ช่วงนี้หลายคนคงมีปัญหาปากท้องเหมือนๆกัน สำหรับชนชั้นกลางถึงชั้นสูงคงไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ แต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำและไม่มีเงินเดือนเป็นหลักแหล่งนั้น คือเข้าขั้นวิกฤตมากๆเลยนะครับ ภาวะเงินเฟ้อทำให้ข้าวของทยอยกันปรับขึ้นราคา เงินร้อยบาทของเราแทบซื้ออะไรไม่ได้ กำลังการจับจ่ายของคนลดลง ภาวะแบบนี้พลเมืองชาวรากหญ้าก็ลำบากสิครับ รายจ่ายที่มากขึ้นบวกกับรายรับที่ลดลง จากจนอยู่แล้วก็ยิ่งจนกว่าเก่า! บทความนี้ผมเลยมานำเสนอทางรอดเล็กๆน้อยๆครับ เพราะผมเคยเป็นคนที่ติดน้ำอัดลม , ชา , กาแฟ มาก่อน คือต้องกินทุกวันๆละเป็นลิตร วันไหนเบื่อโคล่าก็เปลี่ยนมากินกาแฟหรือชาเขียวแทน ซึ่งมูลค่าต่อแก้วก็ไม่ต่ำกว่า 30 - 40 บาทขึ้นไป น้ำอัดลมขวดหนึ่งก็ต้องมี 32 - 35 บาท คำนวณต่อเดือนก็ตกเดือนละเป็นพันเชียวนะครับ ถึงเวลาสักทีที่ต้องประหยัด พอกันทีกับรายจ่ายสุรุ่ยสุร่ายอันไม่เกิดประโยชน์ ว่าแล้วผมก็เลยลองต้มโอเลี้ยงกินเองดูครับ ซึ่งผลที่ออกมาก็คือน่าประทับใจมาก หอมหวานชื่นใจ ประหยัดได้สะใจสุดๆ ส่วนกรรมวิธีการทำก็แสนจะง่าย มาครับผมจะพาทำ แล้วคุณผู้อ่านจะเห็นว่าด้วยเงินระดับเดียวกัน คุณสามารถต้มได้เป็นสิบหม้อเลยล่ะ!1. ซื้อกาแฟโบราณมาเตรียมไว้ขออภัยที่ผมไม่สามารถบอกยี่ห้อได้ แต่เอาเป็นว่าคุณผู้อ่านสามารถซื้อหากาแฟสำเร็จรูปแบบนี้ได้ทั่วไปตามท้องตลาด มันคือกาแฟโบราณที่เขาชงขายกันตามร้านรถเข็น มีหลายขนาดหลายราคาครับ แต่ที่ผมซื้อมานี้คือปริมาณ 400 กรัมราคาห่อละ 29 บาทเท่านั้น!2. ซื้อถุงชงชามาเตรียมไว้ที่จริงจะทำเองก็ได้ครับสำหรับอุปกรณ์ชนิดนี้ แต่สำหรับผมๆซื้อเจ้าสิ่งนี้มาจากร้านทุกอย่าง 20 ถูกสะใจมาก! หรือถ้าเกิดใช้จนขาด เราก็ยังเอาผ้าขาวบางมาเย็บเปลี่ยนใหม่ได้ครับ รับประกันงานนี้คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน3. ตักกาแฟโบราณใส่ลงไปในถุงอันนี้เอาตามปริมาณที่เราชอบเลยครับ ใครชอบเข้มข้นมากก็ใส่ไปเยอะๆได้เลย แต่สำหรับผมๆตักไป 4 - 5 ช้อนโต๊ะ โดยใช้อัตราส่วนต่อน้ำ 1 ลิตรครับ4. ตั้งหม้อต้มน้ำร้อนหม้อที่ผมใช้เป็นหม้อชาบู ขนาดความจุอยู่ที่ 1 ลิตร คุณผู้อ่านมีหม้อแบบไหนก็เลือกใช้ได้ตามสะดวกครับ แต่ขั้นตอนนี้เราต้องต้มน้ำร้อนให้เดือดจัดๆซะก่อนนะครับ5. ดับไฟแล้วเอาถุงชงชาที่เตรียมไว้หย่อนลงไปเอาถุงชงชาที่ใส่กาแฟไว้หย่อนลงไปตามภาพเลยครับ เราจะเห็นว่าสีของน้ำจะเริ่มเปลี่ยนไป และกลิ่นความหอมหวานสุดอร่อยก็จะเริ่มโชยออกมา หน้าที่ของเราหลังจากนี้คือการใช้มือข้างหนึ่งจับด้ามถุงชาไว้ แล้วก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างถือช้อน แล้วก็ทำการคนกาแฟในถุงให้คลุกเคล้ากับน้ำร้อน คนวนไปมาสลับกับยกถุงขึ้นๆลงๆ ให้เหมือนกับตอนที่คุณลุงคุณป้าเขาชงขายเราตามรถเข็นอ่ะครับ คนไปเรื่อยๆ และใช้เวลาประมาณ 5 นาที 6. ใส่น้ำตาลตามชอบใจพอถึงขั้นตอนนี้เราก็ยกถุงชาออกไปเททิ้งได้เลย น้ำในหม้อจะกลายเป็นกาแฟดำเข้มๆแล้ว และต่อไปก็ตักน้ำตาลทรายใส่ลงไปได้ตามชอบใจเลย ชอบหวานมากก็ใส่มาก ชอบหวานน้อยก็ใส่น้อย สำหรับผมๆใส่ไป 12 ช้อนโต๊ะ! คือมันก็หวานล่ะครับแต่ผมคิดเผื่อตอนกินใส่น้ำแข็งด้วย ผมมองว่าปริมาณนี้กำลังพอดี พอใส่น้ำตาลเสร็จเราก็ใช้ทัพพีคนๆให้น้ำตาลละลายอีกสักนิดครับ 7. บรรจุใส่ขวดเพื่อความสะดวกหลังจากปล่อยไว้ให้เย็นสักพัก เราก็ไปหาขวดน้ำอัดลมเก่าๆมากรอกกาแฟดำหรือโอเลี้ยงของเราลงไป แล้วก็เอาไปแช่ตัวเย็นให้เย็นจัด ความเย็นจะทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นครับ อารมณ์มันจะเหมือนโอเลี้ยงที่เรากินตามโรงอาหารในโรงเรียนตอนเด็กๆเลย 8. สามารถดัดแปลงทำเมนูอื่นก็ได้ใช่ครับ! ด้วยวิธีเดียวกันนี้ เราแค่เปลี่ยนจาก "ผงกาแฟโบราณ" เป็น "ผงชาเย็น" หรือ "ผงชาเขียว" ก็สามารถทำเครื่องดื่มเย็นๆ แบบประหยัดเช่นนี้ได้เหมือนกัน แต่ราคาต้นทุนวัตถุดิบก็จะแพงขึ้นหน่อย ชาเย็นน่าจะห่อละ 35 บาท ส่วนชาเขียวห่อเล็กสุดก็น่าจะห่อละ 65 บาท แต่เชื่อผมเถอะครับ! เราต้มได้หลายหม้อยังไงก็คุ้มกว่าซื้อแบบเป็นแก้วกินเยอะ! แล้วรสชาติก็ไม่ได้เกินกันเท่าไหร่หรอก (เราปรับหวานมากหวานน้อยได้เองด้วย) 9. ถ้ามีงบเหลือใส่ท็อปปิ้งเป็นไข่มุกนุ่มๆ กับราดนมด้วยก็ได้อันนี้ยิ่งอร่อยขึ้นทวีคูณครับ ไข่มุกห่อละ 1 กก. ราคา 40 บาท วิธีการต้มก็แค่ต้มกับน้ำร้อนธรรมดา แต่อาจจะต้องเสียเวลายืนคนเรื่อยๆนิดนึงเพราะมันไหม้ติดก้นหม้อค่อนข้างง่าย พอต้มเสร็จเราก็ใส่น้ำตาลเข้าไปอีกหน่อย แล้วก็ตักใส่กระปุกแช่ตู้เย็นไว้ พอจะกินก็เอามาโปะบนโอเลี้ยงของเรา ราดนมข้นจืดหอมๆมันๆสักหน่อย โอ้โห! ผมบอกเลยครับคุณผู้อ่าน ศักดิ์ศรีของโอเลี้ยงเราไม่แพ้ร้านไหนในโลกใบนี้เลย มิหนำซ้ำยังเซฟค่าใช้จ่ายให้เราได้เกือบ 1 ใน 3 อีกต่างหาก สรุปสุดท้าย จะเห็นว่าในรูปผมใส่ทุกอย่างแบบไม่ยั้งเลย อยากกินเยอะเท่าไหร่ก็ได้ไม่ต้องกลัวงก แล้วกินแค่สองแก้วต่อวันคืออิ่มแล้วครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนเลย งานนี้ผมว่ามีแต่คุ้มกับคุ้ม เศรษฐกิจบัดซบแบบนี้ลองเอาวิธีนี้ไปใช้กันได้นะครับ ทุกขั้นตอนทำได้แบบง่ายๆ ผมผู้ทำครัวไม่เป็นยังทำได้เลย คุณผู้อ่านก็ต้องทำได้เหมือนกัน แล้วเราจะรอดจากความยากจนนี้ไปด้วยกันครับ.. เครดิตรูปภาพภาพทั้งหมดผู้เขียนถ่ายเอง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !