หยวกดิบ เป็นพืชตระกูลเดียวกับ บอน บอนสี แตกต่างกันที่ใบและลำต้น ที่มีใบสีเขียวสด ลักษณะของใบจะมีก้านใบที่นูนออกมาจนเห็นชัด ลำต้นออกสีเขียวอ่อน มีขุยสีขาว ตามลำต้นเล็กน้อย การปลูกหยวกดิบ การปลูกหยวกดิบไม่ยากเพราะมันจะมีรากหรือหัวของมัน ลักษณะของหัวหรือรากก็คล้ายๆกับ หัวบอน หรือหัวมัน นี่แหละ. เมื่อเราได้มาแล้วก็เตรียมดินที่ปลูก หรือหา สถานที่ปลูกที่เป็นดินข้างๆบ้านก็ได้ เพราะมันสามารถขึ้นได้ตามสภาพดิน ทั่วไป ยกเว้นดินทรายที่มันไม่ค่อยชอบเพราะมันไม่สามารถอุ้มน้ำได้ดี ยิ่งดินที่มีน้ำไหลผ่าน ก็ทำให้ต้นหยวกดิบเจริญเติบโตได้ดีวิธีการปลูกก็ไม่ยากเริ่มจากขุดดินให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 50 เซนติเมตร พักดินไว้สัก1วัน ทำการใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม จากนั้นก็ทำการใส่หัวพันธุ์ ลงไปในหลุมที่เราได้เตรียมไว้ ทำการกลบดินให้เรียบร้อยอย่าให้ดินแน่นเกินไป ปลูกเสร็จก็ รอมันแตกต้นอ่อน พยามยามดูแลอย่าให้หอยทากมากินใบ นอกนั้นก็ไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษปล่อยให้ขึ้นเองตามธรรมชาติหรือใครที่ไม่มีพื้นที่ปลูกก็สามารถปลูกได้ในกระถางแต่ต้องใช้กระถางใหญ่หน่อยเพราะหยวกดิบจะขยายกอของมันให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ปลูกครั้งเดียว ก็อยู่ได้นานกันเลยทีเดียวพื้นที่ส่วนมากจะนิยมปลูกกันทั่วไปที่ภาคใต้ของประเทศไทย หยวกดิบ ปลูกไว้ เพื่อนำมาประกอบอาหาร และกินสด ส่วนที่นำมาใช้กินคือลำต้น จึงเป็นที่นิยมกินกันและปลูกไว้เพื่อใช้ประกอบอาหาร กันทั่วไป หรือบางคนที่มีพื้นที่มากก็จะปลูกกันเพื่อนำไปขายก็ได้ ก็สามารถทำเป็นรายได้เสริม เก็บเล็กผสมน้อยจุนเจือครอบครัวก็ได้ ลักษณะใบของหยวกดิบ วิธีนำมากิน วิธีการนำมากินหรือประกอบอาหารแค่ใช้มีดตัดลำต้นของมันมาและหั่นออกเป็นท่อนๆ จากนั้นทำการลอกเปลือกด้านนอกออก ใช้มือลอกหรือปอกออกก็ได้เพียงเท่านี้ก็นำมากินสด หรือนำไปประกอบอาหารได้เลย ลักษณะเนื้อด้านใน จะมีลักษณะ สีเขียวอ่อนๆ จะมีน้ำอยู่ในลำต้นเล็กน้อย รสชาติ เมื่อนำไปกินจะมีความหวาน กรอบ น่ากินหรือจะนำเอาไปยำไปแกงส้ม ก็แล้วแต่ชอบหมายเหตุ ถ้าพบหรือเห็นพืชลักษณะคล้ายกันแบบนี้อย่าเหมารวมว่าเป็น หยวกดิบ นะครับ บางทีอาจจะเป็นต้นบอนก็ได้เราต้องสังเกตให้ดี ขืนไปกินสุมสี่สุ่มห้า อาจจะคันปากคันคอ มาหาเราโกหกให้กินอีก ไว้คราวหน้า. ผู้เขียนจะนำหยวกดิบ มาทำแกงส้มให้ชม ว่าจะอร่อยแค่ไหนสำหรับตอนนี้ ขอจบบทความก่อนนะครับ... ถ่ายภาพโดย 📷 นักเขียน By นายศิลป์