มาชิมลิ้มรสอาหารชาวอิ้วเมี่ยน ที่บ้านห้วยสะนาว ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน มาเปิดตำรับอาหารชนเผ่าอิ้วเมี่ยนที่ชื่อว่าหยั่วเจี๊ยะ หยั่วกรวยเป็นแบบไหน ข้างในนี้มีอะไร มีวิธีการทำอย่างไร รสชาติจะถูกอกถูกใจหรือไม่เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป มาทำความรู้จักหมู่บ้านห้วยสะนาว ครั้งเมื่ออดีตตั้งอยู่บนดอยสูงที่ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ในปี พ.ศ.2510 ถูกภัยคุกคามจาก ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แทรกซึมเข้ามาหมู่บ้านใกล้เคียง ทางราชการจึงสั่งให้ชาวบ้านราษฎรอพยพลงมาที่ตำบลงอบอย่างเร่งด่วนภายใน 48 ชั่วโมง และพักอยู่บริเวณนั้นเป็นเวลาประมาณ 6 เดือน ย่างเข้าปี พ.ศ. 2511 ทางราชการจึงให้ย้ายมาอยู่ในศูนย์อพยพชาวเขาป่ากลาง ในขณะนั้นมีนายพุโจง แซ่เต็น ซึ่งเป็นผู้นำในเวลานั้นกับแกนนำหลายท่านช่วยกันดูแลช่วยเหลือ ประสานงานกับทางราชการ ทางการจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ10 ไร่ ที่อาศัย 1 งาน มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาดูแลอยู่ ต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2516 ในวันที่ 1 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2516 ทางหมู่บ้านได้รับการแต่งตั้งหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ ขึ้นดอยมาที่จังหวัดน่าน มาถึงถิ่นเผ่าอิ้วเมี่ยนบ้านห้วยสะนาวถ้าไม่ได้ลิ้มลองขนมหยั่วเจี๊ยะ ถือว่ายังไม่ได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของเผ่าอิ้วเมี่ยน เพราะขนมชนิดนี้อยู่คู่เผ่ามานาน โดยมีวิธีธรรมก็ไม่ธรรมดาโดยเริ่มตั้งแต่เอาไม้เพกาไปเผาไฟให้ดำ แล้วนำมาบดหรือตำให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับข้าวสารเหนียวคลุกเคล้าให้ทั่วแล้วนำมาฝัดจนเมล็ดข้าวกลายเป็นสีดำสม่ำเสมอทั่วทุกเมล็ด จากนั้นนำขิงแก่มาซอย และสับให้ละเอียดนำกระทะมาตั้งไฟปานกลาง นำขิงสับไปผัดกับน้ำมันให้มีกลิ่นหอมแล้วนำข้าวสีดำที่ได้นำลงไปผัดจนได้ที่ แล้วนำมาห่อให้มิดชิดด้วยใบก๋ง แล้วมัดด้วยตอกให้แน่นแล้วนำไปต้มให้สุก ก่อนเอาขนมหยั่วเจี๊ยะไปรับประทานให้นำไปย่างไฟให้เหลืองหอมรับประทานตอนอุ่นๆ จะได้รสชาติหยั่วเจี๊ยะที่แท้จริง คำว่าหยั่วเจี๊ยะ มาจากคำสองคำ คือ หยั่ว แปลว่าขนม และเจี๊ยะ แปลว่าดำ ขนมชนิดนี้เก็บไว้ได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นขนมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่บรรพบุรุษ สั่งสอนให้ชาวเผ่าอิ้วเมี่ยนอยู่กับธรรมชาติให้พึ่งพาอาศัยธรรมชาติให้เป็น จึงนำเอาสิ่งที่อยู่ตามธรรมชาติมาทำเป็นขนม อย่างเช่นสีดำที่เผาจากไม้เพกามาเผา หรือชาวอิ้วเมี่ยนบางพื้นที่จะนำฟางข้าวมาเผาแทนเพราะทุกที่ปลุกข้าวอยู่แล้ว นอกจากขนมยั่วเจี๊ยะแล้วยังมีขนมหยั่วกรวยที่มีลักษะวิธีทำเช่นเดียวกันแต่มีสีเหลืองซึ่งได้มาจากการต้มไม้เพกา แล้วนำไปแช่ข้าวให้มีสีเหลือง แล้วบางท้องที่จะเปลี่ยนเป็นขมิ้น อัญชัน ตามแต่ว่าในแต่ละท้องที่มีต้นหรือวัตถุดิบอะไรอยู่ แต่เดิมหยั่วเจี๊ยะเป็นขนมมงคลประจำเผ่าอิ้วเมี่ยน หรือเย้า ซึ่งนิยมจัดสำรับคู่กับขนมหยั่วกรวย ขนมหยั่วจง สำหรับเป็นอาหารประกอบพิธีกรรมเลี้ยงผี ประเพณีสู่ขวัญ หรืองานมงคลของชุมชน ขนมชนิดนี้มีรสชาติกลมกล่อม หวาน มัน เค็ม และเผ็ดนิดๆ จากขิงสับ ยังสะท้อนถึงวิถีเกษตรกรรมถึงอาหารหลักของคนบนดอยคือข้าวเหนียวที่ปลูกกันทุกบ้าน ในแต่ละปีชาวอิ้วเมี่ยนจะทำการเลี้ยงขวัญเลี้ยงผีปีละครั้ง แต่ถ้ามีคนในครอบครัวไม่สบายก็จะทำขนม 3 ชนิดนี้เพื่อทำพิธีเรียกขวัญ ในความเชื่อของเผ่าอิ้วเมี่ยนในการต้มขนมหยั่วเจี๊ยะต้องยกหม้อขึ้นตั้งเพื่อต้มขนม คนขนม รวมถึงการเติมน้ำในหม้อต้มขนม และตลอดจนขนมสุกต้องทำคนเดียว ห้ามเปลี่ยนมือกันทำ หากเปลี่ยนมือกันทำแล้วขนมจะต้มไม่สุก อาจจะเละและไม่อร่อย ตอนนี้ขนมหยั่งเจี๊ยะขนมมงคลประจำชนเผ่าอิ้วเมี่ยน กลายเป็นของกินที่บอกเล่าวิถี ประเพณีและความเชื่อของคนอิ้วเมี่ยน ทำให้คนทั่วไปรู้จักกลุ่มชาติพันธ์นี้มากขึ้น