9 ทริคเลือกขนมต้มไส้มะพร้าว ขนมไทยโบราณ แบบไหนดี ไม่ค้างคืน อ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ขนมต้มเป็นขนมไทยโบราณที่หลายคนชอบ เพราะรสหวานมันและกลิ่นหอมของมะพร้าวผสมกับน้ำตาลมะพร้าว และเป็นขนมที่ดูเรียบง่าย วัตถุดิบก็มีไม่กี่อย่าง แต่คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ถ้าเลือกไม่ดีสามารถส่งผลต่อรสชาติและสุขอนามัยได้โดยตรง โดยหลายคนยังไม่รู้ว่า จุดที่สามารถส่งผลต่อสุขอนามัยของขนมต้มมีหลายอย่าง ตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้ การเก็บรักษา ไปจนถึงความสะอาดของภาชนะและมือผู้ทำ มะพร้าวขูดที่ไม่สดหรือผ่านการเก็บไว้นาน ที่กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะถ้าทำค้างคืนหรือเก็บในสภาพไม่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียความอร่อยแล้ว ยังทำให้เกิดความเจ็บป่วยได้ ดังนั้นการเลือกขนมต้มจึงไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่เป็นเรื่องความปลอดภัยด้วยค่ะ นอกจากนี้สถานที่ทำหรือร้านขายที่ไม่สะอาด ก็ยังทำให้มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนในขนมได้ ดังนั้นก่อนซื้อจึงต้องมีเคล็ดลับ เพื่อให้มั่นใจว่าขนมที่ได้ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังปลอดภัยต่อสุขอนามัยในทุกคำที่กินเข้าไปค่ะ และต่อไปนี้คือวิธีเลือกขนมต้มให้ได้ขนมที่มีคุณภาพดี 1. กลิ่นหอมจากมะพร้าวและน้ำตาลธรรมชาติ หลายคนยังไม่รู้ว่า การเลือกขนมต้มที่มีกลิ่นหอมจากมะพร้าวและน้ำตาลธรรมชาติ เป็นเหมือนการเลือกของอร่อยที่บอกถึงความสดใหม่ได้ ตั้งแต่ยังไม่ต้องชิมค่ะ เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆ จากมะพร้าวขูดสดและน้ำตาลมะพร้าวที่เคี่ยวจนหอม จะบอกได้ว่าคนทำใช้วัตถุดิบใหม่ ไม่ค้างคืน และไม่ได้ใส่สารแต่งกลิ่นมาช่วยกลบความไม่สด ซึ่งจะต่างจากขนมที่เริ่มบูดหรือค้างนาน ที่จะมีกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นหมักอ่อนๆ จนรู้สึกได้ ดังนั้นแค่ยกขึ้นมาดมเพื่อประเมินกลิ่นก่อนซื้อ ทริคนี้ก็ช่วยให้เราเลือกขนมที่ได้รสอร่อยแท้ๆ และปลอดภัยต่อสุขอนามัยมากขึ้นได้แล้วค่ะ 2. ไม่เหนียวติดมือจนเกินไป ขนมต้มที่ไม่เหนียวติดมือจนเกินไป เป็นอีกจุดที่ช่วยบอกความสดใหม่และคุณภาพได้ดีนะคะ เพราะแม้ขนมต้มจะมีความเหนียวตามธรรมชาติอยู่บ้างจากแป้งข้าวเหนียว แต่ถ้าจับแล้วติดมือมากๆ จนยืดเป็นเส้นหรือรู้สึกเลอะ นั่นหมายถึงมะพร้าวที่คลุกมีความชื้นสูงเกินไป หรือไส้มีน้ำมันออกมา ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้กินไม่สะดวกเท่านั้น แต่ยังทำให้บูดเสียได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ ที่โดยทั่วไปแล้วขนมต้มที่ทำใหม่และสัดส่วนพอดี จะเหนียวพอให้เคี้ยวหนึบๆ ได้ แต่ยังหยิบจับง่าย ไม่ต้องคอยปัดเศษออกจากมือ ทำให้กินเพลินแบบไม่เลอะเทอะค่ะ 3. มะพร้าวขูดสีขาวสะอาด ไม่เหลืองหรือหมอง การสังเกตมะพร้าวขูดที่คลุกขนมต้มให้มีสีขาวสะอาด เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราเลือกขนมที่สดใหม่และปลอดภัยต่อการกินได้ค่ะ เพราะมะพร้าวขูดสีขาวนวลบ่งบอกว่าเพิ่งขูดใหม่ ไม่ผ่านการเก็บไว้นานหรือโดนอากาศจนหมอง ถ้ามีสีเหลืองหรือหมองคล้ำ มักจะหมายถึงมะพร้าวเก่าหรือเริ่มบูด ซึ่งนอกจากจะทำให้รสชาติและกลิ่นเสียไปแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราได้ด้วย ขนมต้มที่ใช้มะพร้าวขาวสะอาดจะให้รสหวานมัน หอม และดูน่ากินตั้งแต่แรกเห็น เป็นสัญญาณว่าคนทำใส่ใจในคุณภาพวัตถุดิบค่ะ 4. เนื้อแป้งนุ่ม หนึบพอดี ไม่แข็งหรือเละ เนื้อแป้งของขนมต้มที่นุ่มและหนึบพอดี เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้กินแล้วรู้สึกอร่อยและเพลินค่ะ เพราะถ้าแป้งแข็งเกินไปจะเคี้ยวยากและเสียรสชาติ ในขณะที่ถ้าเละหรือเปียกเกินไป ก็มักเกิดจากการเก็บไว้นาน หรือแป้งเจอน้ำมากเกินจนเสียรูปนะคะ เนื้อแป้งที่ดีควรเด้งเล็กน้อยเมื่อกัด เคี้ยวแล้วรู้สึกหนึบละมุน ไม่ติดฟันมาก และยังคงรูปร่างกลมแน่นสวย การสังเกตแป้งเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เรารู้ว่า ขนมต้มทำใหม่และมีสัดส่วนการผสมที่พอดี ทำให้รสชาติกลมกล่อมและน่ากินตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้ายค่ะ 5. ไส้แน่น กลิ่นหอม ไม่แฉะ ไส้ขนมต้มที่แน่นและมีกลิ่นหอม เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าคนทำใส่ใจในขั้นตอนและคุณภาพค่ะ เพราะไส้ที่ดีจะต้องผัดมะพร้าวกับน้ำตาลจนหอมหวาน ที่มีความชื้นพอดี ไม่แฉะหรือมีน้ำเยิ้มออกมา เนื่องจากความชื้นที่มากเกินไป จะทำให้ขนมบูดเร็วนะคะ และทำให้เนื้อแป้งรอบนอกเสียรูป เมื่อกัดเข้าไปควรรู้สึกเต็มคำ ได้รสหวานมันของมะพร้าวและกลิ่นหอมที่ชัดเจน โดยไม่ต้องกลบด้วยน้ำตาลมากเกินไป ขนมต้มที่ไส้แน่นและหอม จะให้ความรู้สึกอิ่มใจตั้งแต่คำแรก และยังบอกได้ว่าใช้วัตถุดิบสดใหม่ ไม่ผ่านการเก็บค้างคืนค่ะ 6. ไม่มีกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นหมัก การเลือกขนมต้มที่ไม่มีกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นหมักเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะกลิ่นเหล่านี้เป็นหลักฐานชัดว่า ขนมเริ่มบูดหรือมีการหมักหมมของเชื้อจุลินทรีย์แล้ว ซึ่งขนมที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากมะพร้าวและน้ำตาลตามธรรมชาติเท่านั้นค่ะ โดยจะต้องไม่มีความเปรี้ยวแหลม หรือกลิ่นหมักที่ทำให้รู้สึกไม่อยากกิน การดมกลิ่นก่อนซื้อจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราเลี่ยงขนมที่หมดสภาพได้ เพราะนอกจากจะเสียรสชาติแล้ว ยังเสี่ยงต่อการทำให้เกิดความเจ็บป่วยจากที่มีอาหารเป็นสื่อได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกขนมที่มีกลิ่นหอม ดูสะอาด และนุ่ม จะปลอดภัยและอร่อยกว่ามากๆ ค่ะ 7. รูปทรงกลมสวย ไม่ยุบหรือแตก ขนมต้มที่มีรูปทรงกลมสวย บ่งบอกถึงความสดใหม่และฝีมือการทำที่ประณีตค่ะ เพราะเนื้อแป้งจะโอบไส้ไว้แน่นพอดี ทำให้ผิวขนมเรียบและกลม ไม่ยุบตัวหรือแตก หากขนมยุบหรือแตก มักเป็นเพราะเก็บไว้นานจนแป้งแห้งหรือเสียความชื้นนะคะ ทำให้ไส้ดันออกมาและเสียรูปร่าง นอกจากนี้ขนมที่ทรงสวยยังดูน่ากินและชวนให้หยิบมากกว่า เพราะสื่อว่าคนทำใส่ใจตั้งแต่การนวดแป้ง การห่อไส้ ไปจนถึงการคลุกมะพร้าว ที่โดยสรุปแล้วการเลือกขนมที่ยังคงรูปสวย จะได้ทั้งรสชาติและความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นค่ะ 8. รสหวานกลมกล่อม ไม่หวานแหลม รสหวานกลมกล่อมของขนมต้มเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า ผู้ทำมีความใส่ใจในการปรุงค่ะ เพราะรสหวานที่พอดีจะทำให้กินแล้วเพลิน ไม่รู้สึกติดคอหรือเลี่ยน ที่จะต่างจากรสหวานแหลม ที่มักเกิดจากการใส่น้ำตาลมากเกินไป เพื่อกลบความไม่สดของมะพร้าวหรือไส้ ขนมที่ทำใหม่และใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจะให้ความหวานนวล ละมุนลิ้น เข้ากับกลิ่นหอมของมะพร้าวและน้ำตาลธรรมชาติอย่างลงตัว ซึ่งรสแบบนี้กินได้หลายคำโดยไม่เบื่อ และยังทำให้ได้สัมผัสถึงรสชาติแท้ๆ ของวัตถุดิบโดยไม่ถูกกลบรสค่ะ 9. ซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจและหมุนเวียนของเร็ว รู้ไหมคะว่า การซื้อขนมต้มจากแหล่งที่ไว้ใจและมีการหมุนเวียนของเร็ว เป็นวิธีลดความเสี่ยงในการได้ขนมค้างคืนหรือเริ่มบูดได้อย่างมาก เพราะร้านที่ขายดีมักทำใหม่ทุกวัน วัตถุดิบสด และไม่จำเป็นต้องเก็บของไว้นานจนเสียสภาพ อีกทั้งยังมักใส่ใจในมาตรฐานความสะอาด เนื่องจากต้องรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า การเลือกซื้อจากร้านประจำที่เรารู้จัก หรือร้านที่มีลูกค้าซื้ออยู่ตลอด จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าขนมที่ได้มานั้นสดใหม่ กลิ่นหอม รสชาติดี และปลอดภัยต่อสุขอนามัย ทั้งยังทำให้กินได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะบูดเสียก่อนถึงบ้านค่ะ ก็จบแล้วค่ะ สำหรับเคล็ดลับที่จำเป็นต้องรู้ตอนเลือกซื้อขนมต้มนะคะ สำหรับผู้ชายที่ไม่ถนัดเรื่องเลือกขนมต้ม แต่อยากได้ของอร่อยและปลอดภัยแบบไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์เยอะ สามารถใช้วิธีสังเกตง่ายๆ แค่ 3 อย่างนี้ก็เอาอยู่แล้วค่ะ อย่างแรกคือดมกลิ่นก่อนซื้อ ให้เลือกที่มีกลิ่นหอมจากมะพร้าวและน้ำตาลธรรมชาติ เพราะเป็นสิ่งที่บอกถึงความสดใหม่ได้ชัดเจน ถ้ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบนุ่มละมุน แปลว่าทำใหม่และใช้วัตถุดิบดี แต่ถ้ามีกลิ่นเปรี้ยวหรือหมักแม้แต่น้อยให้วางทันทีค่ะ ข้อสองคือให้ดูสีมะพร้าวขูด ที่ควรเป็นมีสีขาวนวลสะอาด ไม่มีรอยเหลืองหรือหมอง เพราะสีเหล่านี้บ่งบอกว่ามะพร้าวเก่าหรือเริ่มบูด ข้อสุดท้ายคือซื้อจากร้านที่ไว้ใจและหมุนเวียนของเร็ว แม้เราจะไม่ชำนาญการสังเกตทุกรายละเอียด แต่การเลือกแหล่งที่ขายดีและทำใหม่ทุกวันจะช่วยลดความเสี่ยงได้มากนะคะ ซึ่งทั้ง 3 ทริคข้างต้นที่ว่ามานั้น ก็ช่วยคัดขนมต้มที่สดใหม่ อร่อย และปลอดภัยได้เกินครึ่ง และยังประหยัดเวลาด้วยนะคะ โดยไม่ต้องยืนพิจารณาทีละชิ้นในร้าน และเหมาะมากกับผู้ชายที่อยากซื้อขนมไปฝากคนที่บ้านหรือซื้อกินเอง แบบมั่นใจว่าของที่ได้ไม่บูดเสียก่อนถึงมือ มีรสชาติที่ยังคงหอมหวาน กลมกล่อม และกินได้อย่างเพลิดเพลินค่ะ และโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเองก็ใช้เคล็ดลับต่างๆ ในบทความนี้ในสถานการณ์จริงค่ะ ซึ่งที่ตลาดสดใกล้บ้าน มีร้านขายขนมไทยโบราณอยู่ร้านหนึ่งค่ะ เป็นคนในชุมชนทำขาย กล่องละ 20 บาทค่ะ สีที่ใช้ก็ผสมจากดอกอัญชันและใบเตย ขนมต้มไม่แตกยุบ ไส้หานพอดีไม่เลี่ยน ซึ่งเป็นเจ้าประจำที่ผู้เขียนซื้อบ่อยๆ ค่ะ ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านต้องการเลือกซื้อขนมไทยโบราณที่ชื่อว่า “ขนมต้ม” อย่าลืมนำแนวทางต่างๆ ตามที่ผู้เขียนได้นำเสนอไว้ไปประยุกต์นะคะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล ขนมหมก เป็นแบบไหน อร่อยไหม ทำจากอะไร 8 วิธีเลือกข้าวเหนียวสังขยา แบบไหนอร่อย สะอาด และน่าซื้อ ข้าวต้มผัด ในภาคอีสาน คืออะไร อร่อยไหม หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !