อยู่ในระหว่างหยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ร้านอาหารต่าง ๆ ปิด เราก็มานั่งดูรูปอาหารต่าง ๆ ที่เคยไป รอเวลาที่ร้านจะกลับมาเปิดอีกครั้งค่ะ สำหรับร้าน Sheddo Sushi Cottage เป็นร้านซูชิระดับพรีเมียมย่านนนทบุรี ตั้งอยู่ที่โครงการ Le Jardin ริมคลองประปา ข้างหมู่บ้านนันทวันค่ะ อ้อ... สำหรับใครที่กลัวว่าอ่านรีวิวนี้แล้วจะอยากทานบ้าง ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะเข้าไปเช็คทาง FB ของท่ี่ร้านแล้วเค้าบอกว่ามีบริการ Delivery ด้วยค่ะ อยากทานอะไร โทรสั่งได้เลย สามารถเช็คช่องทางการติดต่อกับทางร้าน ได้ทาง FB นี้เลยค่ะ https://www.facebook.com/sheddosushi พิกัดของร้าน จาก Google Map ตามนี้เลยนะคะ https://g.page/sheddosushi?share ขอขอบคุณภาพจาก Google Map ด้วยนะคะ ตัวร้านค่ะ เป็นกระท่อมเล็ก ๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้มากมายสมกับ Concept Sushi Cottage มีที่จอดรถอยู่ด้านข้างสำหรับคนที่มาทานที่ร้าน หรือถ้าเป็นกรณีที่สั่งและมารับเอง ก็มีที่จอดรถให้แน่นอนค่ะ หน้าร้านดูน่ารัก มีเมนูเด็ด ๆ แปะไว้ให้ดู เผื่อว่าใครจะคิดไม่ออกว่าอยากจะทานอะไรนะคะ บรรยากาศภายในร้าน ดูโล่งโปร่งดีค่ะ เก้าอี้เป็นแบบเก้าอี้นั่งทั้งหมด ไม่มีเก้าอี้โซฟา ตั้งอยู่ห่างกันพอสมควร เข้ากับหลัก social distance แต่จริง ๆ เราเคยมาก่อนหน้านี้เค้าก็จัดแบบนี้อยู่แล้วค่ะ ถ้าใครต้องการโต๊ะใหญ่ น้องพนักงานจะต่อโต๊ะให้ สำหรับโปรโมชั่นที่เรามาทานวันนี้ เป็นโปร Buffet ที่ทางร้านจัดร่วมกับ Hungry Hub ค่ะ มีหลายราคา เริ่มต้นที่ 990 บาท แต่ที่เราเลือกคือราคาหัวละ 1,890 บาท เนื่องจากคิดว่าน่าจะทานอาหารได้หลากหลายดี อย่างไรก็ตาม จากวิกฤต Covid19 ขณะนี้ทำให้ทุกท่านไม่สามารถไปทานที่ร้านได้แล้ว ทางร้านจึงได้เปลี่ยนเป็นโปร Hungry at home แทน ซึ่งมีราคาเริ่มตั้งแต่ 500 -1,590 บาทนะคะ ใครที่สนใจก็สามารถเช็คแพ็กเกจได้ตามนี้เลย https://bit.ly/2V8CEuL แต่ก่อนที่จะสั่ง ตอนนี้มาดูหน้าตาของอาหารจานต่าง ๆ กันดีกว่า ว่าจะน่ากินขนาดไหนนะคะ ตัวอย่างเล่มเมนูของ Hungry Hub ประมาณนี้ค่ะ มาเริ่มกันที่จานเบา ๆ ก่อนกับยำเนื้อย่างจานนี้ เนื้อสุกแบบกำลังพอดี ๆ ไม่เหนียว หั่นเป็นชิ้นไม่หนาไม่บางเกินไป น้ำยำรสแซ่บถูกปาก คนชอบทานเนื้อไม่ควรพลาดค่ะ ต่อด้วยเบา ๆ อีกสักจาน นั่นคือซัลม่อนแซ่บ ที่จัดมาได้เป็นคำสวยงามมากเลยค่ะ ปลาสดดี น้ำยำแซ่บ ทานกับผักสด ๆ อร่อยมากค่ะ มาต่อที่ของทอดกันบ้าง ด้วยเทมปุระหอยเชลล์ ขนาดครึ่งตัว กรอบอร่อย ชิ้นขนาดพอทานได้ 1 คำสบาย ๆ ค่ะ มาบ้านซูชิ ก็ต้องกินซูชิ แต่มาร้านซูชิพรีเมี่ยมทั้งมี เราจะกินซูชิธรรมดา ๆ ไม่ได้ ! จัดไปกับซูชิเนื้อวากิว เนื้อชิ้นใหญ่ นุ่มกำลังพอดี รสชาติกลมกล่อมมากๆ ค่ะ ต่อกันด้วยซูชิฟัวกราส์ ที่มาแบบชิ้นหนามาก ๆ ชุ่มฉ่ำถึงใจ ใครที่ชอบทานฟัวกราส์ ไม่ควรพลาดค่ะ จานนี้โดยส่วนตัวชอบเป็นพิเศษเลย อร่อยมาก ๆ กับ อุด้งเนื้อวากิวค่ะ เนื้อชิ้นกำลังพอดี นุ่มมาก ๆ น้ำซุปรสกลมกล่อมไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยค่ะ สำหรับชามนี้คือ ข้าวหน้าปลาดิบรวม มีปลาดิบต่าง ๆ ผสมผสานกันมาเกือบทุกชนิด หั่นเต๋าขนาดกำลังพอดี ๆ รสชาติกลมกล่อมเช่นกันค่ะ มาถึงจานไฮไลต์ คือ เสต็กเนื้อวากิวกับผักต่างๆ ค่ะ สามารถเลือกความสุกได้แต่อันนี้ดูเหมือนจะทำมาสุกไปหน่อยสำหรับ medium แต่รสชาติถือว่าโอเคค่ะ เนื้อไม่เหนียว นุ่มกำลังดี ผักต่าง ๆ เหมือนจะผัดมาให้เลย เพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อ ค่อนข้างจะแปลกซักหน่อยสำหรับเสต็ก เพราะส่วนมากร้านอื่น ๆ มักจะมาแบบจานแห้ง ๆ มากกว่า คิดว่าน่าจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ใครที่ไม่ชอบแบบเปียก ๆ แนะนำให้แจ้งทางร้านก่อนนะ แต่เราทานได้ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ มาดูจานเสต็กกันชัด ๆ ค่ะ จานนี่คือมาแบบร้อน ๆ เลยจ้า มาดูที่ทีเด็ดอีกอย่างของทางร้านนอกจากซูชิ นั่นก็คือซาซิมิรวมที่มีให้สั่งหลากหลายรูปแบบมากเลยค่ะ ปลาที่นี่มีให้เลือกหลายชนิด และก็สดมาก ๆ เลยค่ะ ใครชอบปลาอะไรเลือกได้ตามต้องการเลย แปลก ๆ เค้าก็มีนะ แต่เราชอบแบบธรรมดา ๆ มากกว่า 555 ก็จะสั่งมาประมาณนี้ค่ะ มาถึงเครื่องดื่มกันบ้าง นอกจากชาเขียวร้อนเย็นที่ร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปจะมีแล้ว ที่นี่คือมีเมนูน้ำหลากหลายมากเลย แต่เนื่องจากเน้นกินอาหารหลักมากกว่า เลยไม่อยากสั่งมาหลายอย่าง สั่งมาแค่น้ำอัญชัญมะนาวแก้วนี้ ซึ่งนอกจากจะสีสวยแล้วยังอร่อยมากด้วยค่ะ เปรี้ยวหวานกำลังดี กินตอนอากาศร้อน ๆ นี่ชื่นใจมากเลยค่ะ ตบท้ายด้วยของหวานมาตรฐาน อย่างไอศกรีมชาเขียว จริง ๆ คือมีอย่างอื่นให้เลือกอีกเหมือนกัน แต่เนื่องจากอิ่มแล้ว กินไม่ไหว เลยขอผลัดไปโอกาสหน้าแล้วกันนะคะ สุดท้ายนี้อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น คือถ้าใครสนใจ และอยู่ไม่ไกลเกินไป ก็สามารถสนับสนุนสั่งมาทานกันได้เลยนะคะ ช่วงนี้ร้านอาหารต่างๆ คงจะต้องปรับตัวกันอย่างมาก ๆ เลย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตกันไปได้ไว ๆ นะคะ