วันลาพักร้อนหลายวันของเราหมดไปกับการสรรหาของกินและตระเวณเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ บ่ายแก่ ๆ วันหนึ่งเรานึกอยากกินขนมที่เคยกินสมัยเด็ก ๆ ซึ่งมีขายตามตลาดนัด เช่น พวกขนมชั้น ขนมมัน ขนมถังแตก เลยชวนแม่นั่งรถไปเป็นเพื่อน อำเภอเล็ก ๆ ชายแดนภาคใต้มีความน่ารัก ๆ แบบท้องถิ่นหลงเหลืออยู่อีกมาก เมื่อลงไปเดินสำรวจตลาดนัดในขณะที่ลูกเพลิดเพลินกับการส่องหาขนมต่าง ๆ สายตาของแม่ก็ปะทะกับลูกตาลโตนดทะลายใหญ่วางกองเรียงรายอยู่ เบื้องหน้ามีแม่ค้าจากต่างถิ่นกำลังจัดวางสินค้าจากตาลโตนดหลายอย่าง ทั้งจาวตาที่แกะเสร็จสรรพแล้ว น้ำตาลโตนด แต่สิ่งที่แม่สนใจคือ หัวตาลโตนด หรือที่คนใต้เรียกว่า "หัวโหนด" ซึ่งบอกเลยว่าถ้าเราไม่ได้ไปกับแม่ก็คงไม่ซื้อมาเพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไรได้บ้าง แม่ค้าหั่นหัวตาลโตนดเป็นชิ้น ๆ ใส่ถุงพลาสติกมัดหนังยางไว้เรียบร้อย แน่นอนว่าแม่ไม่พลาดแน่นอนที่จะซื้อมา ก่อนจะกลายเป็นเมนูแกงคั่วหัวโหนดใส่ซี่โครงหมูในมื้อเย็นวันนั้นนั่นเอง แกงคั่วหัวโหนด หรือ แกงคั่วหัวตาล ไม่ได้มีขายทั่วไปเราเลยคิดว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยได้ลองกิน ถ้าจะได้กินแกงประเภทนี้คงต้องอยู่ใกล้ๆ แหล่งที่มีต้นตาลโตนดเยอะสักหน่อย เช่น สงขลา หรือ เพชรบุรี กระมัง “หัวโหนด” ที่จะนำมาแกงนี้ จะใช้เนื้อบริเวณขั้วที่ติดกับทะลายของลูกตาลโตนดที่ยังอ่อนอยู่ สังเกตว่าเนื้อยังเป็นสีขาว เมื่อจะนำมาแกงก็ต้องปอกเปลือกและฝานเป็นชิ้นบาง ๆ สามารถนำไปทำยำ แกงส้ม แกงคั่ว รสชาติของหัวโหนดจะออกรสฝาดนิด ๆ หวานหน่อย ๆ อย่างที่บอกว่าเราซื้อหัวโหนดที่แม่ค้าฝานเป็นชิ้นมาแล้ว เมื่อมาถึงบ้านก็เอามาล้างน้ำเกลืออีกสักนิดเพื่อลดความฝาดลง แล้วก็เตรียมแกงกันเลย ส่วนประกอบแกงคั่วหัวโหนดกับซี่โครงหมู หัวโหนด ประมาณ 800 กรัม ซี่โครงหมู ประมาณ ุ600 กรัม พริกแกงคั่ว ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ หัวกะทิ ประมาณ 1 ถ้วย น้ำกะทิ ประมาณ 2 ถ้วย เครื่องปรุงรส น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เกลือ ใบมะกรูด สูตร พริกแกงคั่ว พริกชี้ฟ้าแดงแห้งแช่น้ำ 10-15 เม็ด กระเทียมประมาณ 3-4 กลีบ ตะไคร้สดนำมาซอยละเอียดประมาณ 2 ต้น ขมิ้น ความยาวประมาณ 1 นิ้ว พริกไทยประมาณ 10 เม็ด นำทุกอย่างมาโขลกรวมกันแล้วตามด้วยกะปิครึ่งช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำ 1.นำหัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟ เคี่ยวจนกะทิเดือดใส่พริกแกงลงไปคนจนละลาย ใส่ซี่โครงหมูลงไปคนให้เข้ากัน 2.เติมน้ำกะทิที่เหลือลงไปรอจนกระทั่งซี่โครงหมูสุก จากนั้นใส่หัวโหนดที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรสให้กลมกล่อม รอจนกระทั่งแกงเดือดอีกครั้ง โรยใบมะกรูด ปิดไฟ เป็นอันเรียบร้อย ภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน