ต่อไปนี้ผู้เขียนจะขอเล่าประสบการณ์ ที่บางท่านอาจมองว่าธรรมดา แต่บางท่านที่ไม่เคยอาจจะไม่รู้เลยว่ากินอยู่กันยังไง ในสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพัทลุงถึงแม้ว่าจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ผู้เขียนก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพมาฝากทุกท่าน ผู้เข้าปฏิบัติธรรมที่นี่จะได้รับอาหารวันละ 2 ครั้ง แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ เช้าตั้งแต่ 6 โมงเช้า หลังสวดมนต์ทำวัตรเช้าเสร็จทางวัดจะจัด กาแฟ โอวัลติน ขนม ไว้ให้ผู้เข้าปฏิบัติธรรมทุกท่านสามารถมาชงกินเองได้ฟรี ไม่มีการคิดเงินแต่อย่างใด หลังจากทานเสร็จทุกคนจะรับผิดชอบตัวเองล้างภาชนะแล้วเก็บไว้ที่เดิม บางวันก็จะมีข้าวต้มมังสวิรัติ ไว้ให้รองท้องเบาๆ ก่อนอาหารมื้อหนักอีกด้วย อาหารมังสวิรัติฝีมือแม่ชี ส่วนมื้อหนักนั้น จะรับหลังจากใส่บาตรเสร็จเวลาประมาณ 08.30 น. อาหารของที่นี่ทางวัดจะมีทีมแม่ครัวที่เสียสละเวลาตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าว หุงข้าว เตรียมไว้สำหรับผู้เข้าปฏิบัติธรรม ที่นี่จะทำอาหารมังสวิรัติเท่านั้น ถ้าเป็นของคาวก็สามารถนำมาถวายได้เช่นกันแต่ต้องทำให้เสร็จมาจากข้างนอกแล้วยกมาถวาย การตักอาหารนั้นทางวัดจะมีชามขนาดย่อมให้คนละหนึ่งใบ หลังจากตักบาตร พระสงฆ์จะเดินนำหน้ามาตักอาหารก่อน พอพระสงฆ์ตักเสร็จ แม่ชีโกนผมจะเดินตามมาถัดไปก็อุบาสกชาย รั้งท้ายนั้นคือผู้ปฏิบัติธรรมที่บวชชีพราหมณ์ คือบวชนุ่งขาวแต่ไม่โกนผม เดินเป็นแถวเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเข้าไปตักอาหาร ไม่ต้องกลัวว่ากับข้าวจะหมดก่อน เพราะทีมแม่ครัวเขาจัดสรรไว้เพียงพอต่อจำนวนคน ที่เข้ามาปฏิบัติธรรมในแต่ละวัน ทุกคนจะตักอาหารพอทานหมดจะไม่ตักเยอะจนเกินไป ส่วนน้อยมากที่จะเหลือทิ้งเป็นเศษอาหาร วัตถุดิบหลักคือไข่และผัก ส่วนตัวผู้เขียนนั้นเดินท้ายแถวตลอดเพราะไม่ชอบยืนเบียดกับคนเยอะๆ ข้อดีของการเดินรั้งท้ายคือเราได้ฝึกตัวเอง ว่าเหลืออะไรก็ต้องกินอันนั้น กินเพื่อให้ประทังความหิว แต่อาหารที่เหลือถึงคนสุดท้ายก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ก็เพียงแค่อาจจะไม่เหลือเยอะพอให้เราเลือกแค่นั้นเอง หน้าตาแบบนี้รสชาติอร่อยนะ สำหรับท่านใดที่ตักไปน้อยจนเกินไป ทานไม่อิ่มก็สามารถมาขอตักเพิ่มได้ เพราะแม่ครัวจะเก็บอาหารไว้ไม่เกินเวลาเที่ยงของทุกวัน ขนมกับผลไม้ มีทุกวันไม่เคยขาด ::ภาพประกอบโดยผู้เขียน