สวัสดีค่ะ  คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน  วันนี้  ฟู่ฟู่  ขอแนะนำเมนูอาหารไทย  ๆ น้ำพริกกะปิธรรมดา ๆ แต่ไม่ธรรมดา อร่อยเข้มข้นมาก  ๆ เพราะว่าน้ำพริกกะปิสูตรนี้  ใส่พริกจินดาสดมากถึง 99 เม็ด ใช่แล้วค่ะอ่านไม่ผิดหรอก 99 เม็ดจริง ๆ ค่ะ และยังมีส่วนผสมของกระเทียมกลีบเล็กอีก 65 กลีบ เห็นไหมค่ะว่าน้ำพริกกะปิของเราไม่ธรรมดาจริงๆ  แต่ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของความ  เผ็ด!  ไม่เผ็ดค่ะ เพราะพริกที่เลือกมาตำน้ำพริกเป็นพริกจินดาความเผ็ดจึงมีไม่มากเท่ากับพริกขี้หนูสวน  เมนูนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารไทย  ๆ รสเข้มข้น ประโยชน์ของการรับประทานอาหารรสเผ็ด ช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหารยิ่งขึ้น และที่สำคัญ พริกมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย และทำให้อารมณ์ดี  เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น สารแคปไซซิน “capsaicin” ช่วยให้เกิดอาการตื่นตัวของร่างกาย  และยังมีส่วนผสมของ กระเทียมที่มีประโยชน์ไม่แพ้กันกระเทียมช่วยในเรื่องของการปรับความดันโลหิตสูงให้อยู่ระดับปกติ  ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด   ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด  บำรุงเลือด ป้องกันอาการโลหิตจาง เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยขับลมแก้อาการจุดเสียดแน่นท้อง นี่คือผลพลอยได้จากเมนูน้ำพริกกะปิ   เรามาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง ทำอย่างไรถึงจะให้อร่อย ส่วนผสมหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปค่ะ น้ำพริกกะปิส่วนมากก็จะรับประทานกับปลาทูทอด วันนี้ ฟู่ฟู่ ขอเปลี่ยนจากปลาทูทอดมาเป็น "ไข่ทอดผักชะอม" จะได้นำมารับประทานคู่ กับน้ำพริกกะปิ คู่กัน คู่กัน กินกับแตงกวาอ่อนและข้าวร้อน  ๆ  ใครได้กินก็ต้องติดใจ  น้ำพริกกะปิสูตรเข้มข้นของเรานี้จะไม่ใส่น้ำนะคะ  สูตรนี้ คือ สูตรเข้มข้น อร่อยมาก ๆ เราไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ   วิธีทำน้ำพริกกะปิ พริก 99 เม็ด กระเทียม 65 กลีบ 1.  ใส่กระเทียมลงไปในครกตำหยาบ ๆ นิดหนึ่งไม่ต้องให้ละเอียดมากเกินไป 2.  ใส่พริกลงไปในครก ตำ ๆ รวมกับกระเทียม  ตำให้ละเอียดนิดหน่อย  ไม่ต้องให้ละเอียดมากเกินไป 3.  ใส่กะปิลงไป 1 ช้อนโต๊ะพูน ตำรวมกันกับพริก คลุกเคล้าให้เข้ากัน      "ก่อนจะนำกะปิมาใส่ในน้ำพริกให้นำกะปิไปเผาหรือย่างไฟให้มีกลิ่นหอม ๆ ก่อนค่อยนำมาตำรวมกับน้ำพริก" 4.  ใส่น้ำตาลทรายลงไป   2 ช้อนโต๊ะพูน ๆ   "จะใช้น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปิ๊บก็ได้แล้วแต่สะดวกค่ะ"  5.  ใส่น้ำมะนาวลงไป   2 ช้อนโต๊ะ  แล้วคนเบา ๆ เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน "ถ้าชอบรสเปรี้ยวก็เพิ่มมะนาวลงไปได้ตามใจชอบ"   6.  ใส่น้ำปลาแท้ ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ  แค่ 1  ช้อนก็เพียงพอแล้วเพราะว่ากะปิก็จะมีรสเค็มนิด ๆ อยู่แล้วค่ะ 7. เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ตักน้ำพริกใส่ถ้วยแล้วแต่งหน้าด้วยหอมแดงซอย นิดหน่อยเพื่อความสวยงาม และเพิ่มความอร่อยเข้มข้น เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณผู้อ่านสามารถปรุงรสได้ตามใจชอบค่ะ น่ารับประทานมาก ๆ แต่เราต้องหาอะไรมาทานคู่กันกับน้ำพริกอีกสักอย่างค่ะ เราไปทำไข่ทอดผักชะอม  มาทานคู่กับน้ำพริกกะปิละกันค่ะ วิธีทำไข่ทอดผักชะอม   1.  ล้างผักชะอมให้สะอาด แล้วนำมาเด็ดเอาแต่ยอดอ่อน ๆ  เตรียมใส่ถ้วยไว้ค่ะ  2.  ตอกไข่ใส่ในถ้วยผักชะอมเรียบร้อยแล้ว  ให้คน ๆ เพื่อให้ไข่และผักชะอมเข้ากันได้ดี    3.  ตั้งกะทะใส่น้ำมัน  รอให้น้ำมันร้อนค่อยใส่ผักชะอมและไข่ลงไปทอด 4.  รอให้ไข่สุกแล้วกลับด้าน  อีกด้านเพื่อให้ผักและไข่สุกทั้งสองด้าน สุกแล้วตักใส่ตะแกงให้สะเด็ดน้ำมัน   5.  นำไข่ทอดผักชะอมมาตัดเป็นชิ้น ๆ แล้วใส่จาน  เพื่อรับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ 6. แตงกวาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมีไว้กินกับน้ำพริกกะปิ นำแตงกวามาล้างแล้วปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นพอคำ     7. เสร็จเรียบร้อย พร้อมรับประทานได้แล้วค่ะ แถมข้าวร้อนๆ ให้อีกหนึ่งจานค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ รับรองถูกปาก ถูกใจแน่นอนค่ะ สำหรับวันนี้ ฟู่ฟู่ ขอฝากบทความนี้ไว้ให้กับคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านได้อ่าน  และลองนำสูตรน้ำพริกกะปิพริก 99 เม็ดนี้ไปทำกินดูนะคะ  *ภาพประกอบทั้งหมด  จัดทำโดย: ฟู่ฟู่    ขอขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน จากใจ ฟู่ฟู่!