แม่สายบัวบานแต่ยามเช้า เมื่อถึงบ่ายแม่บัวสายก็หุบหนี เคยชูช่อล้อไสวก็กลายเปลี่ยนผันแปร ไม่แยแสแม้มืดลับไม่กลับมา ถึงเวลาเช้าเจ้าหวนคืน ชื่นตามาบานใจ เมื่อเราได้เห็น หรือนึกถึงบัว มักจะนึกถึงความสวยของสีสันเฉพาะดอกใช่มั้ยคะ นอกจากความสวยงามของดอกบัวแล้ว ส่วนต่าง ๆ ของบัวยังใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งใบ ฝักบัว เม็ดบัว รากบัว และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ไหลบัวหลวง เป็นอีกสิ่งนึง ที่เอามาทำเป็นเมนูอาหารคาวได้อร่อยไม่แพ้อย่างอื่นเลยเชียวค่ะ แกงส้มไหลบัวหลวงเป็นเมนูที่ผู้เขียนชอบมาก ด้วยความที่บ้านของผู้เขียนอยู่ใกล้กับเขตบึงบอระเพ็ดจึงมีห้วยหนองคลองใหญ่เยอะกว่าถิ่นอื่น ความสมบูรณ์ของแหล่งอาหารในลำคลองเหล่านี้ก็จะมีตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นผักหรือปลา เมื่อตอนเด็ก ๆ นะผู้เขียนชอบตามพ่อไปหาปลาด้วย แต่ไม่ได้ไปจับปลากับพ่อนะ ตามไปเล่นน้ำ ก็มันสนุกเนาะมันเป็นธรรมชาติของเด็กกับน้ำเลยแหละ และเด็กบ้านนอกสมัยนั้นลำคลองก็คือสวนน้ำหรือสวนสนุกดี ๆ นี่เอง และที่ชอบที่สุดก็คือในป่าบัวหลวงนี่แหละ ทั้งเก็บดอกบัว เก็บฝักบัวกินเม็ดบัว แล้วก็งมไหลบัวเพื่อนำกลับมาให้แม่ทำกับข้าวให้กิน การไปเล่นน้ำของเด็กสมัยก่อน ก็ไม่ได้เป็นการไร้สาระเสมอไปนะ ธรรมชาติแวดล้อมสอนให้เป็นแบบนั้น มันเป็นวิถีชนบทเนาะ ไหลบัวหลวงที่ได้มาทำได้ทั้งผัด ทั้งแกง ทำส้มตำไหลบัวก็ได้ อร่อยได้หลายอย่างเลย แต่ผู้เขียนชอบแกงส้มไหลบัวหลวง ด้วยรสชาติที่ครบเครื่อง ทั้งเปรี้ยว ทั้งเผ็ด หวานนิด เค็มหน่อย และความกรุบกรอบของไหลบัวมันช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดีทีเดียว เดี๋ยวผู้เขียนจะมาบอกวิธีเลือกไหลบัวหลวงที่จะเอามาทำเป็นอาหารค่ะ ผู้เขียนเป็นผู้ชำนาญในการเลือกไหลบัวหลวงค่ะ เพราะเคยคุ้ยขี้โคลน งมมากับมือนั่นเอง จึงรู้ว่าแบบไหนกินได้แบบไหนกินไม่ได้ วิธีเลือกไหลบัวคือการใช้มือบีบถ้าบีบแล้วมันนิ่มหรือแตกแสดงว่ามันยังอ่อนอยู่และสีก็เป็นสีขาว ไม่เลือกที่เป็นสีน้ำตาลเพราะมันแก่ และเวลาหั่นเป็นท่อนที่จะเอามาแกงผู้เขียนใช้วิธีหักถ้าหักไม่ออกแล้วแสดงว่ามันแก่ เราจะใช้แค่ตรงช่วงที่เราหักได้ แกงส้มไหลบัวหลวงเนี่ยเราจะแกงใส่ปลาสด จะได้ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว เรามาดูกันดีกว่าว่าแกงส้มไหลบัวมีเครื่องปรุงอะไรบ้าง 1. ไหลบัวหลวง 2. เนื้อปลา 3. น้ำมะขามเปียก 4. น้ำปลา 5. น้ำปลาร้า 6. เครื่องแกงส้ม 7. น้ำเปล่า 8. น้ำตาล เครื่องแกงส้ม ต่างกับเครื่องแกงเผ็ด ผู้เขียนจะแนะนำให้ด้วยค่ะ มีตะไคร้ หอมแดง กระชาย พริกแห้ง มาดูวิธีการปรุงกันเลยค่ะ นำเนื้อปลาส่วนหนึ่งไปต้มกับน้ำเปล่าให้สุกเพื่อนำมาโขลกกับเครื่องแกงที่เราตำเตรียมไว้แล้ว น้ำแกงจะได้นัว นำเครื่องแกงผสมกับน้ำตั้งไฟให้เดือดแล้วใส่ไหลบัวลงไปเลยระหว่างนี้เราก็ปรุงรสไปด้วยเลยค่ะ ใส่น้ำมะขาม เติมน้ำปลาร้าเติมน้ำตาลให้ได้รสหวานนิดหน่อยถ้ายังเค็มไม่พอดีให้ใช้น้ำปลาเติมเพราะถ้าใช้น้ำปลาร้าอย่างเดียวจะได้กลิ่นปลาร้ามากเกินไป ใส่เนื้อปลาลงไปเลยชิมรสเนื้อปลาสุกแล้วยกลงได้เลย ง่ายเนาะแกงส้มหม้อนี้ ตักใส่ชามเตรียมสวยร้อน ๆ มาพร้อมลุยได้เลย คุณผู้อ่านคิดว่าราคาแกงส้มไหลบัวหลวงหม้อนี้เท่าไหร่ ผู้เขียนจะคำนวณให้คร่าว ๆ เลยค่ะ ไหลบัว 20 บาท เนื้อปลา 30 บาท พริกแกง 10 บาท มะขามเปียก 10 บาท น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาล รวมแล้วประมาณ 10 บาท รวมราคาหม้อนี้อยู่ที่ 80 บาท แต่ผู้เขียนเองไม่ได้ซื้อเลยสักอย่าง จึงเป็นมื้อที่ถูกมากสำหรับผู้เขียน ถ้าไม่รวมถึงการไปงมไหลบัว แล้วได้แผลขาลายกลับมา แกงส้มไหลบัวหลวง เป็นเมนูง่าย ๆ สไตล์พื้นบ้าน เรียบง่ายตามวิถีไทย เมนูเรียกความทรงจำในวัยเด็กของผู้เขียน และอาจจะเป็นความทรงจำของผู้อ่านอีกหลายท่านก็ได้ เป็นแกงที่มีความแซ่บ ความอร่อยอยู่ในตัวด้วยรสเปรี้ยวของน้ำมะขามเปียกได้ความนัวจากน้ำปลาร้าที่เราคุ้นเคย ถ้าคิดถึงเมนูแบบชนบทก็ต้องลองไปงมไหลบัวหลวงมาแกงเองค่ะ มันจะได้ความรู้สึก slow life จากเมนูนี้เลย หวังว่าผู้อ่านคงชอบบทความที่ผู้เขียนนำเสนอเพราะบางอย่างเราย้อนกลับไปไม่ได้ แต่เราคิดถึงได้ค่ะ _____________________ ภาพทั้งหมดจากผู้เขียนเอง