9 วิธีเลือกปลาทูสด แบบไหนดี มีคุณภาพ ทำอาหารได้อร่อยถูกใจ อ่านต่อกันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ในตลาดที่เต็มไปด้วยปลาสดมากมาย การที่เราต้องมีทริคในการเลือกปลาทูสด ก็เหมือนกับการมีเข็มทิศนำทางค่ะ เพราะปลาทูที่ดีไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่ยังต้องสดใหม่และถูกสุขลักษณะด้วย การที่เรารู้ว่าสังเกตจากจุดต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามั่นใจว่า กำลังจะได้วัตถุดิบที่ดีที่สุดกลับไปทำอาหาร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้ปลาที่ไม่สดหรือมีคุณภาพไม่ดี ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเลือกครั้งแรกก็ตาม โดยความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดระหว่างคนที่รู้เคล็ดลับกับไม่รู้ คือ ผลลัพธ์ของรสชาติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะคนที่รู้เคล็ดลับจะสามารถเลือกปลาทูที่สดใหม่ได้เสมอ ทำให้เมื่อนำไปประกอบอาหารแล้ว เนื้อปลามีความหวาน นุ่ม และไม่มีกลิ่นคาวจัด ซึ่งจะช่วยยกระดับความอร่อยของอาหารจานนั้นให้โดดเด่นขึ้นมาทันที ในขณะที่คนที่ไม่รู้เคล็ดลับอาจจะได้ปลาที่ไม่สดมา ทำให้เนื้อปลาแข็ง รสชาติไม่อร่อยเท่าที่ควร และยังอาจมีกลิ่นคาวรบกวนใจอีกด้วย ดังนั้นการรู้เคล็ดลับในการเลือกปลาทู จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกซื้อของนะคะ แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อรสชาติอาหารที่ดีที่สุดอีกด้วย และทริคสำคัญๆ ที่เราจำเป็นต้องรู้สำหรับการเลือกซื้อปลาทูสด มีดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ดูที่ตาปลา หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตาของปลาทูเป็นเหมือนหน้าต่างที่ช่วยให้เรามองเห็นความสดใหม่ได้อย่างชัดเจนค่ะ ดังนั้นให้ลองสังเกตให้ดี เพราะปลาทูที่สดใหม่จริงๆ ตาจะใสปิ๊งและนูน ไม่ขุ่นมัวหรือยุบลงไปเหมือนปลาที่เริ่มเก่าแล้ว เพราะเมื่อปลาเสียความสดลง ตาจะเป็นส่วนแรกๆ ที่เริ่มเปลี่ยนสภาพและเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ การเลือกปลาทูจากความใสของตาจึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการยืนยันว่า ปลาทูตัวนั้นเพิ่งถูกจับขึ้นมาใหม่ๆ และพร้อมที่จะนำไปทำอาหารอร่อยๆ ให้เราได้ลิ้มลองค่ะ 2. ให้สังเกตที่เหงือก ในการเลือกปลาทูสด การสังเกตเหงือกของปลา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญและง่ายมากๆ ค่ะ ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า เหงือกของปลาทูที่สดใหม่จริงๆ จะต้องมีสีแดงสด ไม่มีสีคล้ำหรือเปลี่ยนเป็นสีเทา เพราะเมื่อปลาเริ่มไม่สด เลือดในเหงือกจะเริ่มเปลี่ยนสีและเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้นะคะ การที่เราพลิกดูเหงือกปลาจึงไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นการตรวจสอบความสดใหม่ที่เชื่อถือได้ ซึ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่าปลาทูที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพดีพอ ที่จะนำไปทำอาหารจานโปรดของเราได้อย่างอร่อยถูกใจค่ะ 3. เนื้อปลาต้องแน่น นอกจากการดูตาและเหงือกแล้ว เนื้อปลาที่แน่นก็เป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของปลาทูได้เป็นอย่างดีค่ะ ให้ลองใช้นิ้วกดลงไปเบาๆ ที่ลำตัวปลา เนื้อปลาที่ดีต้องแน่นและเด้งกลับ ไม่มีรอยบุ๋มทิ้งไว้ หากเนื้อปลาดูนิ่มยวบหรือเป็นรอยนิ้วมือ แสดงว่าปลาตัวนั้นถูกจับมานานแล้ว หรือไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้รสชาติและเนื้อสัมผัสของปลาไม่น่ากิน การเลือกปลาทูที่มีเนื้อแน่นจึงเป็นตัวช่วยยืนยันว่า เราจะได้ปลาที่มีคุณภาพและสามารถนำไปทำอาหารอร่อยๆ ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ 4. กลิ่นต้องเป็นธรรมชาติ ในการเลือกซื้อปลาทูสด กลิ่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะช่วยบอกเราได้ว่าปลาตัวนั้นสดใหม่จริงๆ ค่ะ ปกติปลาทูที่สดจะมีกลิ่นคาวอ่อนๆ ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่กลิ่นคาวที่ฉุนหรือกลิ่นเปรี้ยวที่แรงจนผิดปกติ เพราะกลิ่นที่ผิดปกติเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือน ที่บอกเราว่าปลาเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ดังนั้นการใช้จมูกของเราดมกลิ่น จึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการยืนยันความสดใหม่ของปลาทู และช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าปลาที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพดีพอที่จะนำไปทำอาหารอร่อยๆ ให้กับคนในครอบครัวได้อย่างปลอดภัยค่ะ 6. ผิวปลาต้องสมบูรณ์ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ผิวปลาที่สมบูรณ์ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของปลาทูได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะว่าผิวปลาทูที่สดใหม่มักมีความเรียบเนียน ไม่ถลอกหรือมีรอยช้ำใด ๆ แต่ถ้าผิวปลามีรอยถลอกหรือขาดแหว่ง แสดงว่าปลาอาจจะถูกจับมานานแล้ว หรือไม่ได้รับการดูแลที่ดีระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อปลาแข็งและไม่อร่อยเมื่อนำไปทอด นึ่ง ย่างหรือทำต้มยำ ดังนั้นการเลือกปลาทูที่มีผิวสมบูรณ์จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า ปลาที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพดีและพร้อมที่จะนำไปทำอาหารอร่อยๆ ให้กับคนในครอบครัวได้อย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ 7. ครีบต้องติดกับลำตัวแน่น ในการเลือกปลาทูสด การดูที่ครีบปลาเป็นอีกจุดหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้าม แต่กลับมีความสำคัญอย่างมากค่ะ ครีบปลาทูที่ดีจะต้องติดกับลำตัวแน่น ไม่หลุดหรือหลวมง่าย เพราะถ้าครีบหลุดติดมือออกมาหรือดูไม่กระชับ นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าปลาเริ่มไม่สดแล้วนะคะ ดังนั้น การเลือกปลาทูที่มีครีบติดกับลำตัวแน่นจึงไม่ได้เป็นแค่การสังเกตเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตอนเลือกซื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันว่าปลาที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพดีและพร้อมที่จะนำไปทำอาหารอร่อยๆ ให้กับคนในครอบครัวได้อย่างปลอดภัยค่ะ 8. ท้องปลาต้องไม่แตก การดูที่ท้องปลา เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เนื่องจากว่าท้องปลาที่สมบูรณ์และไม่แตก มักบ่งบอกว่าปลาตัวนั้นถูกจับมาอย่างดีและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่ได้ถูกทิ้งไว้จนเก่าหรือถูกกระแทกอย่างแรง ซึ่งการที่ท้องปลาแตกเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ปลาไม่สดแล้วหรือไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดีนะคะ ซึ่งการเลือกปลาทูที่มีท้องไม่แตกจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าปลาที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพดีพอที่จะนำไปทำอาหารค่ะ 9. ซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การเลือกซื้อปลาทูสดจากร้านที่ไว้ใจได้ ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดในการรับประกันคุณภาพเลยค่ะ เพราะแหล่งขายที่น่าเชื่อถือ มักจะมีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกปลาที่สดใหม่จากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือมาขาย และยังมีการเก็บรักษาที่ถูกวิธี ทำให้เรามั่นใจได้ว่าปลาทูที่เราได้นั้น ที่ไม่ใช่แค่ดูดีจากภายนอก แต่ยังสดใหม่จริงๆ ซึ่งจะส่งผลให้รสชาติของอาหารที่เรานำไปทำอร่อยยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นเลือกซื้อปลาทูสด จากแหล่งขายที่มีคุณภาพจึงเป็นเหมือนกับการมีผู้ช่วยส่วนตัวในการเลือกวัตถุดิบ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตรวจสอบรายละเอียดมากมาย แต่ยังคงได้ของที่ดีที่สุดกลับไปบ้านทุกครั้งค่ะ จบแล้วค่ะ พอจะมองภาพออกกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ? ว่าเราต้องสังเกตอะไรบ้าง หากต้องไปเลือกซื้อปลาทูสด ซึ่งการเลือกซื้อปลาทูสดในแต่ละครั้งนั้น เราไม่จำเป็นต้องใช้แนวทางทุกข้อเสมอไปค่ะ เพราะในความเป็นจริงแต่ละข้อเป็นเพียงแนวทางที่ช่วยให้เรามั่นใจในคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น และการสังเกตจากจุดสำคัญเพียงไม่กี่อย่างก็เพียงพอแล้ว เพราะโดยรวมแล้วแต่ละทริคต่างก็ชี้ไปที่สิ่งเดียวกัน คือ ความสดใหม่ของปลา ดังนั้นเราอาจจะเลือกใช้เพียงแค่การดูตาที่ใส เหงือกที่แดง และกลิ่นที่ไม่คาวจัดเป็นหลักก็ได้ ซึ่งก็เพียงพอที่จะช่วยให้เราได้ปลาทูที่มีคุณภาพดีกลับบ้านแล้วค่ะ และสำหรับสถานการณ์จริงในการซื้อปลาทูสดจากตลาดเล็กๆ ในตำบลหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและวิธีการเลือกที่หลากหลาย วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเลือกจากร้านที่เราไว้ใจได้ หรือดูจากแม่ค้าที่ดูมีความเชี่ยวชาญในการเลือกปลาค่ะ หากเป็นไปได้ให้ลองถามแม่ค้าถึงความสดใหม่ของปลาที่เราจะซื้อ หรืออาจจะขอให้แม่ค้าช่วยเลือกให้ก็ได้เช่นกัน เพราะแม่ค้าในตลาดเล็ก ๆ มักจะมีความพร้อมที่จะแนะนำปลาที่ดีที่สุดให้เราอยู่แล้ว ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราประหยัดเวลาและได้ปลาทูที่ดีกลับบ้านได้อย่างรวดเร็วและง่ายที่สุดค่ะ ซึ่งในสถานการณ์จริงนั้น ปลาทูสดสำหรับผู้เขียน คือวัตถุดิบอีหนึ่งอย่างที่มีโอกาสได้ซื้อมาทำอาหารบ้างค่ะ และเมนูที่มักทำบ่อยๆ เช่น ต้มยำปลาทูสด นานๆ ทีก็นำย่างนะคะ โดยหลายๆ ครั้งผู้เขียนเลือกซื้อปลาทูสดจากร้านที่ไว้ใจได้ ร้านที่คนนิยม ร้านที่คนต่อคิว เพราะสิ่งนี้ก็บ่งบอกถึงคุณภาพปลาทูสดที่เราจะได้รับระดับหนึ่งค่ะ แต่ผู้เขียนก็ไม่เคยลืมที่จะดูในส่วนของตาปลาทู ครีบ ผิวและเหงือก และจากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น พบว่าวิธีต่างๆ ข้างต้นคือตัวช่วยที่ดีค่ะ ทำให้การเลือกปลาทูสดดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น และได้วัตถุดิบที่ถูกสุขลักษณะตามหลักความปลอดภัยในอาหารมาทำเมนูต่างๆ ด้วยค่ะ ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำเคล็ดลับในบทความนี้ไปใช้กันนะคะทุกคน ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #ปลาทูสด #วิธีเลือกอาหารสด #ความปลอดภัยในอาหาร #FoodSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล ทริคเลือกปลาทูนึ่งให้อร่อย สด สะอาด ทริคเลือกน้ำพริกปลาทู ที่ตลาด แบบไหนดี สะอาดน่าซื้อ 9 ทริคเลือกปลานิลสด ทำปลาเผา ดูยังไงดี น่าซื้อ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !