อาหาร เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวของแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย อาหารของคนภาคกลางและภาคเหนือจะมีรสชาติกลาง ๆ ไม่เผ็ดมาก ส่วนภาคใต้ ภาคอิสานมักจะมีรสชาติจัดจ้าน เผ็ด ออกไปทางเปรี้ยว และเค็ม นิยมกินกับข้าวเหนียว แต่ปัจจุบัน เริ่มหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น หลายบ้านกินข้าวสวย ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ร่วมด้วย ภาคอีสาน มีอาหารประจำท้องถิ่นอยู่มากมายหลายอย่าง ส่วนมากจะมีรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม และเผ็ด รสชาติ”แซบนัว”อย่าบอกใครเชียว ส้มตำ ปลาร้า เป็นเมนูอาหารประจำที่คนอิสานนิยมทำกินกันตอนเที่ยง เนื่องจากวัตถุดิบในการทำส้มตำ แต่ละบ้านสามารถปลูกเองได้ และน้ำปลาร้าที่เป็นเครื่องปรุงรสหลัก ในแต่ละครอบครัวจะนำปลาเล็กปลาน้อย เช่น ปลาหมอ ปลาดุก ปลาซิว มาหมักเอง ทำให้มีกันทุกบ้าน อีกหนึ่งเมนูที่หากินยาก จะมีเฉพาะหน้าร้อน ช่วงเดือน เมษายน ถึง พฤษภาคม ของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงที่มะม่วงสุกพอดี “มะม่วงน้อยบายโบก” ที่คนอิสานเรียก เมื่อผลสุกแล้วนำไปล้างให้สะอาด หลังจากนั้นตัดตรงหัว เอาเมล็ดออก นำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว ใส่เข้าไปจนเต็ม คลึงให้เข้ากับเนื้อมะม่วง บีบข้าวเหนียวออกแล้วเอาใส่ปากกินได้เลย มะม่วงน้อย 1 ลูกสามารถทำแบบนี้ซ้ำ 1-2 ครั้งได้ รสชาติหอม หวานมาก เห็นแล้วอยากกินขึ้นมาทันทีเลย ที่สำคัญหาซื้อตามท้องตลาดยากนะจะ ผักแคป่า เป็นผักที่คนอิสานนิยมนำมาลวกกิน โดยแกะเอาเกสรสีขาวข้างในดอกออกก่อนหลังจากนั้นนำมาลวกในน้ำเดือด ใช้เวลา 2-5 นาที นำมากินกับปุ่น คนภาคกลางเรียก" น้ำพริก" ผักแคป่าจะมีรสชาติขมเล็กน้อย คนสูงอายุภาคอิสานส่วนใหญ่นิยมกิน อีกหนึ่งเมนูที่อยากจะแนะนำ คือ “ข้าวจี่” เป็นอาหารยอดนิยมของคนอิสาน มักจะทำกินในฤดูหนาว เวลาเช้ามืดออกมานั้งผิงไฟ นำข้าวเหนียวโดยเฉพาะข้าวเหนียวที่พึ่งทำการเก็บเกี่ยวใหม่ ๆ เมื่อนำมาทำข้าวจี่ จะหอม หวานมาก โดยนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วมาหุ้มเข้ากับไม้ไผ่ โรยเกลือเล็กน้อยให้ทั่วข้าวเหนียว นำไปย่างเต่าถ่าน ไฟอ่อน ๆ หลังจากข้าวเหนียวเริ่มแห้ง มีสีเหลือง นำไข่ที่ตีแล้วมาทาให้รอบข้าวเหนียว ย่างไฟอ่อน ๆ ต่อจนไข่สุก นำมารับประทานร้อน ๆ ได้กลิ่นหอมของเต่าถ่าน บวกกับข้าวเหนียวใหม่ ยิ่งเพิ่มรสชาติข้าวจี่ให้ หอม หวาน อร่อยมาก เป็นไงบ้างคะ เห็นเมนูอาหารอิสานแล้วคิดถึงบ้านกันเลยใช่ไหมคะ