ภาพปกโดยนักเขียน หากจะพูดถึงขนมเบเกอรี่ และร้านเบเกอรี่ไม่ว่าจะเป็นแบบแฟรนไชส์ หรือโฮมเมดต่างก็เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน แต่หากจะพูดถึงคำว่า เบเกอรี่ หรือร้านเบเกอรี่ เมื่อย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน คงจะเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับคนในยุคนั้นเป็นแน่ แม้ว่าประเทศไทยจะมีการเปิดรับวัฒนธรรม และอาหารการกินของชาวต่างชาติมาเป็นเวลานานแล้ว แต่การปรับตัว และพัฒนาของผู้คนย่อมต้องอาศัยเวลา มีทั้งการเริ่มต้น และการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในบางครั้งก็มีเพียงน้อยนิดที่เป็นผู้เริ่ม เมืองเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่มักจะแวะเวียนมาที่เมืองนี้บ่อย ๆ และถึงแม้ว่าปัจจุบันจังหวัดนี้จะมีร้านอาหาร และคาเฟ่ต์จำพวกเบเกอรี่ที่ขึ้นชื่อ และกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอยู่มากมาย แต่ก็มีไม่กี่ร้านที่เป็นทั้งตำนาน และความทรงจำ เกษมสโตร์ เป็นหนึ่งในร้านเบเกอรี่ที่เปิดทำการอยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มานาน แม้ว่าจะเป็นร้านที่ไม่ได้มีการตกแต่งหรูหรา หรือมีขนาดใหญ่โตอะไร แต่ด้วยความที่เป็นร้านเก่าแก่ แถมยังเป็นร้านเบเกอรี่โฮมเมด ที่เปิดทำการมาหลายสิบปี ทำให้กลายเป็นร้านประจำของทั้งคนในท้องถิ่น และชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ภาพโดยนักเขียน ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงสี่แยกกาดวโรรส โดยถ้าเรามองเห็นซุ้มประตูสีแดงที่เป็นทางเข้ากาดวโรรสอยู่ด้านหน้า ร้านนี้จะตั้งอยู่ติดทางเท้าตรงฝั่งซ้ายมือค่ะ เดินมาจากหัวมุมทางเท้าประมาณ 100 เมตรก็จะเจอกับร้านเลย ทางร้านไม่มีป้ายชื่อแต่จะเอกลักษณ์คือประตูกระจกที่พอมองเข้าไปแล้วจะเห็นเบเกอรี่เรียงรายอยู่ด้านใน ร้านเปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 9.00-17.00 น. เว้นวันอาทิตย์ และวันหยุดอื่น ๆ ต้องคอยติดตามประกาศของทางร้านอีกทีค่ะ ภายในร้านมีการตกแต่งด้วยขนมเบเกอรี่ทำเองเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง, พาย, คุกกี้ และอื่น ๆ อีกมากมาย ราคาแต่ละชิ้นจะเริ่มต้นที่ 15 บาท ภาพโดยนักเขียน ตรงเคาน์เตอร์เองก็จะมีขนมที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ ทุกวันมาวางอยู่ตลอด ซึ่งเมนูแต่ละวันจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแม่ครัว และขนมบางชนิดจะมีเวลาทำที่แน่นอน อย่างเช่นเค้กกล้วยหอมจะอบเสร็จหลังจากเวลา 10 โมงเช้า เป็นต้นไปค่ะ ภาพโดยนักเขียน ร้านนี้เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากสำหรับทั้งคนไทยในละแวกนี้ และชาวต่างชาติ ซึ่งช่วงเที่ยงถึงบ่าย จะมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก ขนมอาจจะหมดเร็วได้ แนะนำให้แวะมาช่วงก่อนเที่ยงจะดีที่สุดค่ะ วันนี้นักเขียนแวะมาซื้อคุกกี้โฮมเมดกลับบ้าน โดยมีสามรสชาติคือ ข้าวโอ๊ต, คอนเฟลก และชอกโกแลตค่ะ ราคาอยู่ที่ถุงละ 100 บาท ภาพโดยนักเขียน ข้าวโอ๊ต ภาพโดยนักเขียน -เนื่องจากคุกกี้รสนี้จะมีการใส่อัลมอนด์เพิ่มไปด้วย ก็เลยมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมเพื่อให้ง่ายต่อการผสม และการอบ ตัวข้าวโอ้ตจะบดไม่ละเอียด เวลาทานจะเจอเนื้อสัมผัสของข้าวโอ๊ตปนกับแป้งคุกกี้ เคี้ยวสนุกไปอีกแบบค่ะ -ความกรอบของคุกกี้จะกรอบนอกนุ่มใน ไม่แข็งจนเกินไป ผู้สูงอายุสามารถทานได้แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย รสชาติจะหวานมันเล็กน้อย และมีรสเค็มปนมานิดหน่อย คอร์นเฟลก ภาพโดยนักเขียน -ตัวคุกกี้รสนี้จะมีความขรุขระเพราะมีส่วนผสมเยอะ ทั้งคอร์นเฟลก, เมล็ดธัญพืช, ลูกเกด รสชาติจะหวานกว่ารสอื่นมาก เพราะตัวคอนเฟลก และลูกเกดจะมีการเคลือบน้ำตาลอยู่ก่อนแล้ว และยังมีน้ำตาลเคลือบบนตัวคุกกี้อีกที แต่ไม่ถึงกับหวานจนแสบคอ สำหรับคนชอบทานหวานรสนี้จะเหมาะมากค่ะ -ความกรอบของรสนี้เนื้อแป้งจะกรอบกว่าตัวแรก และยังมีความกรอบของตัวคอนเฟลกเพิ่มมาด้วย แนะนำว่าคนที่มีอาการไอ หรือเจ็บคออย่าทานค่ะ ไม่งั้นอาจทำให้อาการหนักขึ้น ชอกโกแลต ภาพโดยนักเขียน -รสนี้นักเขียนชอบที่สุดค่ะ เนื้อแป้งคุกกี้จะเหมือนกับสูตรข้าวโอ๊ต แต่รูปร่างจะเป็นทรงกลม และมีชอกโกแลตชิพแทรกอยู่ตามเนื้อคุกกี้ ซึ่งถือว่ามีปริมาณเยอะพอสมควร รสชาติของตัวแป้งคุกกี้จะจืด แต่จะมีรสหวานปนขมนิด ๆ จากชอกโกแลตแทนค่ะ ตามโลโก้ที่ซอง ร้านนี้เปิดมากว่า 50 ปีแล้ว เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ๆ แต่ความนิยมไม่ได้ลดลงไปเลยค่ะ ภาพโดยนักเขียน นอกจากคุกกี้แล้ว เมนูแนะนำจำพวกเบเกอรี่ของร้านนี้ก็มีอีกจำนวนมาก และแน่นอนว่าอร่อยทุกเมนู ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ใครที่เป็นสาวกเบเกอรี่ต้องแวะมาให้ได้เลยนะคะ