หัวใจหลักของขนมกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็กนั้น แป้งเหนียวนุ่ม ไส้เยอะ ลื่นลงคอ และเมื่อได้ทานกับชาร้อนๆ มันกลายเป็นส่วนผสมที่ทำให้รู้สึกทานเพลินยิ่งขึ้น ขนมกุยช่าย แป้งขาวๆ นุ่มๆ พร้อมไส้ผัก หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของชาว ตลาดพลู ใจกลางกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าะไปที่ไหนก็จะพบกับร้านขายกุยช่ายอยู่ทุกหนแห่ง มีหลากหลายสูตร แต่จะเหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือรูปแบบการวางขายจะบริการสำหรับลูกค้าซื้อกลับไปกินที่บ้าน หรือซื้อแบบเดินไปกินไป แต่สำหรับร้านกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็ก ได้นำเสนอในรูปแบบร้านอาหารห้องแอร์ที่จำลองบรรยากาศการนั่งทานขนมกุยช่ายและจิบน้ำชา เสมือนซึมซับวัฒนธรรมของคนตลาดพลูในยุคโบราณ พร้อมนำเสนอขนมกุยช่ายต้นตำรับที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีให้ได้ลิ้มลองกัน ร้านกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็ก - กาแฟโบราณย่งฮะฮวด ร้านขนมกุยช่ายที่ได้ยกระดับจากโรงงานผลิตและขายส่งขนมกุยช่ายที่มีอายุเกือบร้อยปี สู่การเปิดเป็นร้านอาหารห้องแอร์เต็มรูปแบบ ภายใต้การบริหารโดยคุณสิริมา (อี๊นา) และทายาทรุ่นที่ 4 คุณธนภรณ์ (อี๊กี) เป็นผู้สืบทอดทำขนมกุยช่ายสูตรโบราณให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน โดยได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชาวจีนที่อาศัยอยู่ในตลาดพลูผ่านของตกแต่งที่ทำจากไม้ บรรยากาศในร้านที่กว้างขวาง จุดแข็งของร้านนี้อยู่ที่ชั้นวางขนมกุยช่ายที่ปิดด้วยกระจก ซึ่งช่วยปกป้องจากฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก และลดการสัมผัสของอากาศป้องกันการระเหยของน้ำกับน้ำมัน คงความชุ่มชื้นได้ดี นอกจากนี้การดีไซน์ชั้นวางที่มีความเก่าแก่ เข้ากับบรรยากาศจำหน่ายขนมกุยช่ายในสมัยอดีต บ่งบอกความเป็นขนมสูตรโบราณที่ผูกพันกับชุมชนได้เป็นอย่างดี ขนมกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็ก จะมีให้เลือกด้วยกัน 5 ไส้ ได้แก่ ผักกุยช่าย, มันแกว, หน่อไม้, เผือก และกะหล่ำปลี ซึ่งไส้กะหล่ำปลีเป็นไส้ใหม่สำหรับตอบโจทย์เทศกาลกินเจแทนผักกุยช่าย แต่เมื่อหมดเทศกาลกิจเจ ก็จะเพิ่มกุ้งแห้งให้มีรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น ถือได้ว่าเป็นไส้ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอในการประยุกต์ไส้ให้เข้ากับเทศกาล และวันอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับไส้ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างไส้กุยช่าย ที่เรียกได้ว่าอัดมาแน่นจุใจ หอมกลิ่นกุยช่าย ยิ่งถ้านำไปทอดด้วยก็จะสัมผัสความกรอบความมันเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ สำหรับไส้เผือกนั้นจะเป็นก้อนเผือกเน้นๆ ไม่มีอะไรผสมเพิ่มเติม เคี้ยวครั้งแรกจะรู้สึกจืด แต่จะไล่ความหวานทั่วปากมากขึ้นเมื่อเคี้ยวนานๆ ไส้มันแกวบด ตัวมันแกวจะออกจืดๆ พร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีกุ้งแห้งเป็นตัวช่วยสร้างรสชาติหอมมัน ผสมกลมกล่อมอย่างกลมกลืน และไส้หน่อไม้ที่จะมาในรูปแบบหน่อไม้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มีรสชาติหน่อไม้ที่เข้มอันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนตัวแป้งในทุกๆ ไส้นั้นเรียกได้ว่าไม่หนา ไม่บาง ทานเพลินๆ หนึบกำลังดี ทานคู่กับซีอิ๊วหวาน ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งสูตรเผ็ดและไม่เผ็ด หวานมันกลมกล่อมยิ่งขึ้น ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งแบบนึ่ง (ลูกละ 10 บาท) และแบบทอด (ลูกละ 12 บาท) รับประกันความสดใหม่แบบวันต่อวัน ผลิตไม่เกินวันละ 500 ลูก ในร้านยังมีเมนูอื่นให้ทานกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โซยจี่ก้วย (กุยช่ายทอด) ขนมขนมจีบหมู สนนชุดละ 30 บาท หมี่กะทิ จานละ 40 บาท เป็นต้น มาทานขนมกุยช่ายทั้งที ต้องสัมผัสบรรยากาศการรับประทานในสไตล์คนจีน หรือคนไทยเชื้อสายจีนในสมัยโบราณ ด้วยการทานกับชุดชาร้อน เสริ์ฟพร้อมกับชุดกาน้ำชาจีน มีให้เลือกทั้งชาอู่หลง, ซาชีลอน, ชาจัสมิน, ชาเขียว และชาหญ้าหวาน ซึ่งหัวใจหลักของขนมกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็กนั้น แป้งเหนียวนุ่ม ไส้เยอะ ลื่นลงคอ และเมื่อได้ทานกับชาร้อนๆ มันกลายเป็นส่วนผสมที่ทำให้รู้สึกทานเพลินยิ่งขึ้น และให้คุณได้รำลึกบรรยากาศสมัยอดีตที่ชวนเพื่อนๆ ร่วมวงน้ำชาด้วยกัน และที่สำคัญ ชาร้อนช่วยชะล้างความมัน ทำให้ไม่รู้สึกว่าเลี่ยนอีกด้วย ซึ่งบางท่านที่เคยทานขนมกุยช่ายแล้วรู้สึกเลี่ยน อาจจะพลาดตรงที่ไม่ได้ดื่มน้ำชาร่วมก็เป็นได้ อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของร้านภูมิใจนำเสนอ ก็คือ กาแฟโบราณย่งฮะฮวด (ตราช้าง) กาแฟโบราณที่อยู่คู่กับสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ โดยนายเซงกี แซ่ลิ้ม (อากง) ได้ประกอบธุรกิจคั่วกาแฟโบราณ เปิดร้านครั้งแรกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วย้ายมาตั้งร้านที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่จนมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เคล็ดลับของกาแฟคั่วสดเจ้านี้ คือการคั่วกาแฟสดแล้วคลุกและเคี่ยวด้วยน้ำตาล เวลานำไปชงจะมีสีสวย รสชาติอร่อย กลิ่นหอมธรรมชาติ โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อกาแฟโบราณทานคู่กับขนมกุยช่ายได้ในราคา 20 บาท/แก้ว รวมไปถึงได้พบกับแก้วกาแฟโบราณย่งฮะฮวด (ตราช้าง) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี ในสภาพที่สวยงามสมบูรณ์ หาชมได้ยากยิ่ง ร้านกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็ก พร้อมให้ลูกค้าได้ลิ้มรสชาติและเสพบรรยากาศวันเก่าๆ และวิถีชีวิตของชาวตลาดพลูด้วยขนมกุยช่าย กับกาแฟคั่วโบราณ ในบรรยากาศห้องแอร์เย็นสบายทุกฤดู โดยร้านจะอยู่ที่ซอยเลียบทางรถไฟตลาดพลู (หน้าปากซอยด์เทอดไท 18) เปิดบริการทุกวัน (หยุดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 21.30 น.