"อารีย์แลนด์ แดนคาเฟ่" ประโยคนี้ไม่ได้พูดเกินจริง เพราะย่านอารีย์อัดแน่นไปด้วยคาเฟ่หลากหลายสไตล์จริงๆ แถมแต่ละร้านยังตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากประมาณ 200-500 เมตร ถ้าไม่เชื่อก็ลองอ่านรีวิวนี้ดูสิ:p คาเฟ่อารีย์ สำหรับสถานที่แรกที่เราจะไปตะลุยกัน คือ "Gump Ari" ซึ่งเป็น community mall ที่กำลังฮิตในหมู่วัยรุ่น เพราะมีมุมถ่ายรูปอยู่หลายที่ การเดินทางก็สะดวก เพราะอยู่ห่างจากบีทีเอสอารีย์ ประมาณ 500 เมตร ออกทางออกที่ 3 และเดินตามพิกัดนี้ได้เลย ที่นี่จะตกแต่งในธีมสีพาสเทล ทำให้ดูน่ารักและน่าถ่ายรูปมากๆ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมของกินและร้านขายของน่ารักๆ ไว้มากมายด้วย สำหรับร้านอาหารร้านแรก คือร้าน “Fuu” ร้านขายขนมหวาน ที่มีจุดเด่นคือพุดดิ้ง แต่ตอนไปถึงคือคนแน่นมาก เลยอดชิม แต่รอบหน้าต้องลองแน่ๆ Fuu.soufflepancake スフレパンケーキสาขา อารีย์ อีกร้านที่อยากแนะนำใน Gump Ari คือ ร้าน Le Paris ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Gump Ari จุดเด่นของร้านอยู่ที่ Craquelin Croissant ซึ่งมีทั้งหมด 3 รสชาติ คือ coffee, matcha และ fresh cream นอกจากนี้ยังมีครัวซองค์แบบคลาสสิคด้วย ตอนไปถึงคือที่ร้านเหลือของไม่เยอะมาก เราเลยสั่ง Craquelin Croissant Coffee พร้อมกับกาแฟลาเต้ ซึ่งบอกก่อนเลยว่ากาแฟเข้มข้นและออร์แกนิคมากเพราะไม่มีน้ำตาลเลย และเราโอเคมากเพราะปกติไม่กินหวานอยู่แล้ว ส่วนครัวซองค์พอตัดปุ๊บ คือ กรอบมากก ตัวเนื้อแป้ง มีความเค็มและกลิ่นอบเชยเบาๆ พอกินคู่กับไอซิ่งที่โรยอยู่ด้านบนจะได้ความหวานอ่อนๆ ต่อจาก Gump Ari เราจะไปกินต่อที่ DROP BY DOUGH at ARI อ่านแล้วก็รู้เลยว่าเน้นขายโดนัทแต่ไม่ใช่โดนัทธรรมดาๆ นะ เพราะโดนัทของที่นี่จะมีทั้งขนาดใหญ่ปกติและเล็กประมาณถ้วยน้ำจิ้ม สามารถกินเดี่ยวๆ หรือกินคู่กับไอติมและน้ำก็ได้ ร้านจะอยู่ในซอย Josh Hotel หรือตามพิกัด : สำหรับเมนูที่เราเลือก คือ ไอติม Two tone ที่รวมระหว่างโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี กินคู่กับโดนัท Raspberry rose ส่วนอีกเมนูคือ ไอติมโยเกิร์ตกินคู่กับโดนัท Nutella and Hazelnut ตัววาฟเฟิลที่ใส่มากับไอติมทางร้านจะทำเป็นชิ้นต่อชิ้นนะ ส่วนไอติม Two tone คือดีมาก ความเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รีเข้ากันดีกับตัวไอติมโยเกิร์ตที่อมหวานนิดๆ ส่วนตัวโดนัทแป้งนุ่ม รสชาติเปรี้ยวอมหวานเข้ากับไอติม กินไอติมจนหายเหนื่อยแล้วเราก็เดินย้อนลงมาแถวๆ อารีย์ซอย 1 แวะที่ร้านจุ่ม Joom Noodles พิกัด : เมนูที่ร้านมีหลากหลายทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยว แต่เมนูที่วันนี้เราสั่งคือข้าวคลุกแจ่วบอง+หมูสามชั้นทอด ซึ่งเป็นน้ำพริกทั่วไปที่คนอีสานมักจะทำกิน เพราะทำง่ายและเก็บได้นาน จะกินกับข้าวเหนียวหรือผักสดก็ได้ กลับมาต่อที่ตัวเมนู สำหรับข้าวคลุกแจ่วบอง ตัวข้าวมีความเผ็ดกลางๆ กินคู่กับน้ำจิ้มและผักดองที่มีความเปรี้ยวคือดีมากกก กินข้าวไปแล้วก็จริง แต่เราก็จะกินอีกเพราะ วันนี้เรามาเพื่อกิน!! ร้านต่อมาคือ ร้าน I am Curry ร้านข้าวแกงกระหรี่ของเชฟปอนด์ หนึ่งในเชฟที่แข่งขันใน Master chef Thailand พิกัด : ซอสแกงกระหรี่จะมีให้เลือก 2 ซอส คือ ซอสเนื้อและซอสผัก ซึ่งซอสเนื้อรสชาติจะมีความเข้มข้นและจัดจ้าน มีกลิ่นของเครื่องเทศที่ชัดเจน ที่สำคัญคือร้านเคี่ยวซอสมาดีมากเพราะรสชาติกลมกล่อม เอาจริงๆ กินแล้วอยากกินอีก ส่วนซอสผักจะรสชาติอ่อนกว่าซอสเนื้อและมีความหวานที่ได้จากน้ำของผักผสมอยู่ด้วย สำหรับเนื้อสัตว์อย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ และกุ้งถือว่าดีมาก ๆ แป้งกรอบอร่อย แต่หมูอาจจะเหนียวและแข็งไปนิดนึงสำหรับเรา กินของคาวกันมาแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานสักหน่อย ร้านจะอยู่ถัดจากร้านI am curry ไปนิดนึงชื่อร้าน Coffee no.9 พิกัด : ส่วนเมนูของที่ร้านก็มีให้เลือกทั้งกาแฟ ชานม ชาเขียว แต่เพราะเราชอบกินชาเขียวเลยตัดสินใจสั่งเมนูนี้ก่อน โดยพี่พนักงานบอกว่า เมนูชาเขียวจะมีสองเมนูคือ Matcha Latte และ Supreme Matcha สองเมนูนี้แตกต่างกันที่ความเข้มข้นของชาเขียว ดังนั้น เราเลยเลือก Supreme Matcha ที่มีความเข้มข้นของชามากกว่า และพอชิมคำแรกก็รู้เลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะได้กลิ่นหอมของชาชัดเจน รสชาติไม่หวานเลยทั้งๆ ที่สั่งหวานปกติ นอกจากนี้ตัวชายังมีรสชาติขมเบาๆ และอบอวลไปด้วยกลิ่นไหม้ๆจากการคั่ว ร้านสุดท้ายสำหรับการรีวิวในวันนี้คือร้าน MTCH ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Matcha Specialist พิกัดอยู่ที่ ชาที่เราสั่งมีทั้งหมด 5 เมนู ตามนี้ Tsuyuhikari ซึ่งจะมีส่วนผสมของชาอยู่กลางๆ มีกลิ่นหอมของการคั่วชัดเจนและหวานเบาๆ Haru มีส่วนผสมของชามากกว่าเมนูแรกเล็กน้อย รสชาติเข้มข้นกว่าและมีกลิ่นของการคั่วชัดเจน South Yabukita Bold จะมีความคล้ายคลึงกับ Matcha Latte เพียงแต่จะมีชาเขียวเยอะและนมน้อยมากๆ รสชาติไม่หวานและไม่มีกลิ่นของการคั่ว เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆ MTCH EInspanner white ตัวนี้คือคล้าย Matcha latte เลย แต่มีจุดเด่นที่เพิ่มวิปครีมไว้ด้านบน อร่อย นุ่ม Matcha Coconut จะเป็นชาเขียวแบบไม่ใส่นม แต่ใส่น้ำมะพร้าวเป็นส่วนผสมแทน พอกินเข้าไปจะได้กลิ่นหอมจากน้ำมะพร้าวและมีรสชาอ่อนๆ ไม่หวานมาก นอกจากเมนูชาเขียวแล้วที่ร้านยังมีขนมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับชาเขียวอย่างไอติมชาเขียว พุดดิ้งด้วย ภาพทั้งหมดจากนักเขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !