สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ ท่านผู้อ่านเคยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายหรือไม่คะ ซึ่งถ้าวันไหนเราไม่ขับถ่ายเป็นปกติจะส่งผลให้เราไม่สบายท้องเป็นอย่างมากใช่ไหมคะ และถ้าเราไม่ขับถ่ายติดต่อกันหลายวันแล้ว ยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะ ลำไส้จะยังคงดูดซึมของเสียในร่างกายที่ตกค้าง จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในระยะสั้นอาจทำให้ผิวพรรณไม่สดใส เป็นสิวง่าย และในระยะยาวมีปัจจัยเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ได้ด้วยค่ะ ซึ่งสาเหตุของการขับถ่ายไม่เป็นปกตินั้นมีหลายประการ เช่น คนธาตุหนัก ขับถ่ายยาก เกิดความเครียด เจ็บป่วย รับประทานผักไม่เพียงพอ เป็นต้น เครดิตรูปภาพ : https://pixabay.com/get/54e8d7424356ad14f6d1867dda6d367b103cdbe454566c48702778dc954dc75abc/abdominal-pain-2821941_1920.jpg?attachment ดังนั้นผู้เขียนจึงอยากแนะนำตัวช่วยในการขับถ่ายในแต่ละวันจากธรรมชาติ และสามารถเป็นdetoxลำไส้ได้ เพราะด้วยคุณสมบัติพิเศษในตัวของ ไซเลียมฮัสก์ ไซเลียมฮัสก์ (Psyllium Husk) คือ เมล็ดจากต้นเทียนเกล็ดหอยที่นำมาสกัด โดยไซเลียมฮัสก์ จะมีใยอาหารสูง โดยจะสามารถพองตัวในน้ำได้หลายเท่าและเนื้อผิวนุ่ม คุณสมบัตินี้จึงเป็นลักษณะพิเศษที่สามารถกวาดเอาเศษอุจจาระที่ตกค้างออกมาจากลำไส้ได้ จึงถือเป็นการdetoxลำไส้ด้วยค่ะ หลังจากทำความรู้จักกับ ไซเลียมฮัสก์ ไปแล้ว ผู้เขียนจะมาเล่าวิธีการรับประทานเจ้าตัวนี้เพื่อแก้ปัญหาการขับถ่ายยากกัน ไปลองทำกันได้เลยค่ะ 1. ไซเลียมฮัสก์ 1/2 ช้อนโต๊ะ 2. น้ำเปล่า 1 แก้ว 3. น้ำมะนาวครึ่งซีก (ตัวช่วยเพิ่มการระบายท้อง) วิธีทำ ผสม ไซเลียมฮัสก์ จำนวน 1/2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำเปล่า 1 แก้ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 - 30 นาที เพื่อรอให้พองตัวเต็มที่ นำมะนาวผ่าครึ่งซีก คั้นน้ำลงไปในแก้วเพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยว แล้วสามารถรับประทานได้ทันที โดยผู้เขียนจะดื่ม 1 แก้วก่อนเข้านอนกลางคืน และ 1 แก้วตอนเช้า เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องขับถ่ายง่ายแล้ว ยังไม่ทำให้หิวบ่อยด้วยค่ะ นอกจากจะผสมกับน้ำมะนาวแล้ว ถ้าวันไหนเบื่อก็สามารถเปลี่ยนเป็นผสมกับน้ำเต้าหู้ นมเปรี้ยว หรือน้ำผลไม้อื่นๆ ได้ตามใจชอบค่ะ ผลจากการดื่มทุกวัน ผู้เขียนรู้สึกว่าสามารถขับถ่ายง่าย ขับถ่ายทุกวัน ไม่รู้สึกว่ามีของเสียตกค้าง อีกทั้งรู้สึกอิ่มตลอดเวลาไม่ค่อยหิวบ่อยค่ะ ส่งผลให้ทั้งวันรู้สึกสดชื่นมากค่ะ เครดิตรูปภาพ : https://pixabay.com/th/users/bearinthenorth-2960032/ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสูตรการดื่มน้ำไซเลียมฮัสก์ ตัวช่วยเรื่องขับถ่าย แต่ผู้เขียนแนะนำว่าอย่ารับประทานต่อวันมากจนเกินไป สำหรับผู้ที่ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินอาหาร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ เครดิตรูปปก : https://pixabay.com/th/users/LaszloBartucz-8463293/