10 วิธีเก็บข้าวเหนียวนึ่งแล้ว แบบไม่มีกระติบข้าว ทำยังไงดี กดอ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล สำหรับหลายคนที่ชอบกินข้าวเหนียว แต่ไม่มีกระติบข้าวคู่ใจ อาจจะกังวลว่าแล้วจะเก็บข้าวเหนียวที่นึ่งมาใหม่ๆ ยังไงดี? ให้ยังคงความนุ่มอร่อยได้นานโดยไม่แข็งกระด้าง ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ก็มีหลากหลายวิธีที่เข้ามาทดแทนกระติบข้าวได้เป็นอย่างดีนะคะ เพราะกระติบข้าวอาจจะไม่ใช่ของที่ทุกคนมีติดบ้านเสมอไป ดังนั้นทริคในการเก็บข้าวเหนียวนึ่งแบบอื่น จึงมีบทบาทสำคัญที่เราต้องรู้ไว้นะคะ เพราะแต่ละวิธีต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป ในบางวิธีอุปกรณ์ก็หาได้ง่ายและใช้งานสะดวกกว่าการใช้กระติบข้าว แถมยังช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วย และไม่ว่าจะเป็นการเก็บไว้กินคนเดียว เก็บไว้กินทั้งครอบครัว หรือแม้แต่การเก็บไว้กินนานๆ เป็นเดือนๆ เลยค่ะ โดยในบางวิธียังช่วยให้ข้าวเหนียวของเราไม่เสียง่ายอีกด้วย ที่ไม่ว่าจะมีกระติบข้าวหรือไม่ เราก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับข้าวเหนียวที่นึ่งมาใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่รู้จักเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของเรา ยิ่งสำหรับคนที่พักอาศัยในคอนโดหรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัดด้วยแล้ว การใช้วิธีอื่นๆ ก็จะช่วยให้ง่ายขึ้นและกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ และต่อไปนี้คือวิธีเก็บข้าวเหนียวแบบไม่ง้อกระติบข้าวนะคะ 1. ใช้ถุงพลาสติกที่เรียกว่า “ถุงแกง” คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การเก็บข้าวเหนียวนึ่งด้วยถุงแกงนั้น เป็นวิธีที่ง่ายและเป็นที่นิยมมากในบ้านเราค่ะ เพราะหาซื้อง่ายและใช้งานสะดวก แต่เคล็ดลับสำคัญที่หลายคนมองข้ามก็คือ เราต้องรอให้ข้าวเหนียวคลายความร้อนลงเล็กน้อยก่อนนำไปใส่ถุง เพื่อป้องกันไม่ให้ไอน้ำที่เกิดจากความร้อนไปเกาะข้างในถุง จนทำให้ข้าวแฉะและเสียเร็วเกินไปนะคะ จากนั้นก็มัดปากถุงให้แน่นสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปทำให้ข้าวแข็งกระด้าง ส่วนตอนนำมาอุ่นซ้ำก็ง่ายมาก แค่พรมน้ำเล็กน้อยแล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟหรือนึ่งอีกครั้ง เพียงเท่านี้ข้าวเหนียวก็จะกลับมานุ่มเหมือนเดิม สำหรับถุงแกงที่เหมาะสมกับการเก็บข้าวเหนียวนั้น ควรเลือกใช้ถุงพลาสติกแบบใสที่ทนความร้อนได้ระดับหนึ่ง และต้องเป็นถุงที่สะอาด ไม่มีกลิ่นแปลกปลอม เพื่อให้ข้าวเหนียวของเรายังคงความอร่อยและปลอดภัยต่อการบริโภคค่ะ ซึ่งการเก็บข้าวเหนียวในถุงแกงเหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและประหยัดพื้นที่ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยในหอพัก คอนโด หรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด เพราะถุงแกงมีขนาดเล็กและไม่กินพื้นที่ในการจัดเก็บ และยังเหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายข้าวเหนียวเป็นประจำ เพราะสามารถแบ่งข้าวใส่ถุงเพื่อเตรียมขายหรือเก็บไว้ได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ชอบทำข้าวเหนียวกินเองที่บ้าน เพราะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์เพิ่ม เพียงแค่มีถุงแกงที่สะอาดก็สามารถเก็บข้าวเหนียวให้นุ่มอร่อยได้นานขึ้นแล้วค่ะ 2. วางไว้ในถาดที่คลุมด้วยฝาชี หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า การเก็บข้าวเหนียวนึ่งด้วยวิธีวางในถาดแล้วคลุมด้วยฝาชี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ได้มีกระติบข้าวโดยเฉพาะ สำหรับวิธีนี้ก่อนเก็บควรพักข้าวเหนียวที่นึ่งเสร็จแล้วให้คลายความร้อนลงเล็กน้อยนะคะ จากนั้นนำไปเกลี่ยในถาดให้กระจายตัว แล้วใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ คลุมข้าวไว้ก่อนที่จะใช้ฝาชีครอบอีกทีหนึ่งค่ะ วิธีนี้ช่วยรักษาความชื้นและป้องกันไม่ให้ข้าวแห้งแข็งได้เป็นอย่างดี หลังเก็บหากจะนำข้าวเหนียวมารับประทานอีกครั้ง ก็เพียงแค่นำไปอุ่นหรือนึ่งซ้ำได้เลย วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่นึ่งข้าวเหนียวครั้งละมากๆ หรือผู้ที่ต้องเตรียมอาหารสำหรับหลายคน และเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่วางถาด เพราะฝาชีจะช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและแมลงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ข้าวเหนียวคงความสะอาดและนุ่มอร่อยได้นานขึ้นด้วยค่ะ 3. เลือกใช้กล่องพลาสติกแบบมีฝาปิด รู้ไหมคะว่าการเก็บข้าวเหนียวนึ่งด้วยกล่องพลาสติกแบบมีฝาปิด ก็เป็นอีกวิธีที่สะดวกและทันสมัย ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจัดระเบียบและรักษาความสะอาดได้แบบง่ายๆ ซึ่งให้รอข้าวเหนียวคลายความร้อนลงเล็กน้อยนำไปใส่ในกล่อง แล้วปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันอากาศเข้า ซึ่งจะช่วยคงความนุ่มของข้าวได้นานขึ้น และยังช่วยให้ข้าวไม่ถูกกดทับจนแบนเสียรูปทรงอีกด้วย หลังเก็บหากต้องการอุ่นข้าว ก็เพียงแค่พรมน้ำเล็กน้อยแล้วนำเข้าไมโครเวฟได้เลยค่ะ วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือหอพัก เพราะกล่องพลาสติกสามารถวางซ้อนกันได้ ช่วยประหยัดพื้นที่ และยังเหมาะกับคนที่ต้องพกอาหารไปกินนอกบ้าน เพราะกล่องพลาสติกมีฝาปิดแน่นหนา ป้องกันการหกเลอะเทอะได้ดี สำหรับการเลือกกล่อง ควรเลือกกล่องพลาสติกที่ทำจากวัสดุเกรดที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (Food Grade) และสามารถเข้าไมโครเวฟได้ เพื่อความปลอดภัยและสะดวกในการใช้งานค่ะ 4. เก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า การเก็บข้าวเหนียวนึ่งไว้ในช่องแช่แข็ง เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ชอบซื้อหรือนึ่งข้าวเหนียวครั้งละมากๆ แล้วอยากเก็บไว้กินได้นานเป็นเดือนๆ ค่ะ โดยก่อนเก็บให้รอให้ข้าวเหนียวเย็นสนิทก่อน แล้วแบ่งเป็นก้อนๆ ขนาดพอดีมื้อ โดยให้ใส่ในถุงซิปล็อกหรือกล่องพลาสติกสำหรับแช่แข็ง แล้วไล่อากาศออกให้หมดก่อนปิดให้สนิท วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ข้าวแข็งเป็นก้อนและเกิดผลึกน้ำแข็งได้ และเมื่อจะนำมารับประทานก็ง่ายมาก เพียงแค่นำข้าวเหนียวออกมาจากช่องแช่แข็งแล้วรอให้คลายเย็น จากนั้นนำไปนึ่งซ้ำหรือพรมน้ำแล้วอุ่นในไมโครเวฟ ข้าวก็จะกลับมานุ่มและหอมเหมือนเพิ่งนึ่งใหม่ๆ เลยค่ะ วิธีนี้เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาทำอาหารบ่อยๆ หรือคนที่ซื้อข้าวเหนียวจากร้านมาเป็นจำนวนมาก เพราะช่วยให้มีข้าวเหนียวพร้อมรับประทานได้ทุกเมื่อ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อหรือนึ่งใหม่บ่อยๆ ค่ะ 5. ใช้กระดาษห่ออาหารมาห่อ อีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การเก็บข้าวเหนียวนึ่งด้วยกระดาษห่ออาหาร (Food Wrap) ค่ะ ซึ่งเป็นวิธีที่เน้นความสะอาดและรวดเร็ว โดยก่อนจะเก็บด้วยแนวทางนี้ ให้รอข้าวเหนียวคลายความร้อนก่อน แล้วนำมาวางบนกระดาษห่ออาหาร จากนั้นห่อให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปสัมผัสกับข้าวโดยตรงนะคะ ซึ่งจะช่วยกักเก็บความชื้นและคงความนุ่มไว้ได้ดีกว่าการวางทิ้งไว้เฉยๆ หลังเก็บ หากจะนำข้าวเหนียวมารับประทานก็แค่แกะห่อออก แล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟหรือนึ่งซ้ำได้เลย วิธีนี้เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวก หรือคนที่ทำข้าวเหนียวเป็นประจำในปริมาณไม่มาก และยังเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการเตรียมข้าวเหนียว เพื่อนำไปทำเป็นอาหารอื่นๆ อย่างเช่นข้าวเหนียวมะม่วง เพราะสามารถห่อข้าวเป็นก้อนๆ ได้อย่างสวยงามและเป็นระเบียบ แต่สิ่งสำคัญคือควรเลือกใช้กระดาษห่ออาหารที่เหนียวและยืดหยุ่นได้ดี เพื่อให้ห่อข้าวได้แน่นหนาและไม่ขาดง่ายค่ะ 6. นำผ้าขาวบางหรือผ้าฝ้ายมาเก็บ คนไทยหลายคนอาจจะพอรู้มาบ้างแล้วว่า การเก็บข้าวเหนียวนึ่งด้วยการห่อด้วยผ้าขาวบางหรือผ้าฝ้าย เป็นวิธีแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมานานและได้ผลดีมากๆ ค่ะ ซึ่งก่อนจะเก็บก็เหมือนเดิม คือ ต้องให้รอข้าวเหนียวคลายความร้อนลงเล็กน้อยก่อน จากนั้นนำผ้าขาวบางหรือผ้าฝ้ายที่สะอาดและชุบน้ำบิดหมาดๆ มาห่อข้าวเหนียวให้มิดชิด และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ความชื้นจากผ้าจะช่วยให้ข้าวไม่แข็งกระด้างและคงความนุ่มไว้ได้ดี และหากจะนำมารับประทานก็แค่แกะห่อออก แล้วนำไปอุ่นหรือนึ่งซ้ำได้เลย วิธีนี้เหมาะกับคนที่ชอบทำข้าวเหนียวกินเองที่บ้าน และผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก เพราะนอกจากจะช่วยคงความอร่อยของข้าวแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการใช้ถุงพลาสติกอีกด้วย แต่ก็ต้องหมั่นสังเกตดูว่าผ้ายังชื้นอยู่หรือไม่ ถ้าผ้าแห้งไปก็อาจจะต้องพรมน้ำเพิ่มเล็กน้อย เพื่อรักษาความชื้นให้ข้าวเหนียวอยู่เสมอค่ะ 7. เก็บในหม้อหุงข้าวไฟฟ้ในบ้าน อีกหนึ่งวิธีการที่หลายคนยังมองภาพไม่ออก คือ การเก็บข้าวเหนียวนึ่งไว้ในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าค่ะ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกมากๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบกินข้าวเหนียวแบบอุ่นๆ ตลอดเวลา และการเก็บนั้นก็ง่ายมาก เหมือนเดิมค่ะ ก่อนเก็บหลังจากนึ่งเสร็จแล้ว ให้พักข้าวเหนียวไว้ให้คลายความร้อนสักครู่ก่อน แล้วนำไปใส่ในหม้อหุงข้าว จากนั้นกดปุ่ม "อุ่น" (Warm) ไว้ ความร้อนจากหม้อจะช่วยคงความนุ่มและอุณหภูมิของข้าวไว้ได้นานหลายชั่วโมง หลังเก็บผ่านไปก็สามารถตักข้าวออกมารับประทานได้เลยโดยไม่ต้องอุ่นซ้ำ แต่มีข้อควรระวังคือไม่ควรแช่ข้าวทิ้งไว้นานเกินไป โดยคำว่า “ไม่ควรแช่ข้าวทิ้งไว้นานเกินไป” นั้น ผู้เขียนหมายถึง ไม่ควรทิ้งข้าวเหนียวไว้นานจนเกินไปข้างนอก หลังจากที่นึ่งข้าวสุกแล้ว ก่อนที่จะนำไปไปเก็บในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าค่ะ เพราะถ้าทิ้งไว้นานเกินไป ความร้อนจะทำให้ข้าวแห้งแข็งและไม่อร่อยเหมือนเดิมค่ะ โดยวิธีนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเก็บข้าวเหนียวในระยะสั้นๆ เพื่อรับประทานภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือร้านอาหารที่ต้องมีข้าวเหนียวพร้อมขายอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นวิธีที่ช่วยรักษาคุณภาพของข้าวเหนียวได้ดีที่สุดในระยะเวลาสั้นๆ ค่ะ 8. ตัดใบตองมาเก็บข้าวเหนียวนึ่งแทน หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วการเก็บข้าวเหนียวนึ่งด้วยใบตองนั้น เป็นภูมิปัญญาแบบไทยๆ ที่นอกจากจะช่วยคงความนุ่มของข้าวได้เป็นอย่างดี วิธีนี้ยังเพิ่มกลิ่นหอมชวนกินได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ เหมือนเดิมก่อนเก็บให้รอข้าวเหนียวคลายความร้อนลงเล็กน้อย แล้วนำมาห่อด้วยใบตองที่ล้างสะอาดและเช็ดให้แห้ง จากนั้นมัดหรือพับให้แน่น เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปทำให้ข้าวแห้ง หลังเก็บผ่านไปถ้าข้าวเหนียวเริ่มเย็นและแข็งไปบ้าง ก็สามารถแกะห่อออกแล้วนำไปอุ่นหรือนึ่งซ้ำได้เลยค่ะ วิธีนี้เหมาะกับคนที่ชอบความหอมแบบดั้งเดิม และคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก ซึ่งนอกจากจะได้ข้าวเหนียวที่อร่อยและหอมเป็นพิเศษแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ก็ต้องหมั่นสังเกตดูว่าใบตองยังสดอยู่หรือไม่ ถ้าเริ่มแห้งหรือเปลี่ยนสีก็ควรเปลี่ยนห่อใหม่ เพื่อรักษาคุณภาพของข้าวเหนียวให้ดีที่สุดค่ะ 9. เก็บในภาชนะเคลือบดินเผาหรือเซรามิก น้อยคนจะรู้ว่า การเก็บข้าวเหนียวนึ่งไว้ในภาชนะเคลือบดินเผาหรือเซรามิก เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้กระติบข้าวค่ะ โดยวิธีนี้ก่อนเก็บควรพักข้าวเหนียวให้คลายความร้อนลงเล็กน้อย แล้วนำไปใส่ในภาชนะที่เรามีได้เลน จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดคลุมปากภาชนะไว้ก่อนปิดฝา วิธีนี้จะช่วยกักเก็บความร้อนและความชื้นได้ดี ทำให้ข้าวเหนียวคงความนุ่มได้นานกว่าการวางทิ้งไว้เฉยๆ หลังเก็บหากข้าวเริ่มเย็นและต้องการอุ่นใหม่ ก็สามารถนำไปนึ่งหรืออุ่นในไมโครเวฟได้ตามปกติ ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับคนที่รักงานหัตถกรรม และผู้ที่ต้องการภาชนะที่สวยงาม เพื่อใช้ตกแต่งบ้านไปในตัว เพราะนอกจากจะช่วยเก็บข้าวเหนียวได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ภาชนะเหล่านี้ยังเพิ่มความสวยงามให้กับครัวหรือโต๊ะอาหารของเราได้อีกด้วยค่ะ แต่ควรเลือกภาชนะที่ไม่มีรอยร้าวและสะอาดอยู่เสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของอาหารนะคะ 10. ใช้กระเป๋าเก็บอุณหภูมิร่วมกับวิธีอื่น การเก็บข้าวเหนียวนึ่งไว้ในกระเป๋าเก็บอุณหภูมิ เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ได้ดีเลยค่ะ เช่นกันก่อนเก็บให้รอข้าวเหนียวคลายความร้อนลงเล็กน้อย แล้วนำไปใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดหรือห่อด้วยกระดาษห่ออาหารก่อนก็ ได้ จากนั้นจึงนำไปใส่ในกระเป๋าเก็บอุณหภูมิอีกที วิธีนี้จะช่วยคงความร้อนของข้าวเหนียวได้นานหลายชั่วโมง ทำให้เรามีข้าวเหนียวอุ่นๆ พร้อมกินได้ทุกที่ หลังเก็บถ้าข้าวเหนียวเริ่มเย็นลงแล้ว ก็แค่นำไปอุ่นซ้ำในไมโครเวฟหรือนึ่งอีกครั้งก็ได้ค่ะ วิธีนี้เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไปทำงานหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน และผู้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพาอาหาร เพราะกระเป๋าเก็บอุณหภูมิจะช่วยให้ข้าวเหนียวของเราไม่เสียเร็ว และยังคงความอร่อยได้นานขึ้นอีกด้วย แต่ควรเลือกกระเป๋าที่ทำความสะอาดง่าย และนำภาชนะหรือห่อข้าวออกจากกระเป๋าทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นอับนะคะ และนั่นคือทางออกของคนที่ไม่มีกระติบข้าวค่ะ พอจะได้ไอเดียในการเก็บข้าวเหนียวแล้วใช่ไหมคะ? แล้วเลือกถูกไหมว่าอย่างเราต้องใช้วิธีการไหน ถ้ายังมองไม่ออกมากนัก ลองอ่านในสรุปตอนท้ายนี้อีกสักหน่อยค่ะ เผื่อว่าจะมองเห็นภาพมากขึ้นไปอีก ที่โดยสรุปแล้วการเลือกวิธีเก็บข้าวเหนียวนึ่งที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดนั้น จริงๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างนะคะ ทั้งลักษณะการใช้ชีวิต ความถี่ในการรับประทาน และระยะเวลาที่ต้องการเก็บ โดยหลักการง่ายๆ คือ ถ้าต้องการเก็บไว้กินในระยะสั้นๆ เช่น 1-2 วัน วิธีอย่างการใช้ผ้าขาวบางห่อหรือเก็บในกล่องพลาสติกก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบนึ่งข้าวเหนียวทีละเยอะๆ แล้วอยากเก็บไว้กินได้นานเป็นเดือน การเก็บในช่องแช่แข็งก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด ส่วนใครที่ชอบความสะดวกสบายและต้องพกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ การใช้กระเป๋าเก็บอุณหภูมิก็จะช่วยให้ข้าวเหนียวคงความอุ่นและอร่อยได้นานขึ้นนะคะ ดังนั้นหากเราเป็นคนที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ และต้องการนำข้าวเหนียวที่นึ่งแล้วติดตัวไปด้วย วิธีที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์นี้ คือ การเก็บในกระเป๋าเก็บอุณหภูมิค่ะ เพราะกระเป๋าประเภทนี้จะช่วยรักษาอุณหภูมิของข้าวเหนียวได้เป็นอย่างดี ทำให้ข้าวไม่เย็นชืดหรือเสียเร็วจนเกินไประหว่างการเดินทาง ก่อนนำไปใส่กระเป๋าก็ให้พักข้าวเหนียวให้คลายความร้อนลงเล็กน้อยก่อน แล้วนำไปห่อด้วยกระดาษห่ออาหารหรือใส่ในกล่องพลาสติกก่อน เพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะและช่วยรักษาความสะอาดด้วย เมื่อเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว หากข้าวเหนียวที่เหลือยังอุ่นอยู่ก็สามารถนำออกมาวางไว้ในอุณหภูมิห้องได้ แต่ถ้าข้าวเย็นแล้วและยังเหลืออีกเยอะ ก็ควรนำไปเก็บในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งตามระยะเวลาที่ต้องการเก็บค่ะ ซึ่งการเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์แบบนี้ จะช่วยให้เรามีข้าวเหนียวที่อร่อยและปลอดภัยต่อการบริโภคอยู่เสมอ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขอนามัยมากนักค่ะ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะมีข้าวเหนียวที่นึ่งแล้วมากเกินกว่าที่กระติบข้าวที่มีอยู่จะสามารถใส่ได้ ที่บ่อยครั้งเกิดจากที่แช่ข้าวสารก่อนนำมานึ่งมากเกินไป และในบางครั้งได้ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้วจากงานบุญต่างๆ แบบนี้ก็แน่นอนว่าเราจะต้องหาทางจัดการค่ะ โดยแนวทางที่ผู้เขียนใช้บ่อยๆ เลยนั้น คือ การเก็บข้าวเหนียวในตู้เย็นช่องธรรมดา หากต้องการนำมานึ่งซ้ำหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่งแนวทางนี้ผู้เขียนมักใช้กับข้าวเหนียวที่ได้มาจากงานบุญต่างๆ เพราะข้าวเหนียวจากสถานการณ์นี้มักถูกใส่มาในถุงแกงนะคะ สำหรับที่บ้านหากมีข้าวเหนียวนึ่งเยอะ และไม่มีกระติบข้าวเพียงพอ ผู้เขียนเลือกใช้กล่องที่มีฝาปิดหรือภาชนะที่มีฝาปิดมาเก็บค่ะ โดยตอนจะนำมารับประทานจะเลือกข้าวเหนียวจากที่ไม่ได้เก็บในกระติบข้าวก่อนรับประทานเสมอ สำหรับการพกข้าวเหนียวนึ่งไปบนรถในระหว่างเดินทางนั้น จริงๆ ผู้เขียนได้ทำมาบ้างเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะตอนไปต่างจังหวัด เพื่อไปตรวจสอบการทำงานของระบบบำบัดน้ำเสียตามที่ต่างๆ ซึ่งจากที่มีประสบการณ์ผ่านมานั้น กล่องสำหรับใส่อาหารแบบมีฝาปิด ก็ใช้ได้ดีและเหมาะสม สำหรับพกข้าวเหนียวนึ่งไปรับประทานในมื้อถัดไปแล้วค่ะ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณผู้อ่านมีภาชนะอะไรอยู่ หรือรูปแบบการใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวนึ่งแล้วเป็นแบบไหน ยังไงนั้นก็ลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ ก่อนนำไปปรับใช้ค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #วิธีเก็บข้าวเหนียว #สุขาภิบาลอาหาร #ข้อควรรู้เรื่องอาหาร #FoodSanitation เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 8 ทริคล้างข้าวเหนียว เตรียมก่อนนำไปแช่และนึ่ง ควรทำแบบไหนดี 9 ทริคเลือกข้าวเหนียวเขี้ยวงู แบบไหนดี หอมนุ่ม นิ่มและอร่อย 8 ทริคเลือกซื้อหวดนึ่งข้าว ทำจากไม้ไผ่ แบบไหนดี มีคุณภาพ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !