แต่ละครอบครัวมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน บางครอบครัวประกอบอาชีพนักธุรกิจพันล้าน เป็นลูกข้าราชการ หรือ พนักงานโรงงานธรรมดา ถึงจะเป็นอะไรก็ตาม เราต้องหาเลี้ยงชีวิต ต่างครอบครัวต่างมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่จะวัดกันได้คือ ความขยันหมั่นเพียร และความอดทนที่จะประกอบอาชีพนั้น บางคนอยู่ที่สบาย เงินเดือนหลายหมื่น แต่ก็ไม่สบายใจเท่าอยู่ที่บ้าน มีข้าวกินเต็มเล้า แต่เงินเดือนแค่หลักพัน เพียงคุณชอบมุมมองชีวิตแบบไหน วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ ของครอบครัวฝั่งทางป้าของผม ท่านประกอบอาชีพเกษตรกร ทำไร่ ทำนา ทำสวน และขายของอยู่ตลาดเป็นประจำ มาดูกันว่าชีวิตของท่านเป็นอย่างไรบ้าง... รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ หลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้มาหาป้า ป้าของผมอาศัยอยู่ต่างอำเภอในจังหวัดเดชอุดม ท่านมีทำนา ถ้าพูดให้ดูดีหน่อยก็ อาชีพเกษตรกร พอหมดฤดูเก็บเกี่ยวท่านก็จะขายของ แต่วิถีชีวิตของท่าน น่าสนใจมาก ครอบครัวผมเป็นครอบครัวเล็ก ๆ คุณตาคุณยายก็ไม่ได้มีสมบัติมากอะไร พอทีจะมรดกตกทอดมาถึงผม แต่สิ่งที่คุณตาและคุณยายให้กับครอบครัวผม มีค่ามากกว่ามรดกและเงินทอง ท่านให้วิชาในการประกอบอาชีพ และที่ดินผืนเล็ก ๆ ผืนหนึ่ง จำนวนไม่หลายไร่นัก ในที่นาของป้าผม เป็นคล้าย ๆ ที่นาของคนปกติทั่วไป แต่จะมีความพิเศษหน่อย เพราะมีต้นตาลที่สูง อยู่หลายต้น… หลายคนสงสัยว่ามันเกี่ยวกับวิถีชีวิตของป้าผมและครอบครัวผมอย่างไร เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ ครอบครัวของป้าผมจะมีเพื่อนคู่ใจ แต่เพื่อนที่ผมว่ามันไม่ใช่คนหรอกครับ แต่มันเป็นรถแต๊ก ๆ ( ภาษาอีสาน หมายความว่า รถอีแต๋น ) ถ้าเรียกให้ดูดีหน่อย รถคุณแต๋น รถคันนี้แหละที่เป็นเพื่อนคู่ใจของป้าผม ป้าและลุงของผมจะขับรถอีแต๋นคันนี้ ลงไปเพื่อหาของมาขาย ของที่ว่านี้คือลูกตาล ตาลมีหลายชื่อ อาจจะเรียก ตาลโตสด โตนด หรือ ตาลก็ได้ ระยะห่างจากเถียงนา ( ภาษาอีสาน หมายความว่า ที่พักอาศัยอยู่ที่ทุ่งนา ) มีระยะทางประมาณ 700 - 800 เมตร ห่างลงมา โดยทางไปก็ไม่ยาก ใช้รถอีแต๋นนี้แหละ ขับไปในทุ่งนา ในฤดูเก็บเกี่ยวเสร็จก็จะมีตอข้าว หรือตอฟางอยู่ จึงสามารถขับรถอีแต๋นลงมาได้ ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะตอฟางจะถูกปล่อยทิ้งให้อยู่แบบนั้น รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ พอขับมาเรื่อย ๆ ก็จะเห็นต้นตาลจำนวนหลายต้นที่ปลูกอยู่ที่ทุ่งนาของป้าผม นาน ๆ ครั้งผมจะได้มาหาคุณป้าและคุณลุง เลยใช้โอกาสนี้แวะไปเก็บลูกตาลกับคุณป้าและคุณลุง ท่านสองคุณจะมาเก็บลูกตาลทุกวัน ทุ่งนาของป้าและลุง มีต้นตาลปลูกอยู่ประมาณ 10 กว่าต้น โดยมีความสูงมาก ๆ ถ้าจะเก็บครั้งหนึ่งก็ต้องใช้ ไม้ไผขนาดยาว หรือคนอีสานเรียกว่า ไม้ส่าว ในการนำผลตาลลงมา วิธีการนำลูกตาลลงมา ต้องใช้แรงและทักษะอย่างมาก ในการที่จะแทงบริเวณเครือของลูกตาล ทำให้ลูกตาลตกลงมา เวลาที่ลูกตาลตกลงมา ผมกลัวมาก กลัวที่จะโดนหัว ผมเลยถอยออกมาไกล ๆ ดีกว่า รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ พอได้ลูกตาลตามที่ลุงกับป้านำลงมาแล้ว ผมก็รีบขนขึ้นรถอีแต๋นคู่ใจของป้า โดยผลตาลจะมีลักษณะคล้ายมะพร้าว แต่ว่ามีผลสีดำ ลูกหนึ่งจะมีความหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม ตามน้ำหนัก แต่หนักมากอยู่เหมือนกัน ผมจึงรีบขนขึ้นรถช่วยคุณป้าในทันที ในทุก ๆ วัน ป้าและลุงก็จะมาเก็บผลตาลแบบนี้เป็นประจำเพื่อจะนำมาขาย แต่ไม่ได้ขายแบบนี้นะ ต้องไปแกะเปลือกมันออกก่อน และนำด้านในมาขาย หรือจะขายแบบนี้ แบบที่ยังเป็นผลเลยก็ได้ แต่จะลำบากคนซื้อหน่อย เพราะต้องปลอกเปลือกของผลตาลออกเอง รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ พอผ่าออก และบอกเปลือกของผลตาล ก็จะได้ลูกตาลแบบนี้ มีลักษณะคล้ายมะพร้าวมาก แต่ว่า ลูกตาลจะมีความหวาน ต้องใช้ช้อนขูดออกก่อนถึงจะทานได้ การปอกเปลือกผลตาล ต้องใช้ความชำนาญมาก แต่ดีที่ผลตาลไม่มีความแข็งมาก ทำให้ง่ายต่อการปลอก ลักษณะการปอกจะคล้าย ๆ ปลอกเปลือกมะพร้าว โดยการสับและกระเทาะเปลือกออก จะได้ลูกตาลออกมาแบบนี้ รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ ลูกตาลด้านในจะมีความหวาน และเนื้อของลูกตาลจะมีความหนึบ คล้าย ๆ กินเนื้อมะพร้าวอ่อน แต่มีลักษณะแข็งกว่านั้น จะกินสดหรือนำมาทำเป็นของหวานก็อร่อย มุมนี้ ถ่ายรูปสวยมาก ๆ เลย ผมอยากให้ทุกคนได้ไปเห็นบรรยากาศตรงนั้นมาก ๆ เลย คุณป้าของผม จะออกไปเก็บผลตาลประมาณ ช่วง 16.30 น. เพราะเป็นช่วงที่แดดกำลังไม่มี พอกลับมาท่านก็จะกลับมาปลอกเปลือก แพ็คเป็นถุงขาย โดยขายถุงละ 20 บาท ถูกมาก ๆ และเปลือกของผลตาล ก็จะนำไปทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ พอมันแห้งแล้ว ก็จะเป็นการเสริมแร่ธาตุในดินอีกด้วย ในหนึ่งวันท่านจะขายได้ประมาณ 30 - 35 ถุง แต่ถ้านำไปแปรรูปเป็นของหวาน จะขายได้ดีกว่า แต่ท่านจะนำของหวานไปใส่บาตรมากกว่า รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ ของหวานที่ว่าคือ ลูกตาลลอยแก้วอัญชัน สามารถทำได้ง่าย ๆ สูตรนี้ผมทำกินเองบ่อย โดยการนำลูกตาลมา แกะเปลือกให้เรียบร้อย นำช้อนมาขูดเอาเนื้อของลูกตาลออก ให้มีแต่เนื้อ ขั้นตอนต่อไป หาวัตถุดิบ วัตถุดิบจะมี น้ำตาล ใบเตย และอัญชัน เปิดเตาแก๊ส นำน้ำเปล่ามาต้มใบเตยและอัญชัญ จนมีสีออกฟ้า ๆ ขั้นตอนต่อไป นำเนื้อของลูกตาลเทลงไป และเติมน้ำตาล เพื่อเพิ่มความหวานได้ตามใจชอบ ใครไม่ชอบหวานก็ใส่น้ำตาลนิดเดียว เพราะเนื้อของลูกตาลมีความหวานอยู่แล้ว เป็นอย่างไรบ้างกับวิถีชีวิตบ้าน ๆ ของคุณป้าและคุณลุงของผม สามารถนำไปขายได้หลายบาทเลย โดยคุณลุงและคุณป้าของผมทำอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม ที่น่าสนใจมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้บ้างจัง เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและน่าสนใจมาก ๆ ถ้าผมมาเล่นบ้านของคุณป้า ผมก็จะช่วยท่านไปเก็บตาลหรือทำของหวานลูกตาลลอยแก้วอัญชัน แบบนี้ทานตลอด อร่อยมาก ๆ ปัจจุบันหาลูกตาลทานได้ยากมาก ๆ แต่ก็มีขายตามตลาด แต่มีราคาค่อยข้างแพง เพราะจะมีเป็นช่วงฤดูเท่านั้น ลูกตาลของป้าผมหวานจับใจมาก เดี๋ยวว่าง ๆ ผมจะถ่ายรูปบรรยากาศสวย ๆ แบบนี้มาเล่าให้ฟังอีกนะครับ บทความและรูปภาพโดย : hitERlist เจ้าของบทความ