ข้อดีของการกินอาหารหลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจ มีอะไรบ้าง ควรรู้ อ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จากที่ใครๆ ก็รู้ว่าการกินอาหารดีมีประโยชน์คือสิ่งที่เราต้องทำ แต่คุณผู้อ่านเคยสงสัยไหมคะว่า แค่ดีอย่างเดียวพอหรือยัง? เพราะในโลกที่อาหารหลากหลายและหาซื้อง่ายขึ้นในทุกวันนี้ การกินแต่เมนูโปรดซ้ำๆ หรือติดกับอาหารไม่กี่ชนิด อาจกำลังทำให้หลายคนพลาดโอกาสดีๆ ในการดูแลตัวเองไปอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว การกินอาหารให้หลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจ มีข้อดีมากมายกว่าที่เราคิด ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องสารอาหารจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยและสุขลักษณะที่ดีในทุกๆ มื้ออีกด้วย ดังนั้นในบทความเราจะรู้กันว่า การกินอาหารไม่จำเจและหลากหลายดียังไง เพื่อทำให้คุณผู้อ่านมองเห็นภาพได้มากขึ้น โดยเมื่ออ่านจบแล้วจะเกิดความตระหนักและความเข้าใจแบบละเอียดมากขึ้นได้ ตลอดจนยังสามารถฉุกคิดบางอย่างได้ด้วยตัวเองในเรื่องของการกินอาหารของเราด้วยนะคะ ซึ่งข้อดีหลายข้อก็เป็นข้อมูลใหม่ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำไป น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะทุกคน งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่า กับเนื้อหาดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ส่งเสริมการหมุนเวียนวัตถุดิบที่ดี ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนกินแต่ไก่ทอดทุกวัน ความต้องการไก่ก็จะสูงมาก ทำให้ผู้ผลิตต้องเร่งเลี้ยงไก่จำนวนมหาศาล ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สารเร่งโต หรือการเลี้ยงในสภาพที่แออัด จนเกิดปัญหาด้านสุขอนามัยได้ แต่ถ้าเรากินเนื้อสัตว์หลายชนิด สลับกับปลา ผักผลไม้ หรือธัญพืชหลากหลายชนิด ความต้องการวัตถุดิบแต่ละประเภทก็จะกระจายไป ทำให้ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องเร่งผลิตอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งจนเกินกำลัง และยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชผักหรือเลี้ยงสัตว์ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องยึดติดกับพืชเชิงเดี่ยว ทำให้มีวัตถุดิบหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น และเราในฐานะผู้บริโภคก็มีทางเลือกในการเข้าถึงวัตถุดิบที่สดใหม่ มีคุณภาพ และมีโอกาสปนเปื้อนน้อยลงค่ะ 2. เพิ่มความตระหนักในการเลือกแหล่งอาหาร การกินอาหารให้หลากหลายไม่ได้แค่ทำให้เรามีเมนูแปลกใหม่ แต่ยังช่วยให้เราเพิ่มความตระหนักในการเลือกแหล่งอาหารได้ดีขึ้นด้วยค่ะ ลองนึกภาพว่าถ้าเรากินแต่เมนูเดิมๆ ซ้ำๆ เราก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจว่าวัตถุดิบมาจากไหน ปลอดภัยแค่ไหน หรือมีสารเคมีปนเปื้อนอะไรบ้าง แต่พอเราเริ่มอยากลองทำอาหารแปลกๆ หรืออยากกินผักผลไม้ตามฤดูกาลที่หลากหลาย เราก็จะเริ่มสนใจมากขึ้นว่า มะเขือเทศที่ซื้อมาจากตลาดนี้สดไหม มีฉลากรับรองหรือไม่ หรือปลาจากร้านนี้จับมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือเปล่า การที่ต้องค้นหาและเปรียบเทียบแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่หลากหลายนี้เอง ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของการเลือกซื้ออาหารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และปลอดภัยต่อตัวเรามากยิ่งขึ้นค่ะ 3. ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยอาหาร คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การกินอาหารให้หลากหลายไม่ได้ทำให้เราแค่ได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยของอาหารไปในตัวด้วยค่ะ เพราะเมื่อเราเริ่มลองทำอาหารที่ไม่คุ้นเคย เช่น เมนูที่มีเนื้อสัตว์ต่างชนิด หรือผักที่ไม่เคยกินมาก่อน เราก็จะเริ่มตั้งคำถามและหาข้อมูลว่า วัตถุดิบแต่ละอย่างต้องล้างยังไงให้สะอาด ต้องเก็บในอุณหภูมิแบบไหนถึงจะปลอดภัย หรือต้องปรุงให้สุกแค่ไหนถึงจะมั่นใจว่าไม่มีสิ่งปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม การที่เราต้องเรียนรู้และใส่ใจรายละเอียดในการจัดการอาหารที่แตกต่างกันเหล่านี้เอง ทำให้เรามีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขลักษณะและสุขาภิบาลอาหารเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เราเลือกและเตรียมอาหารได้อย่างปลอดภัยในทุกๆ วันค่ะ 4. ลดการพึ่งพิงอาหารแปรรูป หลายคนยังไม่รู้ว่า การกินอาหารให้หลากหลายช่วยให้เราลดการพึ่งพาอาหารแปรรูปได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ เพราะเมื่อเราเปิดใจลองเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผักตามฤดูกาล เนื้อสัตว์ หรือธัญพืชต่างๆ มาปรุงอาหารเอง เราจะค้นพบว่ามีเมนูมากมายที่ทำได้ง่ายและอร่อย ทำให้เราสนุกกับการทำอาหารจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาอาหารแปรรูปมากจนเกินไป ซึ่งการที่เราคุ้นเคยกับความหลากหลายของอาหารสดใหม่นี้ มีส่วนช่วยให้เราลดการหยิบอาหารสำเร็จรูปที่มาพร้อมสารปรุงแต่งต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติค่ะ 5. ลดการใช้สารปรุงแต่งอาหารซ้ำซาก ลองจินตนาการว่าถ้าเราคุ้นเคยกับการกินอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ก็มักจะลงเอยด้วยการหยิบอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารแปรรูปมาทาน เพราะสะดวกและไม่ต้องคิดเยอะ แต่พอเราเริ่มเปิดใจลองกินผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรือธัญพืชหลากหลายชนิดมากขึ้น เราก็จะเริ่มสนุกกับการเลือกวัตถุดิบสดใหม่ และลงมือทำอาหารเองจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงปริมาณวัตถุเจือปนในอาหาร น้ำตาล ไขมัน หรือสารกันบูดที่มักจะอยู่ในอาหารแปรรูปได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ส่งผลดีในระยะยาว แถมยังได้ฝึกทักษะการทำอาหารอีกด้วยค่ะ 6. สร้างสุขนิสัยที่ดีในการคัดเลือกและเตรียมอาหาร เมื่อเราอยากจะลองทำเมนูใหม่ๆ หรือหาวัตถุดิบที่ไม่เคยกินมาก่อน เราก็จะเริ่มใส่ใจรายละเอียดมากขึ้น เช่น ต้องเลือกผักที่สดใหม่ ไม่มีรอยช้ำ หรือเลือกเนื้อสัตว์ที่สีไม่คล้ำ ไม่มีกลิ่นผิดปกติ พอซื้อมาแล้วก็ต้องคิดว่าจะล้างยังไงให้สะอาด เก็บรักษาแบบไหนไม่ให้เสียเร็ว และต้องปรุงให้สุกทั่วถึงแค่ไหนเพื่อความปลอดภัย การที่เราต้องฝึกคิดและลงมือทำสิ่งเหล่านี้กับวัตถุดิบที่หลากหลายอยู่เสมอ จะช่วยให้เรามีวินัยและเกิดความชำนาญในการจัดการอาหารอย่างถูกสุขลักษณะโดยอัตโนมัติ กลายเป็นนิสัยดีๆ ที่ติดตัวไปตลอดค่ะ 7. ป้องกันการปนเปื้อนข้าม การกินอาหารที่หลากหลายอาจดูเหมือนไม่เกี่ยวกับการป้องกันการปนเปื้อนข้ามโดยตรง แต่ที่จริงแล้วมีส่วนช่วยสร้างความตระหนักได้ดีมากๆ ค่ะ เมื่อเราต้องเตรียมวัตถุดิบหลายชนิด ทั้งเนื้อสัตว์ดิบ ผักสด หรืออาหารทะเลที่แตกต่างกัน เราจะเริ่มคุ้นเคยและระมัดระวังมากขึ้นในการแยกอุปกรณ์ เช่น การใช้เขียงคนละอันสำหรับเนื้อดิบกับผัก หรือการล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่เปลี่ยนไปจับวัตถุดิบคนละประเภท การที่ต้องจัดการกับความหลากหลายนี้เอง ทำให้เรามีสุขนิสัยในการแยกอาหารและป้องกันสิ่งสกปรกแพร่กระจายจากอาหารชนิดหนึ่งไปอีกชนิดหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยอาหารในครัวเรือนค่ะ 8. ลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมเฉพาะพื้นที่ ลองนึกภาพว่าถ้าเรากินแต่ข้าวที่ปลูกจากแหล่งเดียว หรือปลาที่จับมาจากทะเลอ่าวเดิมๆ เป็นประจำ หากแหล่งผลิตนั้นเกิดมีปัญหาสารเคมีรั่วไหล น้ำเสียปนเปื้อน หรือดินมีสารพิษสะสม เราก็จะได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนเหล่านั้นซ้ำๆ ในปริมาณมาก แต่เมื่อเรากินอาหารที่มาจากแหล่งผลิตที่หลากหลาย ทั้งผักจากหลายจังหวัด ผลไม้จากหลายสวน หรือเนื้อสัตว์ที่มาจากหลายฟาร์ม เราก็จะกระจายความเสี่ยงไป ทำให้ไม่ได้รับสารปนเปื้อนชนิดใดชนิดหนึ่งจากสิ่งแวดล้อมเฉพาะที่มากจนเกินไป เหมือนเป็นการไม่ใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียวนั่นเองค่ะ 9. เพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับตัวเมื่อเกิดปัญหาด้านอุปทาน รู้ไหมคะว่า การกินอาหารที่หลากหลายช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นสูงมาก เวลาเกิดปัญหาด้านอุปทานหรือของขาดตลาดค่ะ ลองนึกภาพว่าถ้าเราเคยชินกับการกินเนื้อหมูเป็นหลัก แล้ววันหนึ่งเกิดโรคระบาดในหมู ทำให้หมูหายากและแพงขึ้นมาทันที เราอาจจะปรับตัวได้ยากลำบาก เพราะไม่รู้จะกินอะไรแทน แต่ถ้าเราเป็นคนกินอาหารหลากหลายอยู่แล้ว เช่น เคยกินไก่ ปลา หรือเต้าหู้เป็นประจำ พอหมูขาดตลาด เราก็แค่เปลี่ยนไปเลือกวัตถุดิบอื่นที่เราคุ้นเคยมาปรุงอาหารแทนได้ทันที ทำให้เราไม่เดือดร้อนและยังคงได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ โดยไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปที่อาจเกิดขึ้นกับอาหารบางชนิดเลยค่ะ 10. ส่งเสริมการบริโภคตามฤดูกาล หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การกินอาหารที่หลากหลายช่วยส่งเสริมการบริโภคตามฤดูกาลได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะเมื่อเราเปิดใจลองกินผัก ผลไม้ หรืออาหารทะเลที่ไม่จำเจ เราก็จะเริ่มสังเกตว่าช่วงไหนมีวัตถุดิบอะไรที่กำลังออกผลผลิตเยอะเป็นพิเศษ เช่น หน้ามะม่วง หน้าทุเรียน หรือช่วงที่ปลาบางชนิดอุดมสมบูรณ์ การเลือกกินตามฤดูกาลแบบนี้ นอกจากจะได้ของที่สดใหม่ มีรสชาติดี และมักจะราคาถูกกว่าแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีหรือสารเร่งโต ที่อาจจำเป็นต้องใช้ในวัตถุดิบนอกฤดูกาลอีกด้วย ทำให้เราได้อาหารที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อตัวเรามากขึ้นค่ะ จากข้อดีมากมายที่เราได้พูดถึงกันมานั้น จะเห็นได้ชัดเลยว่า การกินอาหารให้หลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจ มีประโยชน์รอบด้านอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ที่ไม่ใช่แค่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และลดความเสี่ยงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขาภิบาลอาหารในชีวิตประจำวันของเราอีกด้วย ตั้งแต่การลดโอกาสรับสารพิษสะสม ป้องกันการปนเปื้อนข้าม ไปจนถึงการสร้างสุขนิสัยที่ดีในการเลือกซื้อและเตรียมอาหาร ทำให้เรามั่นใจได้ว่าสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปนั้นทั้งมีคุณค่าและปลอดภัย ดังนั้นหากคนไทยหันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับการกินอาหารที่หลากหลายมากขึ้น ลองเปิดใจลิ้มลองวัตถุดิบใหม่ๆ ทั้งผักพื้นบ้าน ผลไม้ตามฤดูกาล หรือสารอาหารในธรรมชาติจากแหล่งต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมายในบ้านเรา ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับรสชาติที่แปลกใหม่และอร่อยแล้ว ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยของเราให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ วันได้อีกด้วยค่ะ มาเริ่มสร้างสุขนิสัยการกินอาหารที่หลากหลายกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีอย่างยั่งยืนของตัวเราเองและคนที่เรารักค่ะ ซึ่งปกติผู้เขียนเองก็ทำสิ่งนี้ตลอด โดยเป็นคนที่ไม่กินอาหารหนักไปทางใดทางหนึ่ง หรือกินแบบเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นระยะเวลายาวนาน แรมสัปดาห์ แรมเดือนค่ะ แต่จะกินอาหารแบบหวานแห คือ อะไรมาใหม่ๆ ก็ลอง ผักพื้นบ้าน อาหารตามฤดูกาลก็ลอง เมนูใหม่ๆ ไม่เคยทำ ไม่เคยซื้อก็ลองค่ะ และพบว่าจริงค่ะ ที่การกินอาหารแบบนี้ช่วยอะไรหลายอย่างมากๆ ที่มีอยู่วันหนึ่งไปตลาดแล้วกุยช่ายไม่มีขายเลย ผู้เขียนก็แค่ลองมาใช้ต้นหอมแทนเท่านั้นเองค่ะ ยังไงนั้นข้อดีต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อหันมาเป็นคนที่กินอาหารแบบไม่จำเจนะคะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Jcomp จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 วิธีเลือกกวางตุ้ง สดใหม่ มาทำอาหาร ดูยังไงดี 8 ทริคเลือกขนมจีนน้ำยาแกงไก่ แบบไหนดี ทำใหม่ๆ ดูสะอาดน่าซื้อ 9 ทริคเลือกปลานิลสด ทำปลาเผา ดูยังไงดี น่าซื้อ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !