ผลไม้บางชนิดเป็นผลไม้พื้นเมือง หรือเป็นผลไม้ที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ ซึ่งทำให้การปลูกและการเก็บเกี่ยวนั้นจำกัดภายในพื้นที่ที่สามารถเพาะปลูกได้เท่านั้น เรื่องผลไม้ที่จะมานำเสนอในวันนี้คือ "ลูกอัมพวา" หรือที่รู้จักกันว่า "มะเปรียง" มะเปรียงเป็นผลไม้โบราณที่หากินยากในปัจจุบัน และเป็นผลไม้ ซึ่งเป็นผลไม้ที่การเพาะปลูกในภาคใต้ของประเทศไทย อัมพวาหรือมะเปรียงจะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น นางอาย มังคะ นัมนัม มะขามคางคก ลูกคางคกและชื่อเรียกอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Cynometre cauliflora ซึ่งลูกอัมพวาหรือมะเปรียงนั้น เป็นต้นไม้พื้นเมืองของมาเลเซีย ซึ่งมีการนำมาปลูกในประเทศไทยในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้นำเมล็ดมาปลูกที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสาครซึ่งเป็นที่มาของชื่อลูกอัมพวาลักษณะของลูกอัมพวานั้นจะมีลักษณะคล้ายกับถั่วปากอ้า คือมีลักษณะทรงแบน แต่มีผิวขรุขระ คล้ายกับผิวคางคก อัมพวาจะมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด ซึ่งรสชาตินั้นจะมีรสชาติเปรี้ยวตามด้วยรสชาติหวานเล็กน้อย ซึ่งที่เปลือกของลูกอัมพวาจะมีรสชาติฝาด และขมเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตอนที่ผู้เขียนยังเด็กๆ ไม่ชอบกินส่วนที่เป็นเปลือกของลูกอัมพวา เนื่องจากเปลือกของผลอัมพวามีรสชาติออกฝาดและขมเล็กน้อย ซึ่งสามารถปอกเอาเปลือกด้านนอกออกได้ แต่เนื้อที่อยู่ด้านในจะเหลืออยู่น้อยมาก เพราะเนื้อของลูกอัมพวาค่อนข้างบางและมีสีขาว ซึ่งปกติผลอัมพวาจะมีเนื้อไม่มากอยู่แล้ว ด้วยความขรุขระของผลมันทำให้การปอกเปลือกเป็นไปอย่างยากลำบาก ดังนั้นการทานพร้อมกับเปลือกจึงเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกที่สุด แต่ก่อนรับประทานอย่าลืมล้างให้สะอาดก่อน โดยการตัดเอาขั้วของผลอัมพวาออก เนื่องจากส่วนนี้จะค่อนข้างแข็ง หรือจะกินทั้งหมดแล้วเหลือส่วนขั้วของผลไปทิ้งก็ได้ ผลแก่ของลูกอัมพวาจะมีสีออกเหลือง มีลักษณะอ่อนนุ่มลงเล็กน้อย ไม่เหมือนกับคนอ่อนที่ยังมีลักษณะเป็นสีเขียวเข้มและแข็ง ซึ่งผลอัมพวานั้นสามารถรับประทานเป็นผลไม้สดได้ ซึ่งจะมีกลิ่นเฉพาะของมัน ผลออกที่บริเวณโคนต้น ซึ่งจะออกอยู่เป็นกระจุก ซึ่งการดูแลรักษานั้นจะต้องมีการใช้วัสดุในการปิดและคลุมผลที่โคนต้น เพื่อป้องกันไม่ให้กระรอกหรือหนูเข้ามากัดกิน แล้วเมื่อผลสุกแล้วจะสามารถเก็บได้เพียงแค่ 2 - 3 วันเท่านั้น จึงทำให้การเก็บเกี่ยว หรือนำผลไม้มาขายนั้นมีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ในการนำไปขายและรับประทานนั่นเอง จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ผลอัมพวาหรือมะเปรียงนั้นเป็นผลไม้โบราณพื้นเมืองที่หายาก ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซียและนำเข้ามาปลูกทางภาคใต้ของประเทศไทย โดยลูกมันจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 3 นิ้วและอาจจะมีขนาดใหญ่มากกว่านี้ก็ได้ขึ้นกับความสมบูรณ์ ซึ่งการเก็บลูกอัมพวาที่เป็นผลมาใช้ในการรับประทานนั้นจะเก็บได้เพียงแค่ 2 - 3 วันเท่านั้น ดังนั้นการที่จะนำไปขายหรือขนส่งไประยะทางที่ไกลอาจจะต้องมีการใช้อุปกรณ์เสริมในการช่วยถนอมความสดของผลอัมพวา จากทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ผู้เขียนอยากจะนำเสนอเกี่ยวกับผลไม้ประเทศไทยที่หากินได้ยากและเป็นผลไม้แปลกที่มีรสชาติอร่อยแต่หน้าตาดูไม่ค่อยน่ารับประทาน เพื่อให้เห็นถึงคุณค่าของผลไม้นั่นเอง ภาพประกอบทั้งหมดนั้นเป็นภาพถ่ายของผู้เขียน เนื่องจากที่บ้านผู้เขียนไม่ได้ปลูกต้นอัมพวาเอาไว้แต่ไปขอผลเขามา ซึ่งผลอัมพวานั้นสุกไม่มาก จึงขอมาให้ได้เพียงแค่ลูกเดียว ภาพประกอบทั้งหมดเป็นภาพถ่ายโดยผู้เขียน