แจ่วปลาร้าบองสูตรเด็ด กินแล้วต้องร้องขออีกคำ ผู้เขียนเป็นชาวไทใหญ่แท้ แต่ก็ยังมีความชื่นชอบในรสชาติจัดจ้านของอาหารอีสาน โดยเฉพาะ “แจ่วปลาร้าบอง” วันนี้ผู้เขียนเลยนำเมนูแจ่วปลาร้าบองมาฝาก วิธีทำเป็นสูตรอีสานแท้ ๆ หากใครได้ลิ้มลองแล้วจะติดอกติดใจ จะทานแบบดิบหรือนึ่ง ก็มีความแซ่บนัวไม่ต่างกันค่ะ และยังสามารถนำเก็บไว้รับประทานได้หลายวัน ก่อนอื่นต้องเตรียมส่วนผสมกันก่อนค่ะ ส่วนผสม ปลาร้าสับครึ่งกิโลกรัม พริกแห้งป่น (ถ้าเป็นพริกคั่วจะทำให้สีสวยและหอมยิ่งขึ้น) 50 เม็ด หรือตามความเผ็ดความชอบของแต่ละคน หอมแดงซอยหยาบ (หากซอยละเอียดจะทำให้ปลาร้ามีน้ำและแฉะดูไม่น่ารับประทาน) 15 หัว ข่าสับละเอียดปริมาณครึ่งหนึ่งของหอมแดง ตะไคร้ซอยละเอียด 8 ต้น ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 กำมือ วิธีทำ แช่มะขามเปียกทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที นำปลาร้าเทใส่ภาชนะและสังเกตถ้าหากมีก้างก็เขี่ยก้างทิ้ง โขลกหอมแดง ตะไคร้ ข่า กระเทียม โขลกส่วนผสมทั้งหมดไม่ต้องละเอียดมากนัก (โขลกแยกนะคะ) นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วก็นวดด้วยมือ (เคล็ดลับยิ่งนวดนาน ปลาร้ากับส่วนผสมยิ่งเข้ากันยิ่งนัว) เพิ่มรสชาติตามต้องการหากขาดเปรี้ยวให้ใส่มะขามเปียกเพิ่ม หรือเพิ่มพริกตามต้องการได้ค่ะ สูตรนี้ไม่ใส่ผงชูรสนะคะหรือจะใส่เพิ่มความนัวก็แล้วแต่ความชอบ เสิร์ฟพร้อมคู่กับผักสดเช่น ผักชีลาว แตงกวา มะเขือเปราะ หรือ หน่อไม้ต้มสุก ก็เข้ากันค่ะ รสชาติจะได้ความเค็มจากปลาร้า ความหวานธรรมชาติจากหอมแดง รสเผ็ดร้อนจากพริกและข่า และความเปรี้ยวอ่อน ๆ ของมะขามเปียก ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ แซบนัวเลยทีเดียวค่ะ เคล็ดลับที่ทำให้ปลาร้าบองอร่อยเด็ด อยู่ที่การเลือกปลาร้าสับที่ไม่มีก้างและสีไม่ดำจนเกินไปเพียงเท่านี้ก็ได้ปลาร้าสูตรเด็ดไว้ทานแล้วค่ะ เก็บรักษาเก็บแบบใส่ภาชนะมิดชิด จะกินค่อยตักออกมาเพื่อป้องกันปลาร้าบูดค่ะแต่ถ้าอยากกินนาน ๆ สามารถนำไปนึ่งเพื่อให้ผักที่อยู่ในปลาร้าสุกหรือถ้าชอบแบบหอม ๆ ก็ผัดได้ค่ะ ไม่ขอแนะนำให้เก็บในตู้เย็นนะคะ เพราะเดี๋ยวสีจะซีดเสียก่อน ครั้งหน้าผู้เขียนจะมารีวิว รสชาติ ปลาร้าบอง 3 สหาย (ดิบ นึ่ง ปิ้ง) แบบไหนอร่อยกว่ากัน ต้องติดตามค่ะ ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน