9 ทริคกินอย่างไรดี ช่วยโลกลดขยะอาหาร สร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืน อ่านต่อกันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ปัญหาขยะอาหารไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นหนึ่งในวิกฤตการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อโลกของเราอย่างมหาศาลค่ะ เพราะในทุกปีอาหารปริมาณมากถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ตั้งแต่ในขั้นตอนการผลิตไปจนถึงจานอาหารในบ้านของเราเอง และรู้ไหมคะว่า การทิ้งอาหารไม่เพียงแต่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น น้ำ ที่ดิน และพลังงานที่ใช้ในการผลิตเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการย่อยสลายของอาหารในกองขยะ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้นการลดขยะอาหารจึงไม่ใช่แค่การจัดการสิ่งของเหลือใช้ แต่คือการแสดงความรับผิดชอบต่อโลกและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงค่ะ ดังนั้นความจำเป็นในการเรียนรู้เรื่องนี้ จึงเกิดขึ้นจากความจริงที่ว่า ทุกการกระทำเล็กๆ ของเราล้วนส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้ ซึ่งการเรียนรู้เรื่องนี้ถือเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เพราะจะช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมได้โดยตรง โดยเมื่อเราทุกคนเริ่มตระหนักและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงในวงกว้างก็จะเกิดขึ้นได้ในที่สุด ซึ่งการเข้าใจว่าทำไมการลดขยะอาหารถึงสำคัญ ถือเป็นก้าวแรกที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป และเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เขียนต้องการบอกต่อเกี่ยวกับแนวทางต่างๆ ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ค่ะ 1. วางแผนก่อนซื้อเสมอ การเริ่มต้นลดขยะอาหารอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วเริ่มต้นได้ง่ายๆ แค่ ต้องวางแผนก่อนซื้อเสมอ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้โดยตรง ลองคิดดูว่าทุกครั้งที่เราไปซูเปอร์มาร์เก็ตโดยไม่มีรายการของที่ต้องซื้อ เรามักจะหยิบของเกินความจำเป็น หรือไม่ก็ซื้อของที่ไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่มาเก็บไว้ในตู้เย็น ซึ่งสุดท้ายแล้วของบางอย่างก็อาจเน่าเสียจนต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นการวางแผนจึงไม่ใช่แค่การประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังเป็นการช่วยลดขยะอาหารที่จะถูกส่งไปฝังกลบ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยให้ทรัพยากรต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตอาหารไม่สูญเปล่าไปอย่างเปล่าประโยชน์ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้จึงเป็นเหมือนก้าวแรกที่ทรงพลังในการสร้างโลกที่ยั่งยืนขึ้นได้จริงค่ะ 2. เข้าใจความหมายของวันหมดอายุ เมื่อพูดถึงการลดขยะอาหาร การทำความเข้าใจความหมายของวันหมดอายุ (Expiry Date) บนฉลากอาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญที่ช่วยลดขยะอาหารได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ เพราะหลายครั้งเราทิ้งอาหารที่ยังดีอยู่ไป เพียงเพราะเห็นวันที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ แต่แท้จริงแล้ววันที่เหล่านั้นมีความหมายที่แตกต่างกัน เช่น คำว่า “ควรบริโภคก่อน (Best Before)" ซึ่งหมายถึงคุณภาพอาจลดลงหลังจากวันนั้น แต่ก็ยังสามารถบริโภคได้โดยปลอดภัย ในขณะที่คำว่า "ควรบริโภคภายใน (Use By)" คือวันที่อาหารจะเริ่มไม่ปลอดภัยหากบริโภคหลังจากนั้น การที่เราแยกแยะความหมายของสองคำนี้ได้ จะช่วยให้เราไม่ต้องทิ้งอาหารที่ยังกินได้ไปอย่างสูญเปล่า ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยลดปริมาณขยะอาหารที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนจากครัวของเราเอง โดยประเด็นที่ว่าอาหารที่มีป้ายคำว่า "ควรบริโภคก่อน (Best Before)" จะยังกินได้อย่างปลอดภัยไปได้นานแค่ไหนหลังจากวันนั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยค่ะ เพราะไม่มีกฎตายตัวที่ระบุเป็นจำนวนวันแน่ชัด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและวิธีการจัดเก็บนะคะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง และอาหารกระป๋อง มักจะยังคงกินได้นานหลังจากวันที่ระบุไว้บนฉลากว่า "ควรบริโภคก่อน" ตัวอย่างเช่น อาหารกระป๋อง: สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี หากยังไม่ได้เปิดกระป๋องและเก็บไว้ในที่แห้ง อาหารแห้ง เช่น พาสต้า ข้าว ซีเรียล สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี หากเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและป้องกันความชื้น อาหารแช่แข็ง: สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนหรือเป็นปีในช่องแช่แข็ง ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารค่ะ 3. รู้จักการจัดเก็บอาหารให้ถูกวิธี คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า หนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถเริ่มต้นช่วยลดขยะอาหารได้ทันที คือ การรู้จักจัดเก็บอาหารให้ถูกวิธีค่ะ เพราะบ่อยครั้งที่อาหารต้องถูกทิ้งไปไม่ใช่เพราะวันหมดอายุ แต่เป็นเพราะเก็บผิดวิธีจนเน่าเสียก่อนเวลาอันควร ลองคิดดูว่าผักสดที่เราซื้อมาอย่างตั้งใจจะอยู่ได้นานขึ้นแค่ไหน ถ้าเราล้างและห่อกระดาษเก็บไว้ในช่องผัก แทนที่จะวางทิ้งไว้ทั้งถุง หรือเนื้อสัตว์ที่เราแช่แข็งในภาชนะที่ปิดสนิท แบบนี้ก็ช่วยยืดอายุของอาหารได้อีกนานค่ะ ดังนั้นการจัดเก็บอย่างถูกวิธีจึงไม่ใช่แค่การรักษาความสดใหม่ แต่ยังเป็นการยืดชีวิตของอาหารให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ที่สุด ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อการลดขยะในครัวเรือน ลดการสูญเสียทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตอาหาร และช่วยให้เราทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนขึ้นได้ง่ายๆ จากการกระทำเล็กๆ ในทุกวันค่ะ 4. แบ่งปันอาหารส่วนเกิน หลายคนอาจจะยังมองภาพไม่ออกและคิดว่า การลดขยะอาหารเป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่งที่สนใจเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วประเด็นนี้เป็นเรื่องของทุกคนในสังคมที่สามารถมีส่วนร่วมได้ค่ะ และการแบ่งปันอาหารส่วนเกิน เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ทรงพลังอย่างมากในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพราะบ่อยครั้งที่เราซื้ออาหารมาเยอะเกินไป หรือทำกับข้าวแล้วเหลือในปริมาณที่ยังสามารถแบ่งปันได้ การปล่อยให้อาหารเน่าเสียไปอย่างน่าเสียดายในตู้เย็น จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ นะคะ ดังนั้นการแบ่งปันอาหารให้เพื่อนบ้าน ครอบครัว หรือแม้แต่การบริจาคให้กับผู้ที่ขาดแคลน ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน และที่สำคัญคือเป็นการสร้างคุณค่าให้กับอาหารนั้นๆ อย่างแท้จริง แทนที่จะทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ การแบ่งปันอาหารจึงเป็นทั้งการทำความดีต่อผู้อื่น และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกของเราไปพร้อมๆ กันค่ะ 5. ซื้อของจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น รู้ไหมคะว่า การซื้อของจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น เป็นแนวทางที่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนได้โดยตรง เพราะสินค้าท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่ต้องผ่านกระบวนการขนส่งที่ยาวนาน เหมือนสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบต่อโลกของเรา นอกจากนี้การเลือกซื้อผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์จากเกษตรกรในชุมชนยังช่วยให้เราได้วัตถุดิบที่สดใหม่กว่า ทำให้เก็บรักษาได้นานขึ้น ลดโอกาสที่ของจะเน่าเสียก่อนนำมาปรุงอาหาร การกระทำเล็กๆ แบบนี้จึงไม่ใช่แค่การอุดหนุนคนในพื้นที่เท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นการช่วยลดขยะอาหารและดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย 6. สร้างสรรค์เมนูจากอาหารเหลือ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจรู้สึกว่า การลดขยะอาหารฟังดูเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ แต่เป็นการเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในครัวของเราต่างหาก ซึ่งการสร้างสรรค์เมนูจากอาหารเหลือ คือ อีกหนึ่งวิธีที่สนุกและได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ลองนึกภาพตามค่ะว่า แทนที่เราจะทิ้งข้าวสวยที่เหลือจากมื้อเย็นไปอย่างน่าเสียดาย เราสามารถนำมาทำเป็นข้าวผัดหรือข้าวต้มในมื้อเช้าได้ หรือนำผักที่เริ่มจะเหี่ยวมาทำเป็นซุปหรือน้ำสต็อกรสชาติกลมกล่อมได้ ซึ่งการทำแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยลดปริมาณขยะอาหารที่ต้องถูกนำไปฝังกลบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซมีเทนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนะคะ ดังนั้นการเปลี่ยนอาหารเหลือให้กลายเป็นเมนูใหม่ที่อร่อยไม่แพ้ของเดิม จึงเป็นทั้งการรักษ์โลกและเป็นการฝึกฝนทักษะการทำอาหารไปในตัวค่ะ 7. ใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบ เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า การลดขยะอาหารเป็นเรื่องที่เริ่มต้นได้ง่ายๆ จากการที่เรามองวัตถุดิบในครัวด้วยมุมมองใหม่ๆ ค่ะ คือแทนที่จะทิ้งส่วนที่ไม่คุ้นเคย เช่น เปลือก หัว หรือก้านไปอย่างน่าเสียดาย ลองเปลี่ยนมาใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบดูสิคะ เพราะหลายครั้งส่วนที่เราทิ้งไปนั้นกลับมีคุณค่ามากกว่าที่คิด เช่น เปลือกมันฝรั่งสามารถนำไปทอดให้กรอบอร่อยได้ หรือก้านผักบุ้งจีนก็สามารถนำไปผัดได้ดีไม่แพ้ใบและยอดอ่อนค่ะ ดังนั้นการนำส่วนต่างๆ ของวัตถุดิบมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราได้เมนูใหม่ๆ ที่น่าสนใจนะคะ แต่ยังเป็นการลดปริมาณขยะอาหารที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง และยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมจากบ้านของเราด้วยค่ะ 8. ทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร หลายคนอาจคิดว่า การลดขยะอาหารเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ เพราะเราสามารถเริ่มต้นง่ายๆ จากในครัวของเราเองได้ ด้วยการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารนะคะ เพราะเศษผัก เปลือกผลไม้ หรือแม้แต่กากกาแฟที่เรามักจะทิ้งไปนั้นไม่ใช่ขยะ แต่เป็นทรัพยากรที่มีค่าอย่างยิ่ง ซึ่งการนำเศษอาหารจากบ้านของเรามาทำเป็นปุ๋ยหมัก ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศอีกด้วยนะคะ และช่วยให้เราได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี สำหรับนำไปบำรุงต้นไม้ในบ้านอีกด้วย การกระทำง่ายๆ นี้จึงเป็นการปิดวงจรของขยะอาหารอย่างสมบูรณ์แบบ เปลี่ยนของที่ไร้ค่าให้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงค่ะ 9. สั่งอาหารอย่างพอดีและทานให้หมดจาน จริงๆ แล้ว การลดขยะอาหารไม่ใช่เรื่องต้องทำที่บ้านเท่านั้นนะคะ เพราะเราทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ แม้แต่ตอนที่เราออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ด้วยการสั่งอาหารแค่พอดีและทานให้หมดจานค่ะ เพราะบ่อยครั้งที่เราสั่งอาหารตามใจอยากจนเกินพอดี สุดท้ายก็ต้องทิ้งอาหารที่เหลือไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสิ้นเปลืองเงินเท่านั้น แต่ยังสร้างขยะอาหารเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็นอีกด้วย การตัดสินใจสั่งอาหารในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของเรา และพยายามทานให้หมดจาน จึงเป็นการแสดงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม ที่เป็นการลดภาระให้กับระบบกำจัดขยะของโลกไป ซึ่งการกระทำเล็กๆ นี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราจะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนในทุกๆ วันค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับ 9 วิธีที่น่าสนใจสำหรับคนรักษ์โลก ในประเด็นที่ว่าเราจะกินอาหารยังไงดี ให้มีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ที่โดยสรุปแล้วการลดขยะอาหารอาจฟังดูเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน แต่จริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการทำทุกแนวทางพร้อมกันทั้งหมดค่ะ แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างสม่ำเสมอต่างหาก ที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนได้ ซึ่งการเริ่มจากสิ่งที่เราทำได้ง่ายที่สุดในชีวิตประจำวันจะช่วยให้เราไม่รู้สึกท้อแท้ เช่น การวางแผนก่อนซื้อของทุกครั้ง หรือการทำความเข้าใจวันหมดอายุบนฉลากอาหาร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของทุกคน เพราะจะช่วยลดปริมาณอาหารที่ต้องทิ้งตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารด้วยซ้ำค่ะ และเมื่อเราทำสิ่งเล็กๆ เหล่านั้นได้ดีแล้ว เราจะค่อยๆ มีกำลังใจที่จะขยับไปทำทริคอื่นๆ ต่อไปได้อย่างง่ายดายนะคะ สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือพื้นที่จำกัด การเริ่มต้นจากเคล็ดลับง่ายๆ ในครัวเรือนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ เช่น การวางแผนก่อนซื้อของ เพื่อไม่ให้ซื้อของเกินจำเป็นและลดโอกาสที่อาหารจะเน่าเสียไปเปล่าๆ หรือ การจัดเก็บอาหารให้ถูกวิธี เพื่อยืดอายุของวัตถุดิบให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงการสร้างสรรค์เมนูจากอาหารเหลือ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้พื้นที่เพิ่มเติมเลย ส่วนวิธีอย่างการทำปุ๋ยหมักอาจจะทำได้ยากกว่าในพื้นที่จำกัด ก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันที่จะต้องทำทุกอย่างนะคะ เพราะแค่การจัดการอาหารในครัวเรือนอย่างใส่ใจก็เพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้นค่ะ ส่วนคนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาที่อาจจะไม่มีโอกาสทำอาหารเองบ่อยๆ หรือไม่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อของในบ้านมากนัก ก็ยังมีสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อช่วยโลกของเราค่ะ ซึ่งการจะเริ่มต้นง่ายที่สุดก็คือ การสั่งอาหารในปริมาณที่พอดีและทานให้หมดจานไม่ว่าจะเป็นในโรงอาหาร ร้านอาหาร หรือเมื่อสั่งเดลิเวอรี่ การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะอาหารอย่างตรงจุด แต่ยังเป็นการปลูกฝังนิสัยความรับผิดชอบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ยังเด็ก และจุดสำคัญที่สุดสำหรับคนทั่วไปก็คือ การตระหนักว่าอาหารทุกชิ้นมีคุณค่าและทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตนั้นมีจำกัด เมื่อเราเข้าใจถึงคุณค่านี้แล้ว การกระทำต่างๆ เพื่อลดขยะอาหารก็จะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนในที่สุดค่ะ ที่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนอาจโชคดีหน่อย ตรงที่มีโอกาสได้ทำในทุกข้อจากที่ได้นำเสนอมาค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารก็ตาม ซึ่งในตอนนี้ผู้เขียนก็ยังคงนำเศษอาหารไปเทกองหมักทำปุ๋ยที่สวนและหน้าบ้านอย่างต่อเนื่องค่ะ โดยที่สวนจะเป็นการหมักปุ๋ยแบบไม่พลิกกลับกองอย่างง่ายๆ จากเศษอาหารเหลือทิ้งและเศษวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ นะคะ ส่วนที่บ้านก็ใช้สิ่งที่ทำปุ๋ยหมักได้แบบเดียวกันกับที่สวนค่ะ แต่เลือกใช้การหมักปุ๋ยใต้ดินแทน เพราะเหมาสมกับสถานการณ์ของที่นี่ และในส่วนของการสนับสนุนและเลือกซื้อวัตถุดิบทำอาหารในท้องถิ่น จากจัดเก็บอาหารอย่างถูกวิธี การพยายามใช้หลายส่วนของวัตถุดิบมาทำอาหาร การดูข้อมูลบนฉลากเรื่องวันผลิตและวันหมดอายุ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ผู้เขียนสนใจเรียนรู้และนำมาปรับใช้ตลอดค่ะ ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะทุกคน ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #กินอาหารอย่างไรดี #ลดขยะอาหาร #ZeroFoodWaste_Thailand เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Freepik จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 เทคนิคจัดเก็บอาหารที่เหลือ ในตู้เย็น แบบไหนถูกสุขลักษณะ การหมักปุ๋ยใต้ดิน จากเศษอาหารภายในบ้าน ลดปัญหาขยะเปียก 9 วิธีเลือกปลาทูสด แบบไหนดี มีคุณภาพ ทำอาหารได้อร่อยถูกใจ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !