วันนี้ ผู้เขียนได้ปลาช่อนมา 1 ตัว ปกติแล้วส่วนใหญ่ของคนพื้นที่จะไม่ค่อยชอบกินปลาน้ำจืดกันมากนัก เพราะกลิ่นสาบของโคลน บางคนจะไม่กินเลย สำหรับผู้เขียนแล้ว กินได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเล หรือปลาน้ำจืด เป็นคนประเภท อยู่ง่าย กินง่าย ผัก ผลไม้ กินได้หมด ไม่มีเลือก เวลาไปไหนไกล ๆ ต่างถิ่น ต่างภาค ผู้เขียนจึงหมดกังวลทั้งเรื่องการอยู่และการกิน ไม่ทำให้ผู้ต้อนรับลำบากใจ นับเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ได้ตำหนิท่านที่ลำบากเรื่องการกินนะครับ ก็ต้องยอมรับว่า บางคนก็แพ้อาหารบางชนิด กินอาหารบางชนิดไม่ได้จริง ๆ เมนูมื้อนี้ผู้เขียนจะทำ ปลาช่อนต้มกะทิข่าอ่อน ปลาช่อนต้องจัดการเองหมดเพราะปลาช่อนที่ได้มายังเป็น ๆ อยู่ ขอไม่ลงรูปปลาช่อนเป็น ๆ บางท่านอาจจะสงสารน้องปลา ขอข้ามมาลงภาพตอนที่หั่นปลาเสร็จเรียบร้อยแล้วละกันนะครับ วัตถุดิบที่ผู้เขียนต้องใช้ในเมนู ปลาช่อน ต้มกะทิ ข่าอ่อน มีดังนี้ครับ 1.ปลาช่อน 2.ข่าอ่อน 3.กะทิสด 4.ใบมะกรูด 5.พริกสด 6.น้ำปลา วัตถุดิบที่เป็นปลา โดยเฉพาะปลาน้ำจืดจะมีความคาวมาก และมีกลิ่นสาบของโคลนอยู่ด้วย ฉะนั้นก่อนที่จะเอามาทำอาหารปลาช่อนควรจะนำมาล้างให้สะอาดด้วยเกลือ หรือน้ำซาวข้าวเพื่อดับกลิ่นคาว ข่าอ่อนนั้นผู้เขียนได้มาจากการเดินตลาด ช่วงนี้ข่าอ่อนออกเยอะ เพราะเป็นช่วงที่เข้าฤดูฝนแล้ว ผืนดินหลายที่หลายแห่งต่างชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ ใบหญ้า ต่างแตกหน่อย ออกกิ่ง แทงยอดกัน กะทินั้น วันนี้ได้มะพร้าวมาคั้นกะทิเอง 1 ลูก เมนูนี้อร่อยแน่ เพราะสดทุกอย่าง สำหรับวัตถุดิบ งั้นเรามาลุยกันเลยดีกว่า วัตถุดิบเราพร้อมทุกอย่างแล้ว ขั้นตอนที่ 1 หั่นปลาช่อน ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วล้างปลาซ่อนด้วยเกลือ หรือใครจะล้างด้วยน้ำซาวข้าวก็ได้เพื่อดับกลิ่นคาวและกลิ่นสาบโคลนของปลา วันนี้ได้ปลาช่อนแม่ไข่มา ถ้าเจอแบบมีไข่ให้ระวังในการล้างด้วยนะครับ ต้องแยกไข่ออกไว้ต่างหากก่อน ไม่งั้นไข่ปลาจะเละหมด เมื่อล้างปลาที่หั่นเสร็จแล้วให้พักไว้ก่อน ขั้นตอนที่ 2 ส่วนข่าอ่อน ให้ลอกเอาเปลือกที่แข็ง ๆ ออกทิ้ง เพราะเราจะใช้เฉพาะส่วนที่อ่อน ๆ เท่านั้น นำมาใช้ในการแกงในครั้งนี้ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่น้ำไว้ก่อน ขั้นตอนที่ 3 ตั้งหม้อ ใส่น้ำกะทิและน้ำลงไป ต้มจนน้ำเดือด คนด้วยนะครับเดี๋ยวจะใหม้ด้านล่าง ขั้นตอนที่ 4 เมื่อน้ำกะทิเดือดได้ที่แล้ว ให้ใส่ปลาลงไป อย่าเพิ่งคน เพื่อไม่ให้น้ำแกงคาว ต้มไปสักพักให้ปลาเริ่มสุก ขั้นตอนที่ 5 ใส่ข่าอ่อนตามลงไปเมื่อปลาเริ่มสุกแล้ว ปรุงรสต่อด้วยน้ำปลาชิมและน้ำตาล ชิมให้ได้รสที่ต้องการ ไม่เค็ม ไม่หวานเกินไป หลังจากนั้นใส่ใบมะกรูดกับพริกสดลงไปในตอนท้าย ปิดไฟ พร้อมตักเสิร์ฟได้เลยครับ เพียงเท่านี้ ผู้เขียนก็ได้เมนู ปลาช่อนต้มกะทิข่าอ่อน เป็นกับข้าวอร่อย ๆ แล้ว 1 เมนู สำหรับมื้อนี้ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เนื้อปลาเน้น ๆ รับรองจะวางช้อนไม่ลง เติมข้าวกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว สำหรับปลาช่อนที่ได้มาวันนี้ แม้จะไม่มากแต่ก็แกงได้พอกินกันทั้งบ้าน ลองเอาไปทำกันดูนะครับ ใครไม่ชอบปลาช่อนเปลี่ยนเป็นปลาอย่างอื่นได้เลยครับ หรือจะเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม ก็ยังได้เลยครับ งวดหน้าถ้ามีปลาช่อนอีก อยากจะลองสักเมนู แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน ดูบ้าง ไม่ได้กินมานานแล้ว และยังไม่เคยทำเมนูนี้เลย ส่วนมากจะสั่งกินจากที่ร้าน ขนาดเพิ่งอิ่มพูดมาแล้วน้ำลายจะไหลอีกรอบแล้ว อีกอย่างที่อยากจะกินเมนูปลาช่อน คือ ปลาช่อนแดดเดียวทอด กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือเอาเนื้อปลาช่อนแดดเดียวมาทำน้ำพริกก็อร่อยได้เช่นเดียวกัน ต้องรีบไปสรรหาวัตถุดิบกันซะแล้ว คราวหน้าอาจจะได้บทความเกี่ยวกับปลาช่อนมาฝากกันอีกสักเมนู รอคอยกันนะครับ ภาพทั้งหมด โดย ผู้เขียน