ถ้าจะให้พูดถึงดอกไม้ที่สามารถนำมารับประทานได้ก็คงมีอยู่หลายร้อยชนิด ทั้งที่เป็นไม้ดอกไม้ประดับ ดอกไม้ที่ใช้สำหรับตกแต่งอาหาร หรือจำพวกดอกผักต่าง ๆ แต่ที่เรานิยมนำมาประกอบอาหารส่วนใหญ่จะเป็น ดอกกุหลาบ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกแค เป็นต้น บทความนี้ผู้เขียนจะขอแนะนำดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่สามารถรับประทานได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยมมากนักเพราะมีรสชาติที่ขมแหลม ใครหลายคนจึงไม่นำมาประกอบอาหาร เพราะถ้าหากทำไม่เป็นแล้วล่ะก็ อาหารของเรามื้อนั้นของเราก็จะขมปี๋เลยค่ะ ดอกไม้ที่ว่านั่นก็คือ ดอกแคนา หรือ แคป่า ค่ะ ภาพโดยผู้เขียน คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับดอกแคที่มีลักษณะคล้าดอกของถั่ว ออกดอกเป็นช่อสีขาวใช่ไหมคะ นิยมนำมาทำเป็นแกงส้ม หรือประกอบในเมนูอาหารต่าง ๆ รสชาติจะไม่ขมมากนัก แต่นอกจากดอกแคแบบที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีดอกแคอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือดอกแคนา ที่มีรูปร่างลักษณะต่างกันโดยสิ้นเชิง ดอกแคนาจะมีดอกใหญ่คล้ายแตร สีขาว มีเกสรอยู่ด้านในประมาณ 5-6 ก้าน มีรสชาติที่ขมมาก เป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดใหญ่ จึงมักนำมาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อให้ร่มเงาและความสวยงามมากกว่าที่จะมาบริโภค แต่คนทางภาคอีสานนิยมรับประทานดอกแคนากันมากค่ะ เพราะมีสรรพคุณเป็นยา และรสขมช่วยให้เจริญอาหาร ภาพโดยผู้เขียน สำหรับเมนูที่ทำมาจากแคนา ยกตัวอย่างเช่น นำมาลวกเพื่อกินกับน้ำพริก การลวกนั้นสำคัญมาก ๆ ค่ะต้องลวกในน้ำเดือดให้พอดี และนำขึ้นมาแช่น้ำเย็นก่อน แล้วค่อยคั้นเอาความขมออก ไม่เช่นนั้นจะเหลือความขมอยู่มาก หรือนอกจากจะนำมาลวกแล้วก็ยังนำมาทำเป็นซุปแคนา หน้าตาก็จะคล้าย ๆ กับซุปมะเขือ หรือซุปเห็ด ของทางภาคอีสาน ที่จะนำดอกแคนาลวกมาตำใส่กับ พริก หอมแดง กระเทียมย่างโขลกละเอียด ใส่เครื่องปรุง เนื้อปลา และน้ำปลาร้า ค่ะ จะได้รสชาติแซ่บนัวปนขมนิด ๆ ภาพโดยผู้เขียน ประโยชน์ทางยาของแคนานั้นสามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรได้ทั้ง ราก เมล็ด ดอก ใบ ซึ่งดอกแคนาจะมีสรรพคุณช่วยในการนอนหลับ ขับเสมหะ ขับเลือดลม ช่วยในการขับถ่าย และรสขมของดอกนั้นยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วยค่ะ เห็นไหมคะ ว่านอกจากดอกจะสวย และลำต้นให้ร่มเงาแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาหลากหลายอีกด้วย ดังสุภาษิตที่ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ภาพโดยผู้เขียน