คน เพื่อมาทำ Zumbo Test โดย Zumbo Test นี้ก็คือตัวขนมที่คุณซุมโบ นั้นเป็นคนคิดสูตรขึ้นมาเอง อาทิเช่น เค้ก ที่ ซ้อน เค้ก ใน เค้ก ใน เค้ก ในเค้ก ประมาณ 5-7 ชั้น (ซ้ำซ้อนมากกกก) และขนมที่เล็กที่สุด ซึ่งแน่นอนในโจทย์นี้ผู้แข่งขันต้องทำขนมตามสูตรที่ซุมโบได้จัดวางไว้ให้โดยหน้าตาและรสชาติจะต้องเหมือนเป๊ะ หากใครทำได้ดีกว่าก็จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และนอกจากความสนุกแล้วเรายังได้สาระอีกด้วยนะคะตรงที่เราจะได้ยินสำเนียงแปลกๆของชาวออสซี่ ที่จะมีการเน้นคำแบบที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย รวมถึงศัพท์บางคำที่เราไม่รู้ นับว่าเป็นรายการที่ดีที่ต้องดูให้ได้ใน Netflix ค่ะ Adriano Zumbo ใน Dessert Factory Kate ผู้เข้าแข่งขันในรายการ Zumbo's just Dessert เมนู The Golden Ducky ใน Zumbo test 2. SUGAR RUSH เป็นรายการแข่งทำขนมสัญชาติ อเมริกา โดยทางรายการได้เปิดตัวเมื่อปี 2561 และมี Hosted ประจำรายการนั้นก็คือ Hunter March พิธีกร และ Youtuber ชื่อดังของอเมริกา และในส่วนของกรรมการประจำรายการนั้นก็คือ Candace Nelson เชฟทำขนมหวานที่ได้รับฉายาว่าเป็น ราชินีแห่งวงการคัพเค้ก , Adriano Zumbo คนที่เราก็รู้จักกันดีในวงการทำขนม และแขกรับเชิญประจำสัปดาห์ ที่จะคอยชิมและตัดสินแต่ละทีม โดยทางรายการจะแบ่งผู้แข่งขันออกเป็น 2 ทีม ทีมละ 2 คน และในการแข่งขันก็จะแบ่งออกเป็น 3 ตอน ในตอนแรกจะเป็นการแข่งทำคัพเค้ก ที่ผู้เข้าแข่งขันจะสามารถโชว์ฝีมือได้เต็มที่ตามความชอบ และในโจทย์ต่อมา คือโจทย์การทำขนม และแน่นอนขนมนั้นก็จะไม่ใช่ขนมธรรมดาที่หาซื้อได้ตามร้านทั่วไปแต่ต้องเป็นขนมที่มีความซับซ้อน ทั้งรสชาติ และหน้าตา โดยจะต้องทำในเวลาจำกัดให้กรรมการประทับใจ โดยรอบนี้กรรมการจะคัดออก 1 ทีมเพื่อเข้าไปแข่งในรอบชิง โดยรอบชิงจะเป็นการทำขนมเค้กชิ้นใหญ่ที่จะต้องสวยและรสชาติดีอีกด้วย ภาพโปสเตอร์รายการ Sugar Rush ผู้เข้าแข่งขันในรายการ Sugar Rush 3. Street food (ซีซั่นที่ 1 มี 9 ตอน) เป็นรายการที่ออกแนวสารคดีเกี่ยวกับ Street Food โดยทางรายการได้เปิดตัวเมื่อปี 2561 โดยจะพาเราไป ในแต่ละประเทศของแถบเอเชียว่ามีอาหารอะไรบ้าง โดยเริ่ม Episode แรกก็มาที่ Thailand บ้านเราเลย โดยจะเป็นการเลือกร้านดังของในแต่ละประเทศมานำเสนอ อาทิเช่น ในตอนของประเทศไทย ได้มีการนำเสนออาหารไทยที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเจ๊ไฝ ร้านบะหมี่หมูแดง และร้านข้าวแกงเจ็กปุ้ย เป็นต้น เป็นรายการที่ดูเพลินๆ แต่ก็ชวนหิวได้เหมือนกัน ไม่ตื่นเต้นมากนักแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยสาระ อีกทั้งการดูรายการ Street Food จะช่วยให้เราเข้าใจวัฒนธรรมของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ภาพโปสเตอร์รายการ Street Food Jay Fai on Street Food 4. The Final Table (ซีซั่นที่ 1 มี 10 ตอน) เป็นรายการแข่งขันทำอาหารสัญชาติอเมริกา เปิดตัวเมื่อปี 2560 โดยมี Hosted ประจำรายการ คือ Andrew Knowlton บรรณาธิการนิตยสาร Bon Appétit นับว่าเป็นรายการแข่งขันทำอาหารที่ดุเดือด มากกก โดยในรายการจะนำเอาเชฟจากหลากหลายประเทศ เรียกได้ว่าเมื่อทุกทีมมายืนเรียงกันก็ให้ความรู้สึกเหมือนการประชุมองค์กรโลก ยังไงอย่างงั้นเลย โดยแต่ละสัปดาห์ก็จะมีการตั้งโจทย์อาหารขึ้นมา และแต่ละโจทย์ก็จะเป็นอาหารที่เรียกได้ว่าโดดเด่นของแต่ละประเทศและจะเป็นอาหารที่เรานั้นไม่คุ้นเคย โดยจะมีกรรมการเป็นเชฟคนดังจากหลากหลายประเทศมาทำการตัดสิน และจะคัดทีมที่อ่อนที่สุดออกในทุกสัปดาห์ จนเหลือ 2 ทีมสุดท้ายที่จะมาแข่งขันกันในรอบ Finale และในความโหดของรายการนี้คือกรรมการทุกท่านจะใส่รายละเอียดในทุกจุดของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นความร้อนของกระทะ การเรียงตัวของเม็ดข้าว และรสชาติที่จะต้องสร้างความประทับใจตั้งคำแรกที่ชิม ภาพโปสเตอร์รายการ The Final Table ผู้เข้าแข่งขันในรายการ The Final Table 5. The Big Family Cooking Showdown เป็นรายการ cooking competition สัญชาติ อังกฤษ ออกอากศครั้งแรกในปี 2560 มีทั้งหมด 2 ซีซั่น ซีซั่นละ 12-14 ตอนนั่นเอง โดยมี Hosted ประจำรายการ คือ Angellica Bell เชฟชื่อดังที่ชนะจากรายการ Celebrity Masterchef ปี 2017ของประเทศอังกฤษ และ Tommy Banks เชฟชาวอังกฤษระดับ Michelin-starred ที่ดูแล้วอาจจะแตกต่างจากสัญชาติอเมริกันสักหน่อย ตรงที่รายการนี้จะไม่ได้เคร่งเครียดหรือโหดมากนัก โดยรายการนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ทีม 4 ครอบครัว และจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นรอบ การช้อปปิ้งด้วย งบ 10 ปอนด์ หรือท่าเทียบเป็นเงินไทยก็จะประมาณ 399 - 400 บาท ไทย โดยต้องซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารสำหรับ 4 คน รอบที่ 2 จะเป็นการทำอาหารตามโจทย์ที่ทางรายการกำหนดโดยจะต้องทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่การผลิตเส้นพาสต้า กันเลยดีเดียว เป็นรายการที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ เพราะเป็นการทำอาหารร่วมกันของคนในครอบครัว โดยในแต่ละครอบครัวก็จะมีสูตรการทำอาหารที่แตกต่างกันออกไป ภาพโปสเตอร์รายการ The Big Family Cooking Showdown ผู้เข้าแข่งขันในรายการ The Big Family Cooking Showdown 6. รายการ Ugly Delicious รายการ Ugly Delicious อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเป็นรายการรวมอาหารแปลกนะคะ แต่เป็นรายการที่ดำเนินรายการโดย เดวิด ชาง เชฟมิชลินสตาร์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2561 มีทั้งหมด 1 ซีซั่น ซี่ซั่นละ 8 ตอน ซึ่งในแต่ละตอนของรายการนั้นจะมีธีมและวิธีการนำเสนอที่แตกต่างกัน เช่น ตอน ‘พิซซ่า’ ที่พาเราไปทำความรู้จักกับพิซซ่าในบรูกลินและเนเปิลส์ที่เลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมแบบดั้งเดิม หรือการพาเราไปทำความรู้จักกับพิซซ่าที่รังสรรค์โดยเชฟญี่ปุ่นที่พวกเขาเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป โปสเตอร์รายการ Ugly Delicious เดวิด ชาง กับเชฟชาวญี่ปุ่น และนี้คือรายการทั้งหมดที่ writer อยากจะแนะนำให้กับผู้อ่านได้ลองหาดูกันจากใน Netflix เพราะนอกจากจะสนุกแล้ว เรานั้นยังได้เรียนภาษาอังกฤษ และได้รับความรู้ใหม่อีกด้วย หากผู้อ่านเริ่มที่จะเบื่อการดูซี่รี่ย์ ยาวๆ ก็อยากให้ลองมาดูรายการของทาง Netflix เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ดูบ้างก็สนุกไปอีกแบบนะคะ