ช่วงนี้สะเดาแถวบ้านเยอะมาก วันนี้วันดีจึงอยากทำสะเดาน้ำปลาหวานกินสักหน่อย จากที่กินไม่ค่อยเป็น พอแก่โลกผ่านคืนวัน อ้าวเฮ้ย..เพิ่งรู้ว่า สะเดาไม่ขมแล้วนะ ยิ่งกินกับน้ำปลาหวาน ที่เปรี้ยวหวาน เค้ม เผ็ด ครบรส อย่างกับชีวิตจริงของคนเราเลยล่ะ แถมผสมปนเปไปกับความขมของสะเดา ความเป็นธรรมชาติของผักชี ได้ความมีคุณค่าจากไข่ต้ม ได้ความแตกต่างและคิดนอกกรอบจากเครื่องเคียง ที่เป็นปลาแซลมอนย่างหนังกรอบ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นปลาดุกย่าง อินดี้อีกหน่อยจากเฟรนช์ฟรายส์ที่ดูไม่ได้เข้ากันเอาเสียเลย แต่แค่อยากทำอะไร ๆ ที่มันนอกกรอบดูมั่ง ให้มีสีสัน ชีวิตจะมีอะไรที่ดี มากไปกว่าการได้กินดี นอนหลับ มีสุข พอเพียง และได้แบ่งปันในบางครั้งบางโอกาสกันเล่า อิ่มอร่อย สบายพุง มากินข้าวกันจ้า ส่วนผสม สะเดาน้ำปลาหวาน สะเดา น้ำมะขามเปียก ครึ่งถ้วย น้ำตาลปิ๊บ ¾ ถ้วย หอมแดงเจียว หอมแดงซอย ½ ถ้วย พริกขี้หนูแห้ง น้ำปลา วิธีทำ นำน้ำตั้งไฟให้เดือด ใส่สะเดาลงต้ม 3 นาที แล้วนำไปแช่น้ำแข็ง จากนั้นตักสะเดาขึ้นให้สะเด็ดน้ำเตรียมไว้ นำมะขามเปียก น้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา ลงหม้อหรือกระทะ ตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาลข้นเหนียว และยกลง จากเตาตั้งพักให้อุ่น จากนั้นใส่หอมแดงซอย โรยด้วยหอมแดงเจียว พริกทอด ปรุงรสตามชอบ เสิร์ฟพร้อมะสะเดาลวกได้เลยจ้า เคล็ดลับ: สำหรับใครที่ไม่ต้องการให้สะเดามีรสขมเกินไป ให้ลวกน้ำซาวข้าวตั้งไฟเดือดจัด ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำสะเดาลงไปลวกให้สะเดายุบตัวลงไปกับน้ำ จากนั้นแช่ในน้ำแข็งหรือตู้เย็น จะทำให้สะเดาเขียวสด ลดความขมลงได้ หากไม่มีน้ำซาวข้าว สามารถใช้น้ำเปล่า ผสมกับแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งข้าวเหนียวแทนได้จ้า เพียงแค่นี้ก็จะได้สะเดารสเด็ดไว้กินกับน้ำปลาหวานแล้วค่ะ