ฤดูกาลนี้ผลไม้ที่มีให้เห็นกันแทบทุกบ้านเลยก็คือมะม่วง ไม่ว่าจะหันมองไปทางบ้านซ้ายบ้านขวาก็มีเต็มไปหมด เป็นผลไม้ที่ไม่ต้องหาซื้อ ยิ่งหากเป็นบ้านที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองแล้วล่ะก็ ต้องปลูกกันแทบทุกบ้านอย่างแน่นอน และยิ่งสถานการณ์เช่นนี้ด้วยแล้ว จะออกไปหาซื้ออะไรกินแต่ละครั้งก็เสี่ยงกับเชื้อโรคต่าง ๆ ก็กินผลไม้ที่เรามีอยู่ที่บ้านนี่แหล่ะค่ะ ไม่ต้องซื้อ ไม่เสียเงิน แล้วก็ไม่เสี่ยงด้วยค่ะ แต่จะกินมะม่วงเฉย ๆ มันก็อาจจะไร้รสชาติเกินไป แบบว่ามันธรรมดาไปอ่ะค่ะ หากมีน้ำปลาหวานไว้จิ้มสักถ้วยก็คงจะดีไม่น้อย วันนี้ก็มีสูตรการทำน้ำปลาหวานแบบง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ แต่รับประกันความแซ่บนะคะบอกเลย //ภาพโดยผู้เขียนเอง// วัตถุดิบ ที่ต้องเตรียมนะคะ น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 3/4 ถ้วยตวง เกลือ 1/2 ช้อนชา พริกขี้หนู เขียวและแดง ปนกัน (ปริมาณตามชอบ) หัวหอมแดง (ปริมาณตามชอบ) กุ้งแห้ง (ปริมาณตามชอบ) ขั้นตอนการทำ 1. นำน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำเปล่า เกลือใส่หม้อแล้วนำไปตั้งไฟ โดยใช้ไฟที่อ่อน เพราะน้ำตาลมีความหวาน หากเปิดไฟแรงจะทำให้ไหม้ได้ง่าย และเคี่ยวจนกว่าน้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทรายละลายจนหมด จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ก่อน //ภาพโดยผู้เขียนเอง// 2. นำกุ้งแห้งที่เตรียมไว้มาตำให้พอแตกแต่ไม่ต้องถึงกับละเอียดมาก และนำใส่ไปในน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ได้เลย ที่ต้องตำก็เพราะจะช่วยทำให้น้ำปลาหวานของเราข้นและน่ากิน แต่หากคนที่อยากใส่แบบเป็นตัวเลยไม่อยากตำก็ไม่มีปัญหาค่ะอร่อยเหมือนกัน หรือจะใส่ทั้งแบบตำด้วยแบบเป็นตัวด้วยก็ยิ่งอร่อยจ้า //ภาพโดยผู้เขียนเอง// 3. นำพริกขี้หนูและหัวหอมแดงมาหั่นมาซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ และใส่ลงไปในน้ำตาลที่เคี่ยวไว้แล้วได้เลยค่ะ จากนั้นคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย //ภาพโดยผู้เขียนเอง// เป็นไงกันบ้างคะ ทำง่ายแบบที่บอกเลยใช่ไหม เพื่อน ๆ ลองทำตามกันได้นะคะ ไม่ใช่เพียงแต่จะกินกับมะม่วงอย่างเดียว ผลไม้อื่นที่มีรสเปรี้ยวก็สามารถนำมาทานกับน้ำปลาหวานได้ค่ะ ข้อดีของการทำกินเองก็คือเครื่องเยอะอร่อย ทำทีละมาก ๆ ได้ ทานไม่หมดก็แช่ตู้เย็นไว้กินได้หลายวันเลยแหล่ะค่ะ และอย่าลืมไปทำกินกันบ้างนะคะ