8 ทริคเลือกน้ำปลาร้าแบบขวด ดูยังไงดี มีคุณภาพ น่าซื้อมาใช้ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนยังไม่รู้ว่า น้ำปลาร้าที่เราชอบใช้ทำส้มตำกันนั้น เกิดจากกระบวนการหมักตามธรรมชาติ จนทำให้ปลาชนิดต่างๆ ข้าวคั่ว เกลือและอื่นๆ ที่นำมาหมักมีขนาดเล็กลง จนเราสามารถตักขึ้นมาประกอบอาหารได้ แล้วเราก็เรียกสิ่งนี้ว่า “น้ำปลาร้า” ซึ่งในปัจจุบันน้ำปลาร้าไม่ได้รู้จักเพียงแค่คนบางกลุ่มเท่านั้น และไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้เฉพาะในประเทศไทยอย่างเดียว เพราะคนในต่างประเทศเองหลายคนก็ส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำปลาร้าด้วยเหมือนกัน ดังนั้นพอพูดเรื่องน้ำปลาร้าขวด หลายคนน่าจะพอมองภาพออกกันบ้างว่ามีหน้าตาประมาณไหน? แต่คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า พอเราจะลงลึกในส่วนของแนวทางในการเลือกซื้อน้ำปลาร้าแบบมาในขวด ประเด็นนี้หลายคนยังงงอยู่และมองภาพไม่ออกเลย ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจึงมีเคล็ดลับดีๆ สำหรับเลือกน้ำปลาร้าแบบขวดมาบอกต่อค่ะ โดยเมื่ออ่านจบแล้ว คุณผู้อ่านจะเข้าใจมากขึ้นและมองภาพออกทันทีว่า น้ำปลาร้าสำเร็จรูปที่ใส่มาในขวดแบบไหนมีคุณภาพ แบบไหนควรหลีกเลี่ยง แบบไหนดีและน่าซื้อมาทำอาหาร และถ้าอยากรู้ว่ามีวิธีการอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใช้ งั้นเรามารู้ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อมูลที่น่าสนใจดีดังต่อไปนี้ 1. ดูที่ประเภทของปลาร้า การเลือกน้ำปลาร้าแบบขวดสิ่งแรกที่เราควรให้ความสำคัญ คือ ประเภทของปลาร้าที่ระบุอยู่บนฉลากค่ะ เพราะน้ำปลาร้าไม่ได้มีแค่รสชาติเดียว แต่ในปัจจุบันมีหลากหลายแบบให้เลือก เช่น ปลาร้าหอมจะมีกลิ่นไม่แรงมาก ที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย หรือชอบกลิ่นอ่อนๆ ส่วนปลาร้านัวจะมีรสชาติกลมกล่อม เค็มน้อย หวานหน่อย ซึ่งเป็นที่นิยมในการนำไปปรุงอาหารหลากหลายชนิด และถ้าใครชอบรสชาติเข้มข้น กลิ่นแรงถึงใจ ก็ต้องเลือกปลาร้าโหน่ง ซึ่งแต่ละประเภทก็จะให้กลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นการทำความเข้าใจและเลือกประเภทของปลาร้าให้ตรงกับความชอบและเมนูที่เราต้องการปรุง จะช่วยให้ได้น้ำปลาร้าที่ถูกใจและทำให้อาหารของเราอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ 2. สังเกตส่วนผสม หลายคนยังไม่รู้ว่า ส่วนผสมเหล่าบ่งบอกถึงคุณภาพและรสชาติของน้ำปลาร้าที่เรากำลังจะเลือกซื้อ ที่โดยทั่วไปแล้วส่วนผสมหลักๆ ที่ควรมีคือปลา เช่น ปลากะตัก ปลานิล หรือปลาชนิดอื่นๆ และเกลือ ซึ่งเป็นส่วนผสมพื้นฐานที่ให้รสชาติเค็มและกลิ่นหอมของปลาร้า นอกจากนี้บางยี่ห้ออาจมีการเติมส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ เช่น น้ำตาล ข้าวคั่ว หรือสมุนไพรต่างๆ การอ่านส่วนผสมจะช่วยให้เราทราบว่ามีอะไรอยู่ในขวดบ้าง ให้หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่เราไม่ต้องการ หรือเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมที่เราชื่นชอบ เพื่อให้ได้น้ำปลาร้าที่มีรสชาติถูกปากและมีคุณภาพดีที่สุดสำหรับการนำไปปรุงอาหารค่ะ 3. เลือกน้ำปลาร้าปรุงสุก เพราะอาหารสามารถเป็นสื่อของความเจ็บป่วยได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพื่อความมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยในการบริโภค คือ การเลือกน้ำปลาร้าที่ผ่านการปรุงสุกแล้วค่ะ เพราะว่ากระบวนการปรุงให้สุกมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนมาในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนเราได้ การเลือกน้ำปลาร้าปรุงสุกจึงเป็นการลดความเสี่ยงจากการได้รับจุลินทรีย์ และทำให้เราสามารถนำน้ำปลาร้าไปปรุงอาหารได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดมากนัก ดังนั้นการมองหาคำว่า "ปรุงสุก" หรือ "พาสเจอร์ไรซ์" บนฉลากผลิตภัณฑ์ จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษในการเลือกซื้อน้ำปลาร้าขวดค่ะ 4. พิจารณาสี อีกหนึ่งจุดสังเกตที่ช่วยให้เราประเมินคุณภาพเบื้องต้นได้ คือ การพิจารณาสีของน้ำปลาร้าค่ะ ปกติน้ำปลาร้าที่ดีควรมีสีน้ำตาลที่เป็นธรรมชาติ อาจจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม ขึ้นอยู่กับชนิดของปลาและกระบวนการผลิต แต่สิ่งที่ไม่ควรพบคือสีที่ใสจนผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งบอกว่ามีการเจือปนของน้ำมากเกินไป หรือสีที่คล้ำดำจนน่าสงสัย ซึ่งอาจเกิดจากการหมักที่ไม่ได้คุณภาพ หรือมีสิ่งแปลกปลอมปนเปื้อน ดังนั้นการสังเกตสีของน้ำปลาร้าในขวด จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นนะคะ 5. ดูความข้นหนืด บางคนอาจชอบน้ำปลาร้าที่มีลักษณะเหลวและใส คล้ายน้ำซุป ซึ่งเหมาะกับการนำไปปรุงรสแบบทั่วไปหรือใช้เป็นน้ำจิ้ม ในขณะที่บางคนอาจชอบน้ำปลาร้าที่มีความข้นหนืดเล็กน้อย มีตะกอนของเนื้อปลาอยู่บ้าง ซึ่งอาจให้รสชาติที่เข้มข้นและนัวมากขึ้น ความข้นหนืดจึงเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล และบ่งบอกถึงปริมาณเนื้อปลาที่ใช้ในการผลิต รวมถึงกรรมวิธีการหมักค่ะ ดังนั้นการสังเกตความข้นหนืดของน้ำปลาร้าในขวด จะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและลักษณะการนำไปปรุงอาหารของเราได้มากยิ่งขึ้น 6. ตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรละเลย คือ การตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุอยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์ค่ะ เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงความสดใหม่และคุณภาพของน้ำปลาร้า การเลือกซื้อขวดที่ผลิตใหม่ๆ และยังมีระยะเวลาหมดอายุเหลืออีกนาน จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าน้ำปลาร้ายังคงมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดี ไม่เสื่อมคุณภาพ หรือมีโอกาสปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเก็บไว้นานเกินไป ซึ่งการใส่ใจอ่านและตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุจึงเป็นขั้นตอนง่ายๆ แต่มีความสำคัญอย่างมากในการเลือกซื้อน้ำปลาร้าขวด เพื่อให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับการนำไปปรุงอาหารค่ะ 7. ดูบรรจุภัณฑ์ การพิจารณาบรรจุภัณฑ์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกันค่ะ เราควรเลือกขวดที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปิดสนิท ไม่มีรอยแตกร้าว หรือร่องรอยการเปิดมาก่อน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกภายนอก หรือการเสื่อมเสียของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ฉลากที่ติดอยู่บนขวดก็มีความสำคัญ ควรตรวจสอบว่าฉลากติดแน่น อ่านง่าย มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ครบถ้วน เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ส่วนผสม วิธีใช้ วันผลิต วันหมดอายุ และข้อมูลโภชนาการ (ถ้ามี) บรรจุภัณฑ์ที่ดีและมีฉลากที่ชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของผู้ผลิตต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเรากำลังเลือกซื้อน้ำปลาร้าที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการบริโภคค่ะ 8. อ่านรีวิว อีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจและช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คือ การอ่านรีวิวจากผู้บริโภคคนอื่นๆ ที่เคยลองใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ มาก่อนค่ะ ปกติรีวิวมักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับรสชาติ กลิ่น คุณภาพ และความคุ้มค่าของน้ำปลาร้ายี่ห้อต่างๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์จริงจากผู้ใช้งาน ทำให้เราเห็นภาพรวมและข้อดีข้อเสียของแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่ารสนิยมของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่การอ่านรีวิวจากหลายๆ แหล่ง จะช่วยให้เราได้ข้อมูลที่หลากหลายและสามารถนำมาประกอบการพิจารณา เลือกซื้อน้ำปลาร้าที่ตรงกับความชอบและตอบโจทย์การใช้งานของเราได้มากที่สุดค่ะ และนั่นคือตัวช่วยทั้ง 8 ข้อที่สำคัญๆ ค่ะ จะเห็นได้ว่านอกจากเราจะเลือกยี่ห้อที่เราอยากจะซื้อแล้ว เรายังต้องให้ความสำคัญในอีกหลายๆ เรื่องด้วย เช่น วันหมดอายุ สภาพของบรรจุภัณฑ์และสีของน้ำปลาร้าขวดแบบสำเร็จรูป ซึ่งแนวทางทั้งหมดนี้โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนก็นำมาใช้ด้วยเหมือนกันค่ะ ที่มักดูสีของน้ำปลาร้าในขวดก่อนเสมอกับตะแคงขวดไปมาเพื่อดูความหนืด เพราะไม่ชอบที่มีสีเข้มเกินไปและข้นเกินไปค่ะ และแน่นอนว่าเรื่องวันหมดอายุก็ไม่ลืมดู ซึ่งเคล็ดลับทั้ง 8 ข้อ ไม่ได้ยากจนเกินไปที่จะนำไปใช่ไหมคะ? และอ่านมาตรงนี้แล้วคุณผู้อ่านคงพอจะมองภาพออกกันบ้างแล้วนะคะ ก็อย่างที่ผู้เขียนได้พูดย้ำเสมอๆ ค่ะว่า อาหารสามารถเป็นสื่อของความเจ็บป่วยได้ ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญในการเลือกอาหารค่ะ และน้ำปลาร้าขวดเป็นสินค้าอีกหนึ่งชนิดที่คนนิยมมากในปัจจุบัน และถึงแม้ว่าน้ำปลาร้าขวดจะมาแบบสำเร็จรูปแล้วก็ตาม แต่เรายังต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมด้วยเคล็ดลับข้างต้นค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและหน้าปกโดยผู้เขียน ออกแบบใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน วิธีเลือกเส้นขนมจีน ทำใหม่ แบบไหนสะอาด น่าทาน 11 วิธีเลือกแคบหมูใหม่ ไม่เหม็นหืน ดูยังไงดี และน่าซื้อ 10 เคล็ดลับเลือกมะเขือเทศ สดใหม่ และไม่เน่าเสีย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !