( ภาพจากนักเขียน ) พาร์สลีย์ ที่บางคนอาจเรียกว่าผักชีฝรั่ง ซึ่งสามารถปลูกได้ง่ายไม่ว่าจะฤดูไหน เมนูที่ใช้ใบพาร์สลีย์ประกอบอาหารอาทิเช่น สปาเก็ตตี้โบโลเนส ลาซานญ่า ต้มซุปเนื้อ ใส่หมักเนื้อ หอยอบเนย ฯลฯ สรรพคุณของพาร์สลีย์ พาร์สลีย์นั้นสามารถลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ อีกทั้งยังสามารถช่วยในเรื่องของลมหายใจสดชื่นได้ เมื่อได้กินใบพาร์สลีย์เข้าไปในตอนเช้าแบบสดค่ะ สรรพคุณดีขนาดนี้ จะต้องมีเมนูดี ๆ มานำเสนอค่ะ ในเมนูที่ชื่อว่า หอยอบเนยใส่ใบพาร์สลีย์ ( ภาพจากนักเขียน ) อุปกรณ์ เปลือกหอย 80 เปลือก หอย 80 ตัว เนยจืด 250 กรัม เกลือ 2 ช้อนชา ใบพาร์สลีย์ 150 กรัม หัวหอมแดง 50 กรัม ข้าวสาร ( ภาพจากนักเขียน ) วิธีทำ 1. ล้างใบพาร์สลีย์ให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นทำการหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ 2. หั่นหอมแดงให้ละเอียด( ภาพจากนักเขียน ) 3. นำเนยจืด 250 กรัม ใส่ภาชนะ จากนั้นนำใบพาร์สลีย์ เกลือ 2 ช้อนชา และหัวหอมแดงใส่รวมกัน ใช้เครื่องปั่นผสมให้เข้ากันดี ( ใครไม่มีเครื่องปันไม่เป็นไรค่ะ ใช้ช้อนส้อมผสมเข้ากันได้ค่ะ )( ภาพจากนักเขียน ) 4. นำตัวหอยใส่เข้าไปในเปลือกหอยด้านใน ใช้มีดสเต็กหรือช้อนชาตักเนย จากนั้นนำเนยใส่เข้าไปในเปลือกหอยอีกที ใส่ให้เต็มนะคะ หากใส่น้อยจนเกินไปจะทำให้รสชาติไม่อร่อยเพราะเนยไม่เพียงพอ( ภาพจากนักเขียน ) 5.ใช้ถาดที่สามารถทนความร้อนหรือสามารถใช้กับเตาอบได้ เริ่มจากการวางด้วยแผ่นกระดาษสำหรับทำอาหาร วางไว้ด้านบนถาด ( ภาพจากนักเขียน ) จากนั้นนำข้าวสาร มาโรยให้ทั่ว แล้วจัดเรียงหอยให้เต็มถาดเพื่อเข้าเตาอบ ( การใช้ข้าวสารในการรองพื้นก่อนการจัดเรียงหอยนั้นเพื่อไม่ให้หอยเอนไปด้านใดด้านหนึ่ง เพราะอาจจะทำให้เนยไหลออกจากเปลือกหอยได้เมื่อเนยละลาย ) 6. เปิดเตาอบอุ่นเครื่องความร้อนที่ 250 องศา เมื่อเตาเริ่มร้อน นำหอยที่จัดเรียงบนถาดเข้าในเตาอบ ใช้เวลาในการอบ 15 นาที เมื่อเนยละลายดีแล้วก็พร้อมรับประทานได้ค่ะ ( ภาพจากนักเขียน ) สำหรับใครที่ไม่มีเตาอบขอแนะนำกับการใช้กระทะตั้งเตาแก็สหรือเตาถ่านค่ะ ทำได้เหมือนกันไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ โดยการใช้ข้าวสารรองพื้นกระทะค่ะ แล้วจัดเรียงหอย ตั้งเตาเปิดไฟเบาแล้วปิดฝา รอให้เนยละลาย แค่นี้ก็ได้อร่อยเหมือนกันค่ะ ( ห้ามทิ้งข้าวสารนะคะสามารถนำมาหุงต่อได้เพิ่มความหอมจากเนยด้วยค่ะ ) ( ภาพจากนักเขียน ) เมนูที่ทำง่ายๆแต่อร่อยกินคู่กับขนมปัง และเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยใบพาร์สลีย์ เมนูที่ชาวฝรั่งเศสนิยม อย่าพลาดกับการทำเมนูนี้นะคะ ( ภาพจากนักเขียน )