สวัสดีครับพลเมืองไทยที่รักทุกท่าน ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 29 เอ้ย!! 19 เอ้ย!! ถูกแล้ว รอบที่ 3 ของประเทศไทยที่กำลังสร้างความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาหลับ ของทุก ๆ ท่านอยู่ในขณะนี้ สถานการณ์ความรุนแรงของโรคในทุก ๆ จังหวัดของประเทศไทย บางพื้นที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม บางพื้นที่เป็นพื้นที่สีแดง บางพื้นที่เป็นพื้นที่สีส้ม แตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ติดเชื้อ ซึ่งก็ได้สร้างความเครียดให้กับพลเมืองไทยของเราได้ไม่น้อยก็มาก เพราะผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 ในครั้งนี้ ได้สร้างความบอบช้ำทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และความย่ำแย่ทางสภาพจิตใจ ให้กับพลเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง แต่จากที่ผมสังเกตเห็นตามหน้าสื่อโซเชียลมีเดียทั่ว ๆ ไป ผมกลับพบว่า สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเยียวยาสภาพจิตใจที่บอบช้ำ ของพลเมืองไทยส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดีในห้วงเวลานี้ ก็เห็นจะมีแต่หน้าท่านนายกรัฐมนตรี หรือลุง อันเป็นที่รักของพลเมืองไทยของเรานี่แหล่ะ( แฮร่ ๆ) พูดเล่น ก็เห็นจะเป็น "ราชาแห่งผลไม้" หรือ “ทุเรียน” ของเรานี่เอง ที่โดดเด่นจนสามารถแย่งพื้นที่สื่อของโควิด 19 ได้ จนมีบางท่านสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า “ทุเรียนสามารถเยียวยาได้ทุกอย่าง” ทุเรียนที่กำลังเริ่มมีผลผลิตออกสู่ตลาด ให้พี่น้องได้ลิ้มชิมรส ซึ่งมีทั้งราคาหลักร้อย หลักพัน หรือหนัก ๆ ก็ราคาหลักแสนต่อลูกกันเลยทีเดียว ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และความอร่อยของทุเรียนเอง สำหรับราคาหลักแสนนี้ก็น่าจะเป็นสายพันธุ์กบชายน้ำ ซึ่งในชีวิตนี้ตัวกระผมเองก็คงไม่มีโอกาสได้ลิ้มชิมรส แต่เมื่อเราพูดถึงทุเรียนที่เป็นสายพันธุ์ยอดนิยมของคนพลเมืองไทยเรา หรือพลเมืองโลกนิยมรับประทานกัน ก็เห็นแล้วว่าน่าจะเป็นทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง นี่แหล่ะ ที่มีรสชาติ หวาน มัน เนื้อเยอะ (ประเด็นนี้ผู้เขียนเห็นด้วย) เป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลาย ๆ คนยิ่งนัก ซึ่งส่วนมากแล้วราคาก็จะตกอยู่ที่ กิโลละ 160 - 200 บาท ราคาต่อลูกก็จะอยู่ที่ประมาณ 200 - 600 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของลูกทุเรียน ซึ่งคนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ และเป็นราคาตามท้องตลาดทั่วไป เป็นราคาที่ถือว่าคุ้มค่าของคนรักทุเรียน แต่ใครจะเชื่อ ณ พื้นที่เทศบาลตำบลปริก มีร้านขายผลไม้ประจำฤดูกาลอยู่ร้านหนึ่ง ร้านนี้จะตั้งอยู่ริมถนนสายหลัก หาดใหญ่ - ด่านนอก ร้านจะอยู่เลยไฟแดงปริกไปนิดหน่อย เมื่อใดที่ร้านนี้เริ่มนำทุเรียนวางขาย มหกรรมแห่งการจอดรถข้างถนนก็จะเริ่มขึ้น พลเมืองคนสงขลาก็มามุงอยู่ที่ร้านราวกับมีร้านอยู่หลาย ๆ ร้าน เหมือนกับร้านในตลาดนัด แต่ที่ไหนได้กลับเป็นแค่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง 2 คัน เท่านั้น ใครที่ผ่านไปผ่านมาเห็นตอนแรกก็ตกใจ ว่าอ้าวเทศบาลสั่งปิดตลาดนัดไปแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 แต่ทำไมยังมีพ่อค้าแม่ค้ามารวมตัวกันเปิดขายของอยู่อีก พอมองไปมองมา อ้าวไม่ใช่ตลาดนัดซะแล้ว นี่คนมารอซื้อทุเรียนกันนี่ครับพี่น้อง ถามไปถามมาทำไมมีคนมาซื้อมากขนาดนี้ บ้างเดินทางมาจากหาดใหญ่ จากบ้านพรุ จากนาทวี จากด่านนอก จากปาดัง จากคลองหอยโข่ง จากควนลัง เพื่อมาซื้อทุเรียนหมอนทองลูกใหญ่ ๆ ราคากิโลกรัมละ 100 บาท แฮ่ ๆ ๆ ๆ อ่านไม่ผิดจริง ๆ ครับ หมอนทอง กิโลกรัมละ 100 บาทจริง ๆ เอาเป็นว่าแม่ค้ามาวางขายไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็หมด จากคำบอกเล่า และเคยแอบไปเป็นลูกค้ามา 2 - 3 ครั้งอยู่ ก็ขอบอกว่าคุ้มสุด ๆ จากการได้สอบถามลูกค้าคนอื่น ๆ ที่มาจากพื้นที่อื่น โดยถามไปว่ารู้ได้อย่างไรว่าตรงนี้มีทุเรียนถูก ดี และอร่อย บ้างก็บอกว่า ขับรถผ่าน บ้างก็บอกว่าเห็นใน FB แต่ส่วนใหญ่จะตอบว่าเห็นจาก FB ทั้งนี้นอกเหนือจากความอร่อยของทุเรียน ที่ผู้เขียนได้รับประทานแล้ว ผู้เขียนก็มาได้มานั่งครุ่นคิดว่า โซเชียลมีเดียนี่แหล่ะ จะเป็นทางรอดของคนส่วนใหญ่ ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ได้ แต่เราจะนำมาใช้อย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเรา และสังคมของเราให้มากที่สุด ฝากท่านผู้อ่านช่วยคิด และนำมาบอกผู้เขียนด้วยนะครับ แล้วเจอกับ keereen ในบทความต่อไปน่ะครับ เป็นกำลังใจให้ keereen ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ภาพทั้งหมดโดย : keereen เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !