ช่วงนี้อากาศค่อนข้างจะแปรปวนมีทั้งฝนตกและแดดออก อีกทั้งยังมีเชื้อโรคไวรัสต่าง ๆ ทำให้ร่างกายต้องปรับตัวมากสมควรจึงอยากจะให้ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายกันด้วยนะค่ะ ซึ่งการดูแลสุขภาพร่างกายก็จำเป็นที่จะต้องกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ วันนี้จึงจะมาแบ่งปันสูตรการทำแกงขี้เหล็กบ้าน ๆ ใส่หมูสามชั้น เนื่องจากฝนตกบ่อยทำให้ต้นขี้เหล็กผลิใบเต็มต้นเห็นแล้วก็อดใจไม่ไหวคิดอยากจะกินแกงขึ้นมาทันที เลยไปเก็บมาให้คุณแม่ทำให้กินและสูตรนี้ก็เป็นสูตรดั้งเดิมของคนเมืองเพชรบูรณ์แท้ ๆ ถ้าพร้อมจดสูตรแล้วไปเริ่มกันได้เลย ภาพโดย : ผู้เขียน ก่อนอื่นเราจะนำก้านใบขี้เหล็กมาเด็ดเอาเฉพาะส่วนยอด คือนับจากยอดลงใบได้ 6 - 7 ใบเตรียมไว้ แนะนำให้ใช้เยอะ ๆ เพราะเวลานำมาต้มแล้วมันจะหดตัวลงเหลือนิดเดียว เมื่อเด็ดใบขี้เหล็กเสร็จแล้ว "ก็เอาใบขี้เหล็กใส่หม้อเติมน้ำให้พอท่วมแล้วตั้งไฟปานกลางต้มจนใบขี้เหล็กเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองเข้มจากนั้นก็ยกลงเทน้ำทิ้ง" ภาพโดย : ผู้เขียน เราจะทำขั้นตอนนี้ 4 - 5 ครั้ง จากนั้นก็เทใส่ตะแกรงคั้นน้ำออกจากใบขี้เหล็กให้หมดแล้วพักไว้ สาเหตุที่ต้องต้มใบขี้เหล็กแล้วเทน้ำออกหลายครั้งเพราะใบขี้เหล็กมีรสชาติ การต้มแล้วเปลี่ยนน้ำหลาย ๆ จะช่วยให้ลดความขมได้ ต่อไปก็ไปเตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ กันเลยค่ะภาพโดย : ผู้เขียน วัตถุดิบมีดังนี้ 1. ใบขี้เหล็กที่ต้มแล้ว (400 กรัม) 2. หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก (300 กรัม) 3. น้ำใบย่านาง (600 กรัม) 4. กะทิ (250 มิลลิลิตร) 5. ข่าอ่อน (6 - 7 แว่น) 6. พริกแกงเผ็ด (2 ช้อนโต๊ะ) 7. น้ำปลาร้า (4 ช้อนโต๊ะ) 8. กะปิ (1/2 ช้อนโต๊ะ) 9. เกลือ (1 ช้อนชา) 10. ใบมะกรูด (2 - 3 ใบ) 11. ใบชะอม (10 - 15 ยอด) ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็นำหมูสามชั้นไปทอดให้เหลืองกรอบพักไว้ จากนั้นเริ่มทำแกงขี้เหล็กได้เลย ขั้นตอนนี้เราจะนำกะทิทั้งหมดใส่หม้อตั้งไฟปานกลางตามด้วยเกลือจากนั้นก็เคี่ยวให้กะทิเดือด จากนั้นใส่พริกแกงเผ็ดและกะปิแล้วคนให้เข้ากันภาพโดย : ผู้เขียน แล้วใส่หมูสามชั้นที่ทอดไว้ลงไป พอเริ่มเดือดก็ฉีกใบมะกรูดและข่าอ่อนใส่ลงไปภาพโดย : ผู้เขียน แล้วจากนั้นก็ใส่น้ำใบย่านางปิดฝาหม้อรอให้เดือดอีกครั้งสังเกตว่าจากน้ำกะทิสีขาวพอเติมน้ำใบย่านางลงไปแล้วน้ำแกงจะกลายเป็นสีเขียวนวล ๆ ภาพโดย : ผู้เขียน พอน้ำแกงเริ่มเดือดก็ใส่ใบขี้เหล็กต้มลงไปแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าปิดฝาอีกครั้ง พอแกงเดือดก็ใส่ชะอมที่เด็ดไว้ปิดไฟยกลง พร้อมใส่ชามเตรียมเสิร์ฟแล้วจ้า ภาพโดย : ผู้เขียน แกงขี้เหล็กส่งกลิ่นหอมเย้ายวนมากเลย น่ากินไหมคะ แนะนำให้กินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ จะอร่อยมาก รสชาติของแกงขี้เหล็กชามนี้จะกลมกล่อมมาก มีความมันจากกะทิและได้ความหอมจากใบมะกรูดพร้อมด้วยกลิ่นพิเศษจากใบชะอมกินพร้อมกับหมูสามชั้นนุ่ม ๆ ที่ใส่ลงไป ฟินแค่ไหนถามใจเธอดู จริง ๆ แล้วใบขี้เหล็กจะมีกลิ่นฉุน ๆ เฉพาะตัวอยู่แต่เมื่อนำไปต้มเทน้ำทิ้งแล้วกลิ่นก็จะหายไปทำให้กินง่ายไม่มีกลิ่นรบกวน รับรองว่ากินได้อย่างสบายใจ ภาพโดย : ผู้เขียน นอกจากจะอร่อยเกินคำบรรยายแล้ว ใบขี้เหล็กยังสารพัดประโยชน์อีกด้วย ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เช่น สารเบต้าแคโรทีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไทอามิน ไนอะซิน วิตามินซีและมีกากใยสูง ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดต้อกระจก ส่วนสรรพคุณทางยาก็มีอีกเช่นกัน คือ ช่วยขับปัสสาวะ และ แก้ระดูขาว คุณประโยชน์เพียบขนาดนี้ก็อย่าลืมหามาทานกันได้นะค่ะ หรือจะลองทำกินเองที่บ้านก็ได้ใช้วัตถุดิบไม่เยอะแต่อาจจะมีขั้นตอนและใช้เวลาในการทำเยอะ แต่เชื่อว่าถ้าได้ทำกินแล้วจะติดใจจนต้องเพิ่มแกงขี้เหล็กบ้าน ๆ สูตรคนเพชรบูรณ์ชามนี้ไว้เป็น Top lists เมนูสามัญประจำบ้านอย่างแน่นอน!