หากคุณกินขนมปังฮอทด็อกโดยขาดซอสมัสตาร์ด มันจะกลายเป็นขนมปังฮอทด็อกที่สมบูรณ์ได้อย่างไร ถึงแม้คนไทยเราอาจจะไม่ได้ใช้มัสตาร์ดครีมสีเหลืองรสเผ็ดร้อนเป็นเครื่องปรุงประจำครัว แต่ก็น่าจะคุ้นเคยกันดีเวลาที่เราต้องออกไปทานอาหารฝรั่งนอกบ้าน ซอสมัสตาร์ดเป็นส่วนผสมของหลากหลายรสชาติขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งผลิต บางครั้งอาจมีรสเปรี้ยวผสมรสเผ็ด หรือซอสมัสตาร์ดบางยี่ห้อก็ออกรสเผ็ดปนหวานหน่อย ๆ ซะอย่างนั้น แล้วแท้ที่จริงมัสตาร์ดครีมสีเหลืองสดใสนี้มีที่มาจากอะไรกันแน่ ภาพโดย Shutterbug75 จาก Pixabay ก่อนที่ มัสตาร์ด จะกลายมาเป็นครีมสีเหลืองสดนั้น มันเคยเป็นเมล็ดเล็ก ๆ มีทั้งสีขาว สีน้ำตาล หรือดำมาก่อน ซึ่งเมล็ดพวกนี้จะเจริญเติบโตไปเป็นต้นมัสตาร์ด ในบางแห่งจะมีการปลูกมัสตาร์ดเพื่อกินใบเป็นผัก การปลูกมัสตาร์ดนั้นมีความแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ของการปลูกนั้นอยู่ที่ประเทศแคนาดา และในรัฐมอนทาน่า รวมถึงรัฐนอร์ทดาโกต้าในประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพโดย mak จาก unsplash ภาพโดย GOKALP ISCAN จาก Pixabay เมล็ดมัสตาร์ดเมื่อถูกบดแล้วจะกลายเป็นผง ซึ่งผงมัสตาร์ดนี้จะถูกใช้โรยเป็นเครื่องเทศเพื่อปรุงรสในอาหารต่าง ๆ ส่วนครีมมัสตาร์ดที่เราคุ้นเคยกันนั้นเป็นการนำเอาผงมัสตาร์ดมาผสมกับเครื่องปรุงอื่น ๆ อีกทีหนึ่ง ซึ่งส่วนผสมที่ว่านั้นมักจะเป็นไวน์ น้ำส้มสายชู และบางครั้งอาจมีส่วนผสมของน้ำตาล ส่วนรสชาติอันเผ็ดร้อนของมัสตาร์ดนั้นมาจากเอ็นไซม์เฉพาะที่มีอยู่ในเมล็ดที่มีชื่อว่า Myrosinase ซึ่งเอนไซม์นี้เองที่ทำให้มัสตาร์ดแต่ละชนิดมีรสเผ็ดมากน้อยแตกต่างกันไป มัสตาร์ดครีมจากแหล่งผลิตบางแห่งอาจจะเป็นสีออกน้ำตาลไม่เป็นสีเหลืองแบบที่เราคุ้นเคย นั่นเป็นเพราะมีการเลือกใช้แต่เมล็ดมัสตาร์ดสีน้ำตาลเท่านั้น ส่วนมัสตาร์ดสีเหลืองสดที่เป็นที่นิยมกันทั่วไปนั้นเป็นเพราะว่าผู้ผลิตได้มีการผสมผงขมิ้นลงไปด้วยนั่นเองค่ะ ภาพโดย elevate จาก unsplash มัสตาร์ดนอกจากจะเป็นเครื่องปรุงรสยอดนิยมแล้วยังเป็นส่วนผสมหลักในอาหารอื่น ๆ อีกมากมายเช่น สลัดมันฝรั่ง, ซอสบาร์บีคิว หรือแม้แต่การนำมาผสมในน้ำสลัดปรกติเพื่อเพิ่มรสชาติความเผ็ดร้อนลงไป เมล็ดมัสตาร์ดและผงมัสตาร์ดยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในวัฒนธรรมฝั่งตะวันตกและในประเทศแถบตะวันออกอย่างประเทศอินเดีย ทำให้มัสตาร์ดเป็นหนึ่งในชนิดเครื่องเทศที่มีการใช้กันมากที่สุดทั่วโลก *ภาพหน้าปกโดย stanbalik จาก Pixabay