แนะนำ 10 เมนูของหวานที่ชอบทาน “เรารู้นะว่าเธอก็ชอบ” ในตอนนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำเมนูของหวานที่ชอบทานให้กับเพื่อน ๆ ชาว True ID In -Trend ด้วยความที่ชอบทานขนมหวานเป็นส่วนตัวเลยอยากจะมาแชร์ความชอบ และบางเมนูคิดว่าหลายท่านคงรู้จักกันดีแต่ที่ไม่รู้จักก็มีนะจะได้เรียกถูก “มีแบบนี้ด้วยหรอ” ขนมหวานของไทยควรได้รับการอนุรักษ์ไว้คู่กับประเทศไทยเพื่ออนุชนคนรุ่นหลังซึ่งปัจจุบันในคนรุ่นใหม่จะไม่นิยมทานขนมหวานไทยกันแล้ว เนื่องจากจะหนักหวานมากแคลอรี่บานประกอบกับคนยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ผู้รังสรรค์เมนูก็คงต้องปรับสูตรความหวาน และสร้างสรรค์ เพื่อตอบรับความต้องการของคนในยุคนี้ ผู้เขียนสะท้อนออกมาให้เห็นเป็นเมนูของหวานที่ชอบจากส่วนตัว มาดูกันว่ามีเมนูของหวานไหนที่ถูกใจน่าลิ้มลองสำหรับคุณบ้าง 1. ขนมเส่งเผ่ ฮาละหว่า เป็นขนมท้องถิ่นที่มีขายเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สอดซึ่งรับอิทธิพลมาจากชาวไทยใหญ่ เส่งเผ่จะเป็นข้าวเหนียวแดงผสมน้ำอ้อย และกะทิ ด้านบนจะราดกะทิด้านล่างข้าวเหนียวแดง รสชาติหวานมัน ส่วนฮาละหว่ามีลักษณะสีขาวด้านบนราดด้วยกะทิเช่นเดียวกันแต่ด้านล่างจะทำจากแป้งข้าวเจ้า ผสมกับน้ำตาลทราย กะทิ และสาคู รสชาติหวานมันเค็ม อารมณ์เหมือนทานขนมถ้วยอยู่เหมือนกัน และถ้าไปเดินในตลาดท้องที่ก็จะพบถาดใหญ่ ๆ มีการตัดขนมแบ่งเป็นชิ้นขายนี่แหละขนมเส่งเผ่ ฮาละหว่า (คล้ายกับการตัดขนมชั้น) ซึ่งขนมเส่งเผ่ ฮาละหว่าเป็นขนมคู่เมืองแม่สอดผู้คนนิยมซื้อทานกันที่บ้าน บ้างก็นำไปถวายพระ ของโปรดของผู้เขียนโดยเฉพาะเส่งเผ่กัดไปเคี้ยวหนืบ ๆ อร่อยมากค่ะ ใครสนใจต้องลองแวะมาเที่ยวอำเภอแม่สอดสักครั้งนะคะ รูปโดยผู้เขียน รูปโดยผู้เขียน 2. โรตีโอ่ง แม่สอด อาหารที่โด่งดังในแม่สอดเป็นแหล่งเช็คอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาโดนกันโดยส่วนตัวจะจัดเป็นของทานคู่กับกาแฟเลยให้อยู่ในหมวดของหวาน แต่เขามีให้ทานคู่กับเครื่องแกงร้อนอยู่เหมือนกัน ผู้เขียนทานโรตีแปะโอ่งคู่กับกาแฟ และชาร้อน หรือนมร้อน (จากนมแพะ) อร่อยมากโดยมีนมข้นหวานเป็นดิปจุ่มก็อร่อยไปอีกแบบ แต่ขอบอกก่อนว่าคิวเยอะมาก ตั้งแต่ตี 5 ต้องใช้เวลานิดนึงในการไปรอคิวจะสั่งกลับบ้านหรือที่ร้านคนนั่งค่อนข้างแน่น โรตีโอ่ง แผ่นละ 5 บาท ชานม กาแฟ โอวัลติน 15 บาท นมสด 20 บาท หอมอร่อย รูปโดยผู้เขียน 3. ขนมต้มใบเตย เป็นขนมที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยซึ่งเข้ามาพร้อมกับศาสนาพราหมณ์ และเป็นของหวานมงคลที่อยู่คู่คนไทยมาหลายชั่วอายุด้วยแป้งที่นุ่มไส้หวานหอมมะพร้าวใบเตย สามลูกนี้หมดภายในพริบตาด้วยความชอบ (555+) ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่หาทานยากพอเจอต้องจัดสักหน่อย รูปโดยผู้เขียน 4. บัวลอยไข่หวาน สีสันชวนน่ารับประทานขนมหวานที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยเม็ดบัวลอยรังสรรค์สีเหลืองที่ทำมาจากฟักทอง ไข่ไม่สุกมากพร้อมใส่ขิงลงไปลดความคาวของไข่อร่อยลงตัวกับความหวาน และกะทิเค็มนิดหน่อยของโปรดอีกเมนูที่ชื่นชอบ รูปโดยผู้เขียน 5. สังขยาฟักทอง ขนมที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส โดยตัวสังขยาทำจาก ไข่ผสม น้ำตาล เกลือ และกะทิ หยอดเทลงไปในฟักทองที่ผ่านการคว้านไส้ฟักทองออกแล้ว หลังจากนั้นเขาจะนำไปนึ่งพอได้ที่ผ่าออกมาน่ารับประทานอย่างนี้ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อสังขยาที่เนียนนุ่ม หวานพอดีเมื่อทานพร้อมกับเนื้อฟักทอง วันไหนไปตลาดเจอเจ้าที่วางขายรีบดิ่งไปเลยคิดดูว่าชอบไม่ชอบ รูปโดยผู้เขียน 6. สาคูเปียกอัญชันเพิ่มลูกชิด ขนมไทยดั้งเดิมสูตรความอร่อย แป้ง น้ำตาล กะทิ ดูจากสีแล้วยั่วยวนชวนน่ารับประทานยิ่งนักไม่รอช้าจัดจานราดน้ำกะทิลงหน้าสาคูเปียกเพิ่มรสชาติเค็มขึ้นมานิดพร้อมชิมรสชาติถูกใจไม่หวานมาก เมื่อทานเข้าไปแล้วจะกลิ่นหอมใบเตยน่าจะมาจากกะทิอีกด้วย อร่อยทะลุจอ รูปโดยผู้เขียน 7. ขนมตะโก้เผือก ด้านบนเป็นกะทิ ด้านล่างเป็นแป้งผสมกับเผือกคนนิยมนำไปทำบุญกันหาซื้อกันค่อนข้างยากแล้วถ้ามีตามท้องตลาดเขาจะทำกระทงจากใบเตยซึ่งพอทานไปจะได้กลิ่นหอม แต่นี่แม่บ้านของโครงการฯ ทดลองทำมาให้ผู้เขียนลองชิมเดิมที่ชอบทานตะโก้อยู่แล้วก็ถูกใจเหมือนกันค่ะ ด้วยความหวานมันเค็มพอดีละมุนลิ้น “ยกนิ้วให้เลย” รูปโดยผู้เขียน รูปโดยผู้เขียน 8. ข้าวเหนียวทุเรียน ในฤดูกาลแห่งความร้อนนี้ที่ขาดไม่ได้คือ ทุเรียน ทานแบบเป็นพูก็อร่อยนำมาทำขนมหวานก็ดีค่ะ ข้าวเหนียวมูน น้ำกะทิพร้อมเนื้อทุเรียน อร่อยเมนูนี้คือราชาผลไม้อย่าง ทุเรียน ไม่น่าพลาด (ทานเยอะระวังร้อนในนะ) รูปโดยผู้เขียน 9. สละลอยแก้ว คุณประโยชน์ของสละทั้งวิตามินซี แคลเซียม ทานยามบ่ายช่วงอากาศร้อน ๆ ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ กลิ่นหอมของสละอร่อยชื่นใจในยามบ่าย รูปโดยผู้เขียน 10. ลอดช่องวัดเจษเจ้าดัง มีไว้ติดตู้ยามร้อนร่างกายต้องการของหวานช่วยได้เยอะเลย หอมกะทิน้ำตาลมะพร้าวหวานอร่อยใส่น้ำแข็งนิดหน่อยจะลงตัว เนื้อนุ่มฟินมากเจอที่ไหนอดไม่ได้ที่จะหิ้วติดมือกลับบ้าน รูปโดยผู้เขียน สำหรับของหวานทั้ง 10 เมนูน่าจะถูกใจของใครหลายคนวัตถุประสงค์ที่นำมาเสนอเพียงอยากแนะนำเพื่อให้คนรุ่นใหม่สนใจขนมไทยกันบ้าง แต่ใครที่จะชอบทานหวานแค่ไหนก็ต้องทานให้พอดี หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ เนื่องจากของหวานเนี่ยนอกจากจะทำให้เกิดโรคอ้วนแล้ว ยังมีโรคอื่น ๆ ตามมาได้