ฤดูกาลของมะม่วงมาถึงแล้วคร้าเพื่อน ๆ บ้านใครมีมะมะม่วงพันธ์ไหนกันบ้างคะ ในสวนที่บ้านของเรามีมะม่วงหลายพันธ์เลยคะ มีทั้งเอาไว้กินดิบและกินสุก เช่น มะม่วงเขียวเสวย มะม่วง 3 ฤดู มะม่วงน้ำดอกไม้ และมะม่วงมหาชนกคะ ที่สวนเป็นสวนของพี่สาวเน้นปลูกที่เราชอบกินก่อน ถ้ามีปีไหนมะม่วงออกลูกเยอะค่อยแจกและขาย ในบางปีมะม่วงออกลูกไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เก็บเอาไว้กินอย่างเดียวคะ หากปีไหนที่มะม่วงออกลูกมากก็เก็บไว้กินเองบางส่วน มีแบ่งญาติ ๆ บ้าง เป็นของฝากบ้าง และส่วนที่เหลือก็เอาไว้ขายคะ มะม่วงในสวนของพี่สาวถ้ามีจำนวนมากก็จะขายดีทุกปีคะ เพราะเป็นมะม่วงอินทรีย์ไม่มีสารเคมี ปลูกแบบธรรมชาติ เพื่อน ๆ ที่ทำงานของพี่สาวถึงขั้นต้องสั่งจองกันล่วงหน้ากันเลยทีเดียวค่ะ แต่อีกปัญหาของผู้ที่มีสวนมะม่วง ถ้าปีไหนมะม่วงมากกินไม่ทัน แม้จะแบ่งญาติพี่น้อง หรือขายบางส่วนแล้ว ก็ยังเหลือมะม่วงจำนวนมากอยู่นั้น นอกจากจะปล่อยเน่าทิ้งแล้วจำนวนหนึ่งเพราะกินไม่ทันจริง ๆ เราจึงต้องหาวิธีถนอมอาหารและแปรรูปมะม่วงไว้ทานเล่นกันดีกว่าปล่อยทิ้งละค่ะ เพราะการแปรรูปหรือถนอมอาหารจะช่วยให้เราสามารถเก็บมะม่วงเอาไว้ทานได้นานมากกว่ามะม่วงเป็นลูก ๆ แน่นอนค่ะ วันนี้เราจึงนำวิธีการทำแปรรูปมะม่วงแบบบ้าน ๆ ของแม่ มาฝากกันคะ มีวิธีทำทำง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แต่อร่อยทีเดียว วิธีทำมะม่วงกวนสูตรคุณแม่ ส่วนผสม มะม่วงสุกงอม จำนวนแล้วแต่ที่เรามีค่ะ หรืออยากจะทำครั้งละน้อย ๆ ก็ได้เพราะเวลากวนจะเหนื่อยหน่อยถ้ามะม่วงจำนวนมาก เกลือ น้ำตายทราย (ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ค่ะแล้วแต่ชอบ) กะทิ (ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ค่ะแล้วแต่ชอบ) วิธีทำ ล้างทำความสะอาดมะม่วงสุกให้สะอาดค่ะ ปลอกเลือกมะม่วงสุกแล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้คะ ทำการบดมะม่วงให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใครมีเครื่องปั่นก็นำมาช่วยได้ค่ะ แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีก็ใช้มือนี้ละค่ะ ขย้ำให้มะม่วงเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการกวน ทำการกวน โดยใช้ไฟเบา ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อตัดความหวาน แล้วทำการกวนต่อค่ะ ใส่กะทิลงไป ใส่มากใส่น้อยแล้วแต่ชอบ แล้วทำการกวนต่อ กวนต่อจนเนื้อมะม่วงเริ่มเหนียว และสีมะม่วงเริ่มเปลี่ยนเป็นจากสีเหลืออ่อนเป็นสีเหลืองเข้ม นั่นแสดงว่ามะม่วงเริ่มสุกแล้ว พอเนื้อมะม่วงเหนียวและสุก ทำการยกกระทะลงตั้งทิ้งไว้ให้เย็น จัดการเตรียมถาดหรือภาชนะที่มีไว้ตากเอาที่เราสะดวกนะคะ ไม่ต้องซื้อใหม่ให้เสียเงิน เน้นสะดวกและประหยัด ตักมะม่วงลงไปแล้วเกลี่ยไม่ให้หนามากจนเกินไป เพราะไม่งั้นจะมะม่วงจะไม่แห้งหรือแห้งยากค่ะ ควรให้บางเข้าไว้จะแห้งง่าย แต่สูตรของแม่เราไม่ตากให้แห้งมากจนเกินไป เพราะเวลากินจะมีความเหนียวเพิ่มมาด้วยทำให้เสียรสชาติด้วย เราทำเองกินเองเผลอแป๊บเดียวก็หมดค่ะเพลิน ๆ เลยไม่ต้องตากแห้งมากสักเท่าไหร่ จะทำให้กินง่ายมากกว่า จากประสบการณ์นะคะ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่คนชอบ ชอบแห้งมากแห้งน้อยก็คอยเช็คด้วยตัวคุณเองเวลาตาก เมื่อพอใจก็เก็บได้ค่ะ นำมะม่วงที่ตากแห้งแล้วมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ไม่ต้องใหญ่มากค่ะ จะทำให้สะดวกเวลากินและเก็บ จะเก็บใส่ถุงหรือภาชนะมีฝาปิดเก็บไว้ในตู้เย็นไว้ทานเล่นกันนาน ๆ ได้เลย แต่ที่ผ่านมาที่ผ่านของเราเก็บไว้ไม่ได้นานเลยละค่ะ หมดก่อนทุกที 555+ ฝีมือแม่เรานี้มันอร่อยจริง ๆ เลย