สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน กลับมาพบกับเมนูชวนหิวของทางภาคเหนืออีกหนึ่งเมนูนะคะ นั่นก็คือ แกงแคจิ้นหมูย่าง หรือเนื้อหมูย่าง ซึ่งจิ้นหมูย่างนั้นนับว่าเป็นการถนอมอาหารของทางภาคเหนือโดยการนำเนื้อหมูมาย่างไฟอ่อน ๆ เพื่อไล่น้ำที่อยู่ในเนื้อหมูออกมาให้เนื้อหมูค่อย ๆ สุกและแห้ง ทำให้เก็บเนื้อหมูไว้ได้นาน หากจะนำมาประกอบอาหารก็เพียงแค่ต้มหรือนึ่งเนื้อหมูก็จะอ่อนนิ่มลงแล้วค่ะ วิธีการนี้สามารถใช้ได้ก็เนื้อทุกชนิดเลยค่ะ วันนี้ผู้เขียนจึงอยากนำเสนอเมนูที่ มีเอกลักษณ์เฉพาะของทางภาคเหนือ คือแกงแคจิ้นหมูย่าง โดยนำสูตรและวิธีการทำมาฝากด้วย เชิญติดตามได้เลยค่ะ วัตถุดิบที่ต้องเตรียม 1. เนื้อหมูย่าง 2. ผักคัวแค ( มะเขือ มะเขือพวง ถั่วฝักยาว ใบพริก ใบชะพลู หอมแย้ ผักเผ็ด ชะอม ผักชีใบเลื่อย พริกสด) ส่วนผสมในการทำน้ำพริกแกง 1. พริกแห้ง 10 เม็ด 2. ข่าเหลืองแก่หั่นแว่น 7 แว่น 3. ตะไคร้ 1 ต้น 4. กระเทียม 10 กลีบ 5. มะแขว่น 15 เม็ด (เครื่องเทศของทางภาคเหนือ) 6. เกลือ 1 ช้อนชา 7. ปลาร้าสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 8. ข้าวคั่ว 1ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนและวิธีการทำ 1. นำจิ้นหมูย่างมาแช่น้ำประมาณ 5 นาที ล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วจึงหั่นเป็นชิ้นพักเอาไว้ก่อน 2. ผักคัวแค แยกผักที่สุกยากเช่น มะเขือ มะเขือพวง ถั่วฝักยาว หั่นแช่น้ำไว้ต่างหาก ส่วนผักที่สุกง่ายนำมาหั่นล้างน้ำให้สะอาดพักไว้ก่อน 3. ทำน้ำพริก โดยนำพริกแห้งมาคั่วให้กรอบใส่ลงในครก เติมเกลือ ข่าเหลืองแก่หั่นแว่น ตะไคร้ กระเทียม มะเเข่วนลงไปโขลกให้เข้ากัน จากนั้นจึงเติมปลาร้าสับลงไปโขลกให้เข้ากันอีกรอบ 4. เติมน้ำสะอาดใส่ในหม้อ นำขึ้นไปตั้งบนเตาไฟ ใส่น้ำพริกที่เตรียมไว้ลงไปรอให้น้ำเดือดจึงใส่จิ้นหมูย่างลงไป ใส่ข้าวคั่ว จากนั้นรอให้น้ำเดือดสักครู่ รอให้จิ้นหมูย่างคืนตัวจึงใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อนประมาณ 5 นาทีพอให้สุก แล้วใส่ผักที่สุกง่ายตามลงไป ใช้ทัพพีคนให้ทั่วจึงยกลงจากเตา ตักใส่ชามพร้อมรับประทานแล้วค่ะ ข้อแนะนำ ผักที่สุกง่ายส่วนใหญ่จะเป็นผักที่มีกลิ่นหอม นิยมใส่ตอนใกล้จะปิดเตาไฟเพื่อให้ผักคงกลิ่นหอมได้นาน เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะกับเมนู “แกงแคจิ้นหมูย่าง” ต้องบอกว่าเป็นเมนูที่มีผักเยอะมาก และผักแต่ละชนิดนั้นก็มีสรรพคุณเป็นยาด้วย ส่วนเรื่องรสชาตินั้นน้ำแกงจะมีหวานกลมกล่อมที่ออกมาจากเนื้อหมูและผัก โดยรวมแล้วอร่อยมากเลยค่ะ เมนูนี้ขึ้นชื่อของทางภาคเหนือ หากใครมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวอย่าลืมหาเมนูนี้รับประทานกันนะคะ ภาพประกอบบทความโดย ผู้เขียน