ช่วงนี้ออกไปทำงานนอกบ้านไม่ได้ ต้องหยุดอยู่บ้านยาวๆ เพราะโรคระบาดโควิด เลยต้องหาอะไรทำเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กันสักหน่อย ตอนแรกคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี ก็เลยเก็บบ้านถึงได้เจอเมล็ดผักที่ซื้อไว้เมื่อเดือนก่อนซุกอยู่ในลัง จึงเป็นที่มาของบทความนี้ที่จะมาเล่าสู่กันฟัง เมล็ดที่เราค้นเจอก็คือ เมล็ดผักบุ้ง ซึ่งจะว่าไปแล้วไม่ใช่ไม่เคยปลูก แต่ตอนนั้นไม่มีเวลาว่างจะปลูกต่อเนื่อง ปลูกเล่นสนุกๆ จึงไม่ได้ทำต่อ ทั้งที่ผักบุ้งเองให้ผลผลิตที่ค่อนข้างไว ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก ไม่ต้องใช้เคมีในการปลูก และยังให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย มาถึงตอนนี้กักตัว ช่วยชาติ เวลาออกไปซื้ออาหารพวกผักก็ไม่สามารถซื้อกลับมาได้มาก เพราะหากตุนเยอะแช่ไว้กินไม่ทันก็เน่าเสีย การปลูกผักไว้กินเองจึงถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแก่เวลานี้เป็นอย่างยิ่ง อยากกินตอนไหนก็เดินไปตัดมาทำกินสดๆ ได้เลย ซึ่งเราจะขอแนะนำวิธีปลูกผักบุ้งแบบง่ายๆ ที่ได้ผลอย่างแน่นอนมาฝาก โดยอุปกรณ์มีดังนี้ เมล็ดผักบุ้ง ดิน ภาชนะที่ใช้ปลูก นำเมล็ดผักบุ้งมาล้างน้ำให้สะอาดจนน้ำที่ล้างนั้นใส และนำมาแช่น้ำไว้ข้ามคืน 1 คืน ซึ่งน้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำอุ่น (น้ำร้อน 1 ส่วน : น้ำเย็น 1 ส่วน) เพราะจะช่วยกระตุ้นให้เมล็ดงอกได้ค่อนข้างเร็ว วันรุ่งขึ้นในภาชนะจะมีเมล็ดผักบุ้งที่เสียหรือไม่สมบูรณ์ พวกเมล็ดหักครึ่งหรือเน่า ลอยอยู่บนผิวน้ำให้คัดทิ้ง และล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง ขั้นตอนนี้จะนำเมล็ดไปบ่มในผ้าชื้นอีก 1 คืนก็ได้ เพื่อรอให้เมล็ดออกรากมากขึ้น แล้วค่อยนำไปปลูกลงดิน แต่เราไม่ได้บ่ม เพราะเคยทดลองแล้วพบว่า บ่มกับไม่บ่ม ผลลัพธ์ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เตรียมดินที่ใช้ปลูก ใช้ดินหรือปุ๋ยอะไรก็ได้ เทลงในภาชนะที่จะปลูก ไม่ว่าจะเป็นแก้วพลาสติก ขวดน้ำ กระถางต้นไม้ กล่องน้ำผลไม้ ใช้ได้หมด จากนั้นนำเมล็ดที่เตรียมไว้ โรยลงบนหน้าดินให้ทั่ว เว้นระยะห่างกันเล็กน้อยให้พอมีช่องว่างให้เมล็ดได้แทงรากและโผล่ขึ้นมาโดยไม่เบียดกันจนเกินไป และโรยดินบางๆ กลบหน้าเมล็ดอีกครั้ง จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำไปวางในที่มืด อาจหาผ้า กระดาษหนังสือพิมพ์ หรืออะไรมาคลุมและวางทับด้วยของหนัก เพื่อให้ผักบุ้งสูงและโตขึ้นมาพร้อมๆ กัน ระยะ 2-3 วันแรก เมล็ดจะเริ่มแทงรากออกมาและจะยืดตัวหาแสงเราก็ปล่อยไว้อย่างนั้นก่อน แต่พอต้นผักบุ้งเริ่มสูงสักวันที่ 5 เราค่อยนำต้นผักบุ้งออกมาเจอแสงแดดอ่อนๆ โดยช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 2 ต้องรดน้ำทุกวัน อาจให้น้ำเช้า เย็น เพื่อควบคุมความชื้นให้สม่ำเสมอ ครบเวลาวันที่ 7-10 ก็สามารถนำผักบุ้งมาทำอาหารได้เลย ทั้งนี้ ระยะเวลาที่ปลูกประมาณ 7-15 วันนั้น เราเรียกผักบุ้งในช่วงนี้ว่า ต้นอ่อนผักบุ้ง เวลากินจะได้ประโยชน์เน้นๆ อุดมด้วยคลอโรฟิล วิตามิน ช่วยในการบำรุงสายตา มีไฟเบอร์สูงช่วยในการขับถ่าย บำรุงผิวพรรณ บำรุงหัวใจ ซึ่งหากไม่ชอบต้นอ่อน ต้องการให้ผักบุ้งโตเต็มวัยก็สามารถปล่อยให้สูงยาวได้ตามปกติ แต่อาจจะได้วิตามินและสารอาหารน้อยกว่าต้นอ่อน ทราบวิธีกันไปแล้ว ไม่ยากเลยใช่ไม๊หล่ะ ที่จริงแล้วจะปลูกแบบไม่แอบในที่มืดก็ได้นะ ได้ผลดีเหมือนกัน เพียงแต่เมล็ดจะมีอัตราการงอกที่ไม่พร้อมกันสักเท่าไหร่ คือโตเร็วบ้างช้าบ้าง ไม่ต้องกังวล เพราะสุดท้ายแล้วผักบุ้งจะโตและสูงไล่ๆ กันหมดแทบทุกเมล็ดที่ปลูกเอง ต้นอ่อนผักบุ้งปลูกง่าย โตไว ปลอดสารพิษ ดีต่อสุขภาพขนาดนี้ ไม่หามาปลูกไม่ได้แล้วหล่ะ ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการปลูกผักในช่วงเก็บตัวและมีร่างกายที่แข็งแรงกันทุกคนเลยนะ ภาพโดย ผู้เขียน