9 วิธีเก็บกล้วยหอมให้สุกช้า ทยอยกินได้นานๆ หลายวัน ทำยังไงดี มาดูกัน! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล คุณผู้อ่านเคยซื้อกล้วยหอมมาหวีสวยๆ แต่พอวางทิ้งไว้ไม่กี่วันก็สุกงอมเกินไปจนต้องทิ้งไหมคะ? เชื่อว่าหลายคนคงพยักหน้า เพราะนี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากๆ และน่าเสียดายไม่น้อยเลยค่ะ เพราะกล้วยหอมเป็นผลไม้ที่มีราคาและอร่อย แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องอายุการเก็บที่สั้น ทำให้เราต้องเร่งกินให้หมด หรือบางทีก็ต้องจำใจทิ้งไปเพราะสุกจนเละไปเสียก่อน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมวิธีเก็บกล้วยหอมให้สุกช้าลง ถึงเป็นเรื่องที่หลายคนค้นหาและอยากนำไปใช้ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราได้กินกล้วยอร่อยๆ ไปนานขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการสิ้นเปลืองอาหารอีกด้วยค่ะ ซึ่งการที่เราสามารถยืดอายุกล้วยหอมได้ ไม่เพียงแต่ดีต่อกระเป๋าสตางค์ของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยลดขยะอาหาร ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ ลองคิดดูสิคะว่า ถ้าทุกคนสามารถเก็บกล้วยหอมได้นานขึ้นอีกสักหน่อย ก็จะช่วยลดปริมาณกล้วยที่ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ได้มากแค่ไหน ดังนั้นการเรียนรู้เคล็ดลับง่ายๆ ในการชะลอการสุกของกล้วยหอม จึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันของเราทุกคนค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางนะคะ 1. หั่นบางๆ ที่ขั้วกล้วยทุกวัน โดยปกติแล้วกล้วยจะปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาจากขั้ว ซึ่งเป็นตัวเร่งให้กล้วยสุกเร็วขึ้น การหั่นขั้วออกไปเรื่อยๆ จะเป็นการช่วยลดการสะสมของก๊าซนี้ จึงทำให้กระบวนการสุกช้าลงได้จริงๆ การที่เราหั่นขั้วออกไปทีละน้อยในแต่ละวัน ก็เหมือนกับการตัดแหล่งกำเนิดก๊าซเอทิลีน จึงทำให้กล้วยได้รับก๊าซน้อยลงและสุกช้าลงตามไปด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีที่ง่ายในการยืดอายุความสดของกล้วยหอม และทำให้เราได้มีเวลากินกล้วยหอมแสนอร่อยได้นานขึ้นค่ะ 2. แยกกล้วยออกจากกัน ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะว่าแค่แยกกล้วยจะช่วยให้มันสุกช้าลงได้ แต่ความจริงแล้วกล้วยเป็นผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาค่อนข้างมาก ซึ่งก๊าซชนิดนี้ไปเร่งกระบวนการสุกของผลไม้ตามธรรมชาติ ซึ่งการแยกกล้วยออกจากกันเป็นการลดปริมาณก๊าซเอทิลีนที่วนเวียนอยู่รอบๆ ผลแต่ละลูก ทำให้กระบวนการสุกเป็นไปอย่างช้าลงค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยลดการสัมผัสกันโดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดรอยช้ำและเร่งการเน่าเสียได้อีกด้วย ยังไงลองนำเคล็ดลับง่ายๆ นี้ไปใช้ดูนะคะ จะได้มีกล้วยหอมอร่อยๆ กินนานขึ้นค่ะ 3. หลีกเลี่ยงการวางใกล้ผลไม้อื่นๆ หลายคนเจอกับปัญหากล้วยหอมที่ซื้อมาสุกเร็วเกินไป จนบางทีก็กินไม่ทัน เคยลองสังเกตไหมคะว่า บางทีเราอาจวางกล้วยไว้ใกล้ๆ ผลไม้อื่นๆ ที่สุกง่ายๆ เช่น มะม่วง หรือมะละกอ ซึ่งจริงๆ แล้วนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กล้วยของเราสุกเร็วขึ้นค่ะ เพราะผลไม้เหล่านี้ รวมถึงตัวกล้วยเองด้วย ก็จะปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมา ซึ่งก๊าซนี้เองที่เป็นตัวเร่งให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น ดังนั้นการที่เรานำกล้วยไปวางรวมกับผลไม้ที่สุกง่ายชนิดอื่น ก็เหมือนกับการเร่งให้ก๊าซเอทิลีนไปกระตุ้นให้กล้วยของเราสุกเร็วยิ่งขึ้นไปอีกนะคะ ดังนั้นให้ลองเปลี่ยนมาเก็บกล้วยหอมแบบแยกจากผลไม้ชนิดอื่นดูค่ะ เพราะจะช่วยชะลอการสุกและยืดอายุความสดของกล้วยหอมให้เราได้กินนานขึ้น 4. พันด้วยฟอยล์อะลูมิเนียม หลายคนอาจคิดว่า การพันก้านกล้วยด้วยฟอยล์อะลูมิเนียมฟังดูแปลกๆ แต่จริงๆ แล้ว วิธีนี้ช่วยได้มากเลยค่ะ เพราะผู้เขียนได้ลองทำมาแล้ว เนื่องจากก้านของกล้วยเป็นส่วนที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาเยอะที่สุด ซึ่งก๊าซตัวนี้ไปเร่งให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น การที่เราเอาฟอยล์ไปพันก้านกล้วย ก็เหมือนเป็นการกักไม่ให้ก๊าซเอทิลีนกระจายออกมามากเกินไป ทำให้กระบวนการสุกของกล้วยทั้งหวีเป็นไปอย่างช้าลงได้ ดังนั้นลองเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้ดูนะคะ จะได้มีกล้วยหอมอร่อยๆ ไว้กินนานขึ้นค่ะ 5. เก็บในอุณหภูมิห้องที่ไม่โดนแดด หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมกล้วยหอมที่ซื้อมาถึงสุกเร็วเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินเลย จริงๆ แล้วปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อความเร็วในการสุกของกล้วยก็คือ อุณหภูมิและแสงแดดค่ะ การที่เรานำกล้วยไปวางในที่ที่โดนแดดจัดๆ หรือในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง จะเป็นการเร่งให้กล้วยปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมามากขึ้น ซึ่งก๊าซเป็นตัวการหลักในการทำให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น ดังนั้นเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้กล้วยหอมของเราสุกช้าลงได้ก็คือ การเก็บกล้วยไว้ในอุณหภูมิห้องปกติที่ไม่โดนแดดโดยตรง หรือหลีกเลี่ยงการวางไว้ใกล้หน้าต่างที่โดนแสงแดดจัดๆ การทำแบบนี้จะช่วยชะลอการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสุก จึงทำให้กล้วยของเรายังคงสดและอยู่ได้นานขึ้นค่ะ 6. พันด้วยพลาสติกแรปอาหาร อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้กล้วยหอมของเราสุกช้าลงได้ นั่นคือการพันก้านกล้วยด้วยพลาสติกแรปอาหารค่ะ เพราะกล้วยเป็นผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาเยอะ โดยเฉพาะบริเวณก้าน ซึ่งก๊าซตัวนี้เป็นตัวการสำคัญในการเร่งให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น การที่เรานำพลาสติกแรปอาหารมาพันรอบก้านกล้วย จะช่วยกักเก็บไม่ให้ก๊าซเอทิลีนที่ถูกปล่อยออกมาแพร่กระจายไปทั่วผลกล้วย หรือไปเร่งให้กล้วยลูกอื่นสุกเร็วตามไปด้วย การทำแบบนี้จะช่วยชะลอการสุกของกล้วยทั้งหวี ทำให้เรามีเวลากินกล้วยหอมอร่อยๆ ได้นานขึ้นนั่นเองค่ะ เพื่อนๆ ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ดูนะคะ จะช่วยประหยัดและลดการทิ้งอาหารได้อีกด้วย 7. ห่อกล้วยด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษทิชชู การห่อกล้วยแต่ละลูกด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษทิชชู เป็นอีกหนึ่งแนวทางง่ายๆ ที่ได้ผลค่ะ เพราะกระดาษจะช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกินรอบๆ ผิวเปลือกกล้วย ซึ่งความชื้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้กล้วยสุกเร็วขึ้น นอกจากนี้กระดาษยังช่วยเป็นเหมือนฉนวนบางๆ ที่ลดการสัมผัสโดยตรงของกล้วยกับอากาศภายนอก จึงช่วยชะลอการแพร่กระจายของก๊าซเอทิลีนที่กล้วยปล่อยออกมาเอง ซึ่งการห่อแต่ละลูกยังช่วยป้องกันไม่ให้กล้วยช้ำง่ายจากการชนกันเองอีกด้วย ยังไงนั้นลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ จะช่วยให้เรามีกล้วยหอมอร่อยๆ ไว้กินนานขึ้น ที่ไม่ต้องรีบทิ้งเพราะสุกเกินไปนะคะ 8. แยกใส่ในถุงพลาสติกหรือถุงซิปล็อก หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า วิธีง่ายๆ ที่ช่วยยืดอายุกล้วยหอมของเราได้ นั่นคือการแยกกล้วยหอมแต่ละลูกแล้วใส่ในถุงพลาสติกหรือถุงซิปล็อกค่ะ ที่ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนเพิ่มขั้นตอน แต่จริงๆ แล้ววิธีนี้ช่วยได้มากนะคะ เพราะกล้วยเป็นผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาเยอะ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มสุก ซึ่งก๊าซตัวนี้เองที่เป็นตัวการสำคัญที่เร่งให้กล้วยที่เหลือหรือผลไม้อื่นๆ สุกเร็วตามไปด้วย การที่เราแยกกล้วยใส่ถุงแต่ละลูก จะช่วยจำกัดการแพร่กระจายของก๊าซเอทิลีน จึงทำให้กล้วยแต่ละลูกสุกช้าลง และยังช่วยลดการสัมผัสกับอากาศภายนอกโดยตรง ซึ่งจะชะลอการเน่าเสียได้อีกทางหนึ่งด้วย ก็ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ดูนะคะ จะได้มีกล้วยหอมสดๆ กินนานขึ้น โดยไม่ต้องทิ้งเพราะสุกเกินไปค่ะ 9. นำไปแช่เย็นหลังจากสุกแล้ว หลายคนอาจเคยได้ยินว่าไม่ควรเอากล้วยเข้าตู้เย็น เพราะเปลือกจะดำ ซึ่งสิ่งนี้จริงค่ะ! แต่เคล็ดลับนี้ใช้ได้ผลดีเมื่อกล้วยหอมสุกได้ที่แล้วค่ะ ถ้าสังเกตเห็นว่ากล้วยของเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่าม หรือมีจุดดำเล็กๆ ขึ้นมาบ้าง นั่นคือสัญญาณว่ากล้วยพร้อมกินแล้ว และถ้ายังกินไม่หมด หรือกลัวว่าจะสุกงอมไปกว่านี้ ก็ถึงเวลาที่จะย้ายกล้วยหอมเข้าไปอยู่ในตู้เย็นได้เลยนะคะ เพราะการแช่เย็นจะช่วยชะลอการทำงานของเอนไซม์ ที่ทำให้กล้วยสุกงอมต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ แม้ว่าเปลือกกล้วยอาจจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำขึ้นเล็กน้อยจากความเย็นได้บ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ากล้วยข้างในจะเสียนะคะ เนื้อกล้วยข้างในจะยังคงความสด หวาน และอร่อยไว้ได้อีกหลายวันเลยทีเดียว ยังไงนั้นลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ จะได้ไม่ต้องทิ้งกล้วยหอมเพราะสุกเกินไปอีกต่อไปค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับเคล็ดลับที่สามารถช่วยชะลอการสุกของกล้วยหอมได้ โดยจากที่ผู้เขียนได้มีประสบการณ์มานั้น หากเรานำกล้วยที่ห่อด้วยฟอยล์อะลูมิเนียมหรือพลาสติกแรปอาหารไปใส่ไว้ในถุงพลาสติก แบบนี้ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการชะลอการสุกของกล้วยหอมค่ะ เพราะหลังจากที่ผู้เขียนได้นำกล้วยฟอยล์ไปใส่ไว้ในถุงพลาสติกข้ามคืน พบว่า กล้วยหอมที่วางไว้แยกออกจากหวีและนำมาวางไว้เฉยๆ ในอุณหภูมิห้อง มีระดับความสุกเพิ่มมากขึ้นจนสามารถนำมารับประทานได้ แต่กล้วยที่อยู่ในถุงยังไม่สุกค่ะ โดยจากวิธีการชะลอความสุกของกล้วยหมดทั้งหมดที่ผู้เขียนได้พูดถึงนั้น ยิ่งเราใช้วิธีการที่หลากหลายในคราวเดียวกัน ความสุกของกล้วยยิ่งช้าลงไปอีกค่ะ อย่างไรก็ตามหากกล้วยสุกได้ที่แล้ว แนวทางสุดท้ายที่เราต้องทำก็คือการนำกล้วยไปแช่ตู้เย็นนะคะ ซึ่งความเย็นจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทำได้ เพื่อยืดเวลาออกไปได้อีกระยะหนึ่ง จนกว่าเราจะนำกล้วยหอมลูกนั้นออกมารับประทานค่ะ ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำเทคนิคต่างๆ ในบทความนี้ไปใช้กันนะคะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 วิธีเลือกกล้วย อร่อยถูกปาก สุกงอมกำลังดี 11 เคล็ดลับทำกล้วยบวชชีให้อร่อย ง่ายๆ ต้องทำอะไรบ้าง ยังไงดี 7 ทริคเก็บเค้กกล้วยหอมที่เหลือ กินไม่หมด แต่เปิดถุงแล้ว ทำไง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !