9 ทริคทำอาหารขายจากที่บ้าน ต้องมีอะไรบ้าง ถึงถูกสุขลักษณะ มารู้กัน! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล การทำอาหารขายจากที่บ้านกำลังเป็นทางเลือกยอดนิยมของหลายคนในยุคปัจจุบัน เพราะสามารถใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดรายได้ และไม่ต้องลงทุนสูงเหมือนการเปิดร้านอาหารเต็มรูปแบบ แต่สิ่งที่หลายคนมักมองข้ามก็คือ เรื่องสุขลักษณะในการทำอาหารค่ะ เพราะแม้รสชาติจะอร่อยและราคาย่อมเยาเพียงใด หากอาหารไม่สะอาดหรือมีการปนเปื้อนเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้ลูกค้าเจ็บป่วยและเสียความเชื่อมั่นได้ในทันที ดังนั้นการเรียนรู้วิธีทำอาหารขายที่ถูกสุขลักษณะ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันปัญหาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานความปลอดภัย และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับคนทำอาหารเองด้วย ซึ่ง 9 ทริคที่ผู้เขียนจะนำมาแบ่งปันในบทความนี้ จะเป็นเสมือนแนวทางปฏิบัติที่สามารถเริ่มทำได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ ลองนึกภาพตามค่ะว่า หากเราตั้งใจทำอาหารขายจากที่บ้าน แต่ละวันต้องเจอลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งคนในชุมชน เพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งการสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ หากอาหารที่ส่งไปสะอาด ถูกสุขลักษณะ ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจและบอกต่อจนเกิดการซื้อซ้ำ แต่ในทางกลับกันหากมีเพียงครั้งเดียวที่ลูกค้าได้รับอาหารที่มีกลิ่นผิดปกติ หรือพบเศษสิ่งแปลกปลอมในบรรจุภัณฑ์ ความน่าเชื่อถืออาจพังลงในทันที และส่งผลเสียต่อทั้งรายได้และชื่อเสียง และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราควรเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องสุขาภิบาลอาหาร ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. จัดพื้นที่ครัวให้สะอาดและเป็นระเบียบ หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า พื้นที่ครัวคือหัวใจสำคัญของการทำอาหารขายค่ะ เพราะเป็นจุดที่ทุกวัตถุดิบและขั้นตอนการปรุงอาหารเกิดขึ้น หากพื้นที่ครัวไม่สะอาด จะกลายเป็นแหล่งสะสมจุลินทรีย์ได้ง่าย ซึ่งเราควรแยกพื้นที่ปรุงอาหารดิบและอาหารสุกออกจากกันนะคะ เช่น การหั่นเนื้อสดกับการหั่นผักต้องใช้เขียงและมีดคนละชุด พื้นโต๊ะต้องเช็ดทำความสะอาดสม่ำเสมอ และไม่ควรมีสิ่งของที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารมากีดขวาง โดยการจัดระเบียบครัวให้ง่ายต่อการหยิบใช้งาน จะช่วยให้การทำงานรวดเร็ว ปลอดภัย และถูกสุขลักษณะมากขึ้นได้ค่ะ 2. ล้างมือให้ถูกวิธีก่อนและหลังทำอาหาร รู้ไหมคะว่า มือของผู้ปรุงเป็นตัวกลางที่สัมผัสอาหารมากที่สุด หากไม่ล้างมือให้สะอาดก็สามารถนำสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่อาหารได้ ซึ่งเราควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดนานอย่างน้อย 20 วินาที โดยล้างให้ทั่วทั้งฝ่ามือ หลังมือ ซอกนิ้ว และเล็บ หากมีการสวมถุงมือพลาสติกควรเปลี่ยนทุกครั้งหลังหยิบอาหารดิบ หรือตอนเปลี่ยนไปหยิบอาหารสุก การใส่ใจเรื่องการล้างมือจะช่วยลดการปนเปื้อนข้ามระหว่างวัตถุดิบต่าง ๆ และทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าอาหารที่ได้รับปลอดภัยนะคะ 3. ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพ จากที่เราก็รู้กันมาแล้วว่า คุณภาพของอาหารเริ่มต้นที่วัตถุดิบ ดังนั้นการเลือกซื้อผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงต้องตรวจสอบวันผลิต วันหมดอายุ และสภาพของบรรจุภัณฑ์ ควรซื้อจากร้านหรือแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดสดที่มีการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ควบคุมคุณภาพ หากพบวัตถุดิบมีสี กลิ่น หรือรูปร่างผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงทันทีค่ะ เพราะจะทำให้รสชาติอาหารเสีย และเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยจากที่มีอาหารเป็นสื่อ 4. เก็บรักษาวัตถุดิบในอุณหภูมิที่เหมาะสม คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การเก็บรักษาเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องระวัง โดยวัตถุดิบบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์สด เราต้องแช่ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0–4 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ส่วนอาหารแช่แข็งควรอยู่ที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียสขึ้นไป ผักและผลไม้ควรใส่กล่องหรือถุงพลาสติก ที่มีการเจาะรูเพื่อให้ระบายอากาศได้ ซึ่งการเก็บผิดวิธีมีส่วนทำให้วัตถุดิบเน่าเสียเร็ว และเมื่อปรุงอาหารออกมาจะมีกลิ่นหรือรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ค่ะ 5. ปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง การทำอาหารขายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเสมอค่ะ โดยเฉพาะอาหารที่มีเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู หรือปลา เราควรปรุงจนสุกทั่วถึง เนื้อไม่ดิบตรงกลาง เพราะอาจได้รับผลกระทบจากจุลินทรีย์ที่ยังคงมีอยู่ในอาหาร อาหารประเภทน้ำแกงหรือซุป ควรต้มเดือดสักพัก ส่วนอาหารผัดหรือทอดต้องใช้ความร้อนให้เพียงพอ ไม่ควรเร่งไฟแรงเกินไปจนผิวไหม้แต่ข้างในยังดิบนะคะ 6. ใช้ภาชนะและอุปกรณ์ที่สะอาด เวลาทำอาหารขายจากที่บ้าน ภาชนะที่ใช้ปรุงหรือใส่อาหาร เช่น หม้อ กระทะ จาน ชาม และช้อน ต้องล้างด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำสะอาดทุกครั้งหลังใช้งานค่ะ และควรล้างซ้ำหากไม่ได้ใช้นาน อุปกรณ์ที่เป็นไม้ เช่น เขียง ต้องหมั่นตากแดดหรือลวกน้ำร้อน เพื่อลดการสะสมของจุลินทรีย์ หากมีรอยแตกหรือเป็นร่องลึก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกค้างนะคะ 7. บรรจุอาหารอย่างมิดชิดและถูกสุขลักษณะ หากต้องการขายอาหารจากที่บ้าน เราต้องคิดเรื่องภาชนะที่จะนำมาบรรจุอาหารให้ลุกค่าค่ะ ซึ่งควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (Food grade) เท่านั้น เช่น กล่องพลาสติกที่ทนร้อน มีฝาปิดสนิท หรือถุงที่สะอาดและจะต้องไม่มีกลิ่นพลาสติก หากเป็นอาหารร้อน ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถทนความร้อนได้ โดยไม่ละลายหรือปล่อยสารปนเปื้อนออกมา เมื่อบรรจุเสร็จแล้วควรปิดฝาทันทีเพื่อป้องกันฝุ่น แมลงวัน หรือการปนเปื้อนอื่นๆ จากสิ่งแวดล้อมนะคะ 8. จัดการขยะและเศษอาหารอย่างถูกวิธี ปกติการทำอาหารขายมักมีเศษผัก เศษเนื้อ และขยะจำนวนมากอยู่แล้วนะคะ หากไม่กำจัดอย่างถูกวิธีจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น และดึงดูดแมลงวันหรือสัตว์พาหะ เช่น หนูและแมลงสาบมาได้ ดังนั้นควรมีถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด แยกขยะเปียกและขยะแห้งออกจากกัน และนำไปทิ้งทุกวัน ที่ไม่ควรปล่อยค้างคืน นอกจากนี้ควรล้างถังขยะเป็นประจำ เพื่อป้องกันคราบสกปรกและมีจุลินทรีย์สะสม 9. ใส่ใจสุขอนามัยของผู้ปรุงอาหาร ไม่เพียงแต่อาหารต้องสะอาดเท่านั้นค่ะ แต่ผู้ปรุงเองก็ต้องรักษาสุขอนามัยด้วย ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด ต้องสวมเสื้อที่มีแขน จะแขนสั้นหรือแขนยาวก็ได้ค่ะ เพราะจะช่วยปิดบังผิวหนัง และลดโอกาสการปนเปื้อนได้ ต้องสวมผ้ากันเปื้อน และใช้หมวกคลุมผมหรือเน็ตคลุมผม เพื่อป้องกันเส้นผมหล่นลงไปในอาหาร หากมีอาการป่วย เช่น ไข้ ไอ หรือท้องเสีย ควรหลีกเลี่ยงการทำอาหารขายในช่วงนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังลูกค้านะคะ เมื่อมาถึงการลงมือทำอาหารขายจากที่บ้านจริง ๆ สิ่งที่ควรเริ่มต้นอย่างง่ายและต่อเนื่องคือการจัดพื้นที่ครัวให้สะอาดและเป็นระเบียบก่อนเสมอ เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้ทุกขั้นตอนต่อมาดูราบรื่นขึ้น เมื่อครัวพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการล้างมือให้ถูกวิธี และรักษาสุขลักษณะส่วนบุคคล เช่น การแต่งกายที่เหมาะสม ใส่ผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม และหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อแขนกุดที่อาจทำให้ปนเปื้อนง่าย จากนั้นจึงค่อยเข้าสู่การเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ ปลอดภัย และเก็บรักษาให้ถูกอุณหภูมิ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรือของแห้ง การจัดการตั้งแต่ต้นทางนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องอาหารเสียหรือเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยของลูกค้าได้มาก หลังจากมีวัตถุดิบที่พร้อมและสะอาดแล้ว ขั้นตอนถัดมาที่ต้องทำให้ต่อเนื่องคือการปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง และใช้ภาชนะที่ล้างสะอาดทุกครั้ง การบรรจุอาหารต้องเลือกวัสดุที่ปลอดภัยและปิดสนิท เพื่อป้องกันฝุ่น แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่อาหาร ในขณะเดียวกัน ผู้ทำอาหารควรจัดการขยะและเศษอาหารทุกวัน เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อและสร้างกลิ่นรบกวน สิ่งเหล่านี้จะสมบูรณ์ได้เมื่อผู้ปรุงใส่ใจสุขอนามัยของตัวเอง เช่น ไม่ทำอาหารเวลาป่วย และรักษาความสะอาดเสื้อผ้าอย่างสม่ำเสมอ เมื่อทุกทริคทำควบคู่กันไปอย่างง่ายและต่อเนื่อง จะทำให้อาหารที่ขายจากที่บ้านทั้งปลอดภัย มีคุณภาพ และสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าได้ในระยะยาว ที่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ทำอาหารขายจากที่บ้านเหมือนกันค่ะ โดยในตอนนั้นทำเบเกอรีขาย ซึ่งแนวทางต่างๆ ข้างต้นช่วยได้มาก ทำให้ทำงานง่ายขึ้น ได้อาหารที่ถูกใจลูกค้า และมีการบอกต่อและซื้อซ้ำค่ะ ที่ต้องบอกว่าทุกข้อผู้เขียนได้นำมาปรับใช้หมด ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้เลยค่ะ ล้างมือก็ต้องทำตลอด การรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ทำขนมก็ทำตลอด พายพาสติกสภาพไม่ดีก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ถ้วยจีบกระดาษก็ต้องเลือกที่มีคุณภาพ และอื่นๆ ปลีกย่อยอีกหลายอย่างเลยค่ะ โดยผู้เขียนใช้แนวทางด้านสุขาภิบาลอาหารมาเป็นหลักยึดตลอด ในช่วงที่ทำขนมอบขายนะคะ ยังไงนั้นหากตอนนี้คุณผู้อ่านติดเรื่องสุขาภิบาลอาหารจากที่ทำอาหารขายจากที่บ้าน ลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ อีกสักรอบก่อนค่ะ จากนั้นให้นำไปลงมือทำจริง เพราะเราจะมองเห็นภาพใหญ่มากขึ้น ซึ่งต่อจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรยากจนเกินไปที่เราจะนำมาทำอย่างต่อเนื่องค่ะ เพราะผู้เขียนได้ผ่านมาแล้วเลยกล้าพูดแบบนี้นะคะ ก็อย่าลืมนำแนวทางต่างๆ ไปเป็นแนวทางในสถานการณ์จริงค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป ถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #ทำอาหารขายที่บ้าน #สุขาภิบาลอาหาร #ความปลอดภัยในอาหาร #FoodSanitation เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Yuya Yoshioka จาก Unsplash และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 โดย Defrino Maasy จาก Unsplash และภาพที่ 4 โดย Louis Hansel จาก Unsplash เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 เทคนิคจัดเก็บอาหารที่เหลือ ในตู้เย็น แบบไหนถูกสุขลักษณะ 10 ทริคเลือกอาหารแช่แข็ง แบบไหนดี มีความเหมาะสม ถูกสุขลักษณะ 10 เช็กลิสต์ก่อนซื้อวัตถุดิบสด มาทำอาหารที่บ้าน เลือกยังไงดี หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !