คืนหนึ่งหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารตามสั่งในตลาดโต้รุ่งของเมืองเพชรบูรณ์ ผมนึกอยากกินขนมหวานตบท้ายมื้อค่ำนั้น จึงสอดส่ายสายตามองหาร้านที่จะตอบสนองกิเลสของตน แล้วพลันก็เล็งเห็นเป้าหมาย เป็นรถเข็นมีหลังคา ติดป้ายตัวเบ้อเริ่มว่า "โรตี 14 รส" อยู่บริเวณปากทางเข้าตลาด (ภาพถ่ายล่าสุดของร้านก่อนเขียนบทความนี้) ความสนใจระคนสงสัยบังเกิดขึ้นมาว่า โรตีที่เคยกินแต่สูตร "ส่าย(ใส่)นม ส่าย(ใส่)ไข่" นั้น จะดัดแปลงให้มีความหลากหลายได้ถึง 14 รสชาติจริงหรือ เพื่อเป็นการพิสูจน์ จึงเดินเข้าไปยืนเข้าคิวกับบรรดาลูกค้าซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกค้าเก่าเจ้าประจำที่ยืนออกันอยู่ด้านหน้า บางก็ด้านข้าง (ภาพลุงคนขายโรตี 14 รส ที่ (แอบ) ถ่ายมาประกอบบทความนี้ 😁) จากนั้นจึงลองชะโงกหน้าไปมองลุงคนขายที่สวมผ้ากันเปื้อนและหมวกแก๊ป ซึ่งกำลังง่วนกับการปั้น - ตีแป้ง โยนใส่กระทะทอด สลับกับการช้อนเอาแผ่นแป้งที่ทอดจนเหลืองได้ที่แล้วขึ้นมาวางบนกระดาษ ละเลงเครื่องปรุงรสชาติต่าง ๆ จากกระปุกด้านหน้าตามรายการที่ลูกค้าสั่ง เห็นแล้วก็น่ากินดีเหมือนกัน (ภาพถ่ายจากสถานที่จริง - ถ่ายเองจ้า 😁) หันไปมองป้ายรายการรสชาติต่าง ๆ และราคาที่ติดอยู่ด้านหน้าร้าน ระบุว่า ถ้าเป็นโรตีเปล่าธรรมดา อันละ 10 บาท ถ้าใส่ไส้ทั่วไปราคาอันละ 12 บาท (ยกเว้นใส่ไข่ ราคา 17 บาท ใส่กล้วยหอมหั่น ราคา 35 บาท) โดยรายการไส้โรตีก็มีให้เลือกนับสิบ สมกับชื่อร้าน ไม่ว่าจะเป็นฝอยทอง เผือก มะพร้าว ลูกเกด สัปปะรด สตอเบอร์รี่ ส้ม ข้าวโพด ช็อกโกแลต โอวัลติน แม้กระทั่งกาแฟ (ภาพถ่ายจากสถานที่จริง-ถ่ายเองจ้า 😁) จำได้ว่าวันนั้นผมสั่งไส้ฝอยทองและลูกเกดอย่างละอันมาลองชิมดู แล้วก็ติดใจมาถึงวันนี้ กับขนมที่เคยกินมาตั้งแต่เด็ก และที่จริงแล้วก็เหมือนจะเป็นโรตีธรรมดาจากรถเข็นหน้าตลาดโต้รุ่ง ของลุงคนขายผู้ไม่ค่อยยิ้มหรือพูดคุยกับใคร เพราะมัวแต่สาละวนกับการปั้นแป้ง ตีแป้ง โยนลงกระทะทอด ช้อนขึ้นมาวางบนแผ่นกระดาษ ละเลงไส้เครื่องปรุงตามลูกค้าสั่งก่อนจะม้วนห่ออย่างคล่องแคล่ว บ่งบอกถึงความชำนาญจากประสบการณ์ที่คงขายมานาน แต่โรตีที่ดูธรรมดานี้ เมื่อแกะกระดาษที่ห่อออกมา กัดกินแต่ละคำ กลับรู้สึกได้ถึงรสชาติที่ถูกปาก ราคาถูกใจ แถมด้วยความแปลกใหม่ที่มีรายการไส้ให้เลือกหมุนเวียนอิ่มอร่อยได้ไม่จำเจ (ภาพถ่ายโรตีที่ซื้อมา ถ่ายมายั่วน้ำลายคนอ่าน 😁) หลังจากวันนั้น หลาย ๆ ครั้งที่เข้าไปทานมื้อค่ำที่ตลาดโต้รุ่งแห่งนั้น บ่อยครั้งก็จะแวะอุดหนุนโรตีของลุงแก แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นลูกค้าประจำที่สนิทสนมกับคนขาย และหากมองจากหน้าตานิ่ง ๆ ของแกก็เหมือนจะไม่อยากสนิทกับเราเท่าไหร่ (ฮา) แต่จริง ๆ แล้วแกก็ดูเป็นคนซื่อ ๆ เคยเห็นเวลาแกยิ้มแล้วรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มที่จริงใจและอบอุ่น เหมือนมีญาติผู้ใหญ่มาทอดโรตีให้กินยังไงยังงั้นเลย 😁 ปกติลุงแกมาขายประจำในช่วงเย็น ๆ ค่ำ ๆ ตรงทางเข้าตลาดโพธิ์จันทร์ ซึ่งเป็นตลาดโต้รุ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ บริเวณวงเวียนน้ำพุ ร้านรถเข็นของแกจะอยู่ติดกับร้านขายพวงมาลัยดอกไม้สด โดยจะขายไม่ดึกนัก เคยไปสามทุ่มก็ไม่เจอแล้ว และบางวันก็เหมือนจะหยุดพักไม่มาขายซะงั้น แถมดูแล้วแกไม่มีการรับออร์เดอร์ทางโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซะด้วย ถ้าอยากกินก็คงต้องมารอซื้อในวันที่แกมาขายเท่านั้น นี่แหล่ะเป็นที่มาของชื่อบทความนี้ที่ว่า โรตี 14 รสของลุงแก (ทุกวันนี้ยังไม่รู้จักชื่อเลย 😄) ใคร ๆ ก็กินได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้กินนะ 😁😅😂 ปล. ภาพปกบทความ ก็ถ่ายจากร้านในวันที่ลุงแกมาขาย 😁