สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารัก หลังจาก WFH ทำงานที่บ้านกันมาหลายสัปดาห์ หลายคนพึมพำเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำหนักขึ้น เหมือนจะได้กลิ้งไปทำงานแทนการขับรถ วันนี้เลยอยากชวนทำเมนูประจำบ้านฉัน ที่คุณพ่อสามี คือ ‘ คุณเดชา ‘ ทำให้ลูกหลาน รวมทั้งเพื่อนฝูงได้ลิ้มลอง ทุกคนต่างชื่นชอบ ด้วยความเผ็ดร้อน ของเครื่องแกงเขียวหวาน เค็ม หวาน ครบทุกรสชาติ อร่อยเวอร์วัง จนน้ำหูน้ำตาไหล ขนาดข้าวหมดหม้อไม่ทันรู้ตัวปานนั้นทีเดียว หลักใหญ่ใจความที่นำเสนอเมนูนี้ เพราะวัตถุดิบหลักคือ ‘ มะละกอดิบ ‘ ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ ผลไม้ลดน้ำหนัก ‘ เพราะยางมะละกอ มีเอนไซม์ ปาเปน ( Papain ) ช่วยย่อยเนื้อสัตว์ คนโบราณจึงใช้มะละกอดิบมาประกอบอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ เนื้อสัตว์ที่มีความเหนียว หรือ เครื่องในสัตว์ที่มีพังผืด ทำให้ความเหนียวแข็งนั้นหายไป กลายเป็นความเปื่อยนุ่ม ทานอร่อยมาแทน ช่วยให้กระเพาะอาหารทำการย่อยได้ง่ายขึ้น มีผลให้ขับถ่ายสะดวกด้วยประการฉะนี้ รู้คุณประโยชน์ของมะละกอดิบอย่างนี้ อยากทานกันแล้วใช่ไหมคะ มาเข้าครัวลงมือกันเลยดีกว่า อ้อ...ถ้าที่บ้านใครปลูกต้นมะละกอไว้ ก็จัดการเด็ดลูกสด ๆ จากต้นมานะคะ มะละกอดิบสด ๆ จะได้มียางมาก ๆ ค่ะ ไหนๆ เข้าสวนแล้ว เด็ดใบโหระพา กับใบมะกรูดติดมือมาด้วยนะคะ วัตถุดิบหลัก -มะละกอดิบ ปอกเปลือก หั่นเต๋าพอดีคำ ( ไม่ต้องล้างยางออกนะคะ ) 1 ลูกย่อม ๆ -เนื้อหรือหมูติดมัน ( เศษเนื้อที่มีพังผืดยิ่งดี ) แต่วันนี้ขอใช้หมู ส่วนขั้วตับ ( เด็ดมาก ) 1|2 กิโล -น้ำพริกแกงเขียวหวาน ( ถ้าขยันและอยากได้กล้ามแขนเป็นผลพลอยได้ ก็ตำเองนะคะ อยากได้ดีกรีความเผ็ดขนาดไหนก็ได้หมด ถ้าสดชื่นค่ะ ) 2 ขีด -ใบโหระพา / ใบมะกรูดฉีก / ใบผักชีหั่นท่อนสั้น -พริกชี้ฟ้าแดง เริ่มบรรเลงกันเลยค่ะ 1. กระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน ผัดพริกแกงให้หอม จนจามกันทั้งหมู่บ้าน 2. ใส่เนื้อสัตว์ ผัดต่อไปไฟเหลือง ( ไฟกลาง ) ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผงนัวใส่หรือไม่แล้วแต่ฝีมือการปรุงรสเฉพาะตัวนะคะ 3. ใส่มะละกอตามลงไป เติมน้ำเปล่าสักครึ่งแก้ว ผัดต่อไปจนเหลือน้ำขลุกขลิก มะละกอพอสุกยังหลงเหลือความกรอบอยู่ ชิมรสชาติเพื่อความชัวร์อีกครั้ง ก่อนโรยใบผักทั้งหมดลงไป คลุกเคล้าให้ผักสลด ดับไฟ ตักใส่จานเป็นอันเสร็จพิธี ตามสูตรดั้งเดิม ใช้เนื้อวัวติดมัน รสชาติค่อนไปทางเผ็ดร้อน รับประทานกับข้าวสวยหุงสุกใหม่ควันฉุย แนมด้วยไข่เจียวกรอบ หอม พร้อมแกงจืดเต้าหู้หมูสับร้อน ๆ สักถ้วย เพียงเท่านี้ก็เห็นสวรรค์อยู่รำไร การได้รับประทานอาหารที่บ้าน พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว ช่วยกันทำ ช่วยกันทาน พูดคุย หยอกล้อ ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกัน เป็นช่วงเวลาทองที่มีความหมายที่สุด เป็นความทรงจำที่จะประทับอยู่ในใจของทุกคนในครอบครัว อย่างไม่มีวันลืมเลือน. เคล็ดลับ : 1. เนื้อสัตว์จะเปื่อยยุ่ยลงด้วยยางมะละกอ ทานมื้อแรกมะละกอจะกรอบ เคี้ยวเพลิน มื้อต่อไปหลังจากอุ่นแล้วเนื้อมะละกอจะดูดซึมมรสชาติความอร่อยเข้าไปอีก ยิ่งอร่อยไปอีกแบบ ดังนั้นสูตรที่ให้มานี้ผัดเสร็จแล้วจะได้จานใหญ่ ๆ ไว้ทานได้หลายมื้อ ประหยัดเวลาการทำกับข้าวดีค่ะ 2. ถ้ามีบุญพาวาสนาลิ้น ได้มะละกอแก่จัดหัวเหลือง หรือภาษาต่างประเทศเอิ้นว่า ‘ เหิ่ม ‘ จะยิ่งได้รสชาติ ทั้งกรอบ ทั้งหวาน อร่อยคัก ๆ อีหลีตั้ว 3. ถ้าบ้านไหน คุณพ่อบ้านแก่ดีกรีหน่อย ก็สาดบรั่นดีลงไปตอนผัดพริกแกงสัก 2 ฝา ( ฝาขวดเหล้านะคะ มิใช่ฝาโอ่ง ฮ่า ๆ) ไม่ผิดศีลข้อ 5 กลับจะเพิ่มความหอม ลุ่มลึก ยิ่งขึ้นค่ะ 4. ทานเมนูนี้แล้ว การขับถ่ายจะสะดวกกว่าปกตินะคะ สบายท้อง ตัวเบาหวิวกันทีเดียวค่าาา ขอให้มีความสุขในการทำอาหาร และทานให้อร่อยนะคะ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ * ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน *